สงกรานต์นี้เช่ารถบัสไปเที่ยวไหนดีที่ภาคกลาง
สารบัญเนื้อหา
ต่อจากบทความก่อนหน้านี้ สำหรับใครที่มีวันหยุดยาวอยากท่องเที่ยว แต่ไม่อยากไปที่ไหนไกลๆ ซึ่งนอกจากทะเลแล้วหลายคนก็มักจะนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่ไกลๆ ซึ่งมีให้เลือกมากมาย แต่สำหรับใครที่ไม่ใช่สายท่องเที่ยวแต่อยากไปเที่ยวแบบลุยๆ วันนี้ DASH MV ได้จัดทริปท่องเที่ยวสั้นๆ อยู่ในภาคกลางสามารถเช่ารถบัสทริปสั้นๆ ไปเที่ยวได้ไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าใครหลายคนจะต้องได้ความประทับใจกลับมาอย่างแน่นอน
ทริปท่องเที่ยวสงกรานต์ ภาคตะวันออก
ทริปท่องเที่ยวสงกรานต์ ภาคกลาง 2 วัน 1 คืน
โปรแกรมการท่องเที่ยววันที่ 1
ออกเดินทางจากกรุงเทพมุ่งหน้าสู่จังหวัดอ่างทอง โดยเช่ารถบัสปรับอากาศ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 – 2 ชั่วโมง ซึ่งระหว่างทางสามารถ เล่นเกมบนรถบัส เพื่อแก้เบื่อๆ ได้
สถานที่แรกที่จะเดินทางไป คือ วัดสังกระต่าย ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว UNSEEN ของจังหวัดอ่างทอง โดยวัดนี้มีอายุกว่า 400 ปี มีโบสถ์เก่าแก่ที่มีรากของต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ขึ้นปกคลุมรอบโบสถ์ 4 ต้น รวมไปถึงปกคลุมภายในโบสถ์ด้วย พร้อมสักการะหลวงพ่อวันดี หลวงพ่อศรี และหลวงพ่อสุข เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันสงกรานต์
หลังนั้นนั่งรถบัสเช่าเดินทางไปต่อที่ วัดม่วง เพื่อสักการะขอพร หลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ตามความเชื่อของชาวบ้านที่มาสักการะเชื่อกันว่า ต้องสัมผัสที่นิ้วขององค์พระ เพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ในวัดยังมีสวนนรก สวรรค์ แบบจำลองตัวละครในวรรณคดีไทยหลายเรื่อง จัดแสดงไว้ในสวน โดยมีป้ายคำสอนต่างๆ แปะไว้อีกด้วย
หลังออกจากวัดม่วงก็ออกเดินทางไปที่ วัดขุนอินทประมูล ถ้าพูดถึงจังหวัดอ่างทองต้องมากราบไหว้พระวัดขุนอินทประมูล เพราะวัดโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย ประดิษฐานพระนอนขนาดใหญ่เป็นพระพุทธไสยาสน์ที่ใหญ่และยาวเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย เหมาะแก่การเดินทางมากราบไหว้ขอพรเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต
หลังจากนั้นเดินทางไปจังหวัดต่อไป คือ จังหวัดสิงห์บุรี เดินทางไปยัง วัดพิกุลทอง เพื่อสักการะพระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี หรือ “หลวงพ่อใหญ่” พระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อแพที่จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติและเครื่องอัฐบริขารของหลวงพ่อแพตั้งแต่ในอดีตถึงใน
ปัจจุบัน นอกจากนี้บริเวณด้านหลังของพระพิฆเนศ องค์ขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่กลางน้ำ โดยทางวัดจะมีสะพานไว้ เพื่อให้สามารถเดินเข้าไปกราบไหว้บูชาได้
เดินทางต่อไปไม่ไกลจากวัดพิกุลทอง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที ก็ถึง ตลาดไทยย้อนยุคบางระจัน ที่ตั้งอยู่ภายในวัดโพธิ์เก้าต้น โดยวัดโพธิ์เก้าต้นเป็นวัดที่สำคัญ จะมีคนแวะเวียนมาไหว้พระทำบุญไม่ขาดสาย มีการจัดแต่งซุ้มจำหน่ายสินค้าด้วยวัสดุธรรมชาติในรูปแบบพื้นบ้านให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ชาวบ้านจะแต่งตัวย้อนยุคมานั่งจำหน่ายสินค้า ทำให้บรรยากาศยิ่งคล้ายกับตลาดในยุคโบราณอีกด้วย
เดินทางไปกลับไปที่พักเพื่อพักผ่อน ตามอัธยาศัย เตรียมลุยต่อในเช้าวันต่อไป
สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล
โปรแกรมการท่องเที่ยววันที่ 2
เดินทางออกจากที่พักไปยัง วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ที่สันนิษฐานว่า สร้างในสมัยก่อนกรุงศรีอยุธยา โดยภายในวิหารจะมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่มีขนาดใหญ่และยาวที่สุดในเมืองไทยประดิษฐานอยู่ ปัจจุบันพระพุทธรูปองค์นี้ก็ยังคงเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสิงห์บุรี ใครที่แวะเวียนมาที่จังหวัดสิงห์บุรี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ควรต้องมากราบไหว้ขอพรกัน
หลังจากสักการะพระพุทธรูปปางไสยาสน์แล้วก็เดินทางต่อไปที่จังหวัดอยุธยา สถานที่แรกที่จะไป คือ วัดใหญ่ไชยมงคล วัดที่เก่าแก่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น เป็นวัดมีความสำคัญทางประวัติศาตร์มากที่สุด มีเรื่องราวทางประวัติศาตร์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา รวมไปถึงสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นอย่างเจดีย์ชัยมงคลที่สูงที่สุดในอยุธยา นอกจากนี้ภายในพระอุโบสถยังประดิษฐานพระพุทธชัยมงคล พระประธานที่เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของวัด มากราบไหว้ขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล
หลังจากนั้นนั่งรถบัสไปอีกประมาณ 5 นาที เพื่อเดินทางไปยัง วัดพนัญเชิงวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และสำคัญวัดหนึ่งของอยุธยา มีจุดโดดเด่นที่สำคัญ คือ มีหลวงพ่อโตหรือเจ้าพ่อซำปอกงประดิษฐานอยู่ ซึ่งถือว่า เป็นพระพุทธรูปสมัยอยุธยาที่ขนาดใหญ่สุดในประเทศไทย โดยว่ากันว่า หากใครได้มาสักการะองค์หลวงพ่อโต และถวายผ้าห่มองค์พระที่วัดพนัญเชิงจะถือเป็นการทำบุญครั้งใหญ่
หลังจากสักการะหลวงพ่อโตเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางมาพักผ่อนที่ ร้านบ้านข้าวหนม คาเฟ่ขนมไทยที่มีบรรยากาศในร้านแบบผสมผสานระหว่างยุค โดยร้านบ้านข้าวหนมเน้นขายขนมหวานแบบไทยๆ เสิร์ฟคู่กับเครื่องดื่มที่ปรุงแต่งแบบทันสมัย สามารถมาถ่ายรูปเล่น นั่งจิบกาแฟ คู่กับขนมไทยโบราณได้เหมือนกัน นอกจากนี้ยังสามารถซื้อขนมไทยเป็นของฝากไปฝากเพื่อนหรือคนในครอบครัวได้อีกด้วย
หลังจากพักผ่อนเรียบร้อย ก็เดินทางต่อไปที่ วัดไชยวัฒนาราม ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ในสมัยอยุธยาตอนปลายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ โดยสถาปัตยกรรมการก่อสร้างไม่เหมือนวัดอื่นในอยุธยา บางส่วนรับอิทธิพลมาจากศิลปะขอม โดยจำลองมาจากปราสาทนครวัด
หลังจากนั้นก็เดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
ตามอ่านทริปท่องเที่ยว ว่าจะไปภาคไหนต่อได้ที่นี้
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างกับทริปภาคกลางสั้นๆ นี้ หวังว่าในหน้าร้อนนี้ ใครที่วางแผนเช่ารถบัสไปเที่ยวจะได้รับความสุข ความสนุกกลับมานะ
หากใครที่สนใจใช้บริการเช่ารถบัส ของ DASH MV ได้ที่เบอร์ 092-185 6699 หรือ LINE: @DASHMV ซึ่งจะทำให้การเดินทางของคุณจะปลอดภัยและสบายใจได้อย่างแน่นอน เพราะความปลอดภัยถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
DASH MV
สำหรับผู้ที่สนใจ
ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน
