fbpx

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน แช่น้ำพุร้อน ชมดอกไม้ รับลมหนาว

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน

มาถึงวันนี้ ประเทศไทยก็เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะพื้นที่ตอนบนของประเทศที่เริ่มรู้สึกถึงอากาศที่เย็นสบายกันบ้างแล้ว แน่นอนว่าอากาศหนาว ๆ แบบนี้ ใครหลายคนคงอยากออกเดินทางขึ้นเหนือไปสัมผัสบรรยากาศดี ๆ ซึ่งมีอยู่หนึ่งสถานที่ที่อยากจะชวนทุกคนไปเจอกับความสวยงามแบบที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

นั่นก็คือ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ห่างจากตัวเมืองลำปางประมาณ 70 กิโลเมตร ความพิเศษของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ไม่เพียงอยู่ที่ธรรมชาติบริสุทธิ์แล้ว ที่นี่ยังได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังเป็นสถานที่ดำเนินงานตามแนวพระราชดำรัสในการใช้พลังงานน้ำธรรมชาติมาประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่จะได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงฤดูหนาวซึ่งบรรยากาศสวยที่สุด นักท่องเที่ยวจึงมักจับจองบ้านพักกันจนเต็ม อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนมีสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร และมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 592 ตารางกิโลเมตร โดยเป็นแนวแบ่งเขตระหว่างลำปางและเชียงใหม่ นับเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามโดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีน้ำตกและบ่อน้ำร้อนอยู่ในบริเวณเดียวกัน ซึ่งถือเป็นความมหัศจรรย์ยากจะหาที่ไหนเทียบ

ซึ่งช่วงเวลาเหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวและมีอากาศเย็นสบาย คือ เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ โดยไฮไลท์แห่งอุทยานฯ คือ บ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อน เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีสภาพการเกิดทางธรณีวิทยามีกลิ่นกำมะถันอ่อนๆ จำนวน 9 บ่อ ตั้งอยู่รวมกันในบริเวณพื้นที่ที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 3 ไร่ ภายในพื้นที่มีโขดหินน้อยใหญ่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ยามเช้าจะมองเห็นภาพไอน้ำลอยกรุ่นขึ้นมาจากบ่อปกคลุมโดยรอบดูสวยงาม โดยน้ำพุร้อนนั้นมีอุณหภูมิเฉลี่ย 73 องศาเซลเซียส ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่บ่อน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยาน นักท่องเที่ยวสามารถซื้อไข่มาต้มในจุดที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ โดยไข่ต้มที่นี่มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครคือส่วนไข่ขาวจะเหลวและไข่แดงจะเป็นก้อนกลมให้รสชาติมันอร่อย และที่บ่อน้ำพุร้อนนี่เองที่ถือเป็นจุดเช็คอินของนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงเวลาเช้าตอนกระอามิตย์ขึ้น

บ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อน

นอกจากบ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อนแล้ว ก็มี น้ำตกแจ้ซ้อน อีกหนึ่งที่ ซึ่งเป็นน้ำตกที่กำเนิดจากลำน้ำแม่มอญมีน้ำไหลตลอดทั้งปีและมีแอ่งน้ำรองรับอยู่ตลอดสายไหลตกลงมาเป็นชั้น ๆ มี 6 ชั้น อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 3 กิโลเมตร มีทางเดินไปสะดวกและสามารถเดินทางจากบ่อน้ำพุร้อนไปถึงน้ำตกได้ น้ำตกแม่มอญ เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลแรงจากชะง่อนผาสูงลงสู่หุบเหวเบื้องล่าง น้ำจะตกลงมาเป็นชั้น ๆ สวยงาม แต่ที่นี่ไม่เหมาะสำหรับเล่นน้ำ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 5 กิโลเมตร

น้ำตกแจ้ซ้อน

โดย แอ่งน้ำอุ่น ซึ่งอยู่ติดกับบ่อน้ำพุร้อนเป็นแอ่งน้ำที่เกิดจากการไหลมาบรรจบกันของน้ำพุร้อนและน้ำเย็นที่มาจากน้ำตกแจ้ซ้อน ทำให้เกิดเป็นน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิเหมาะแก่การแช่อาบ เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกแจ้ซ้อน มีระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1.30 ชั่วโมง ผ่านจุดสื่อความหมาย 24 จุด ผ่านสภาพป่าและพรรณไม้ที่น่าสนใจหลายชนิด รวมถึงอาจพบสัตว์หายาก เช่น นกเขนเทาหางแดง และปลาปุงแห่งลำห้วยแม่มอญ เส้นทางนี้เหมาะสำหรับเยาวชนผู้สนใจศึกษาพรรณไม้ต่าง ๆ เช่น ต้นก๋งกวาวเครือ หรือยางปาย ศึกษาระบบนิเวศน์ เช่น สภาพภูมิศาสตร์โดยรอบลานน้ำพุร้อน รวมถึงแอ่งอาบน้ำอุ่นที่เกิดจากน้ำร้อนในบ่อน้ำพุร้อนมาบรรจบกับน้ำเย็นที่มาจากน้ำตกแจ้ซ้อน

แอ่งน้ำอุ่น

นอกจากแล้ว ก็มี ดอกเสี้ยวบาน ให้ได้ชม เนื่องจากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ดอกเสี้ยวป่าสีขาวบริสุทธิ์ จะบานทั่วหุบเขาและระห่างทางเดิน ดอกเสี้ยวป่า เป็นดอกไม้พื้นเมือง ลักษณะดอก จะมีสีขาว มี 5 กลีบ มีแต้มสีชมพูที่กลีบใหญ่ ขึ้นบนภูเขาที่มีระดับความสูง 1,000 เมตรขึ้นไป มีขึ้นมากที่สุดที่ บ้านป่าเหมี้ยง ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน ซึ่งในทุกปีจะมีเทศกาลดอกเสี้ยวบาน นักท่องเที่ยวสามารถขับรถชมดอกเสี้ยวบานได้ตามเส้นทางแจ้ซ้อน-บ้านป่าเหมี้ยงเป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร

ดอกเสี้ยวบาน

นอกจากเทศกาลดอกเสี้ยวบานแล้วบ้านป่าเหมี้ยง ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ จุดชมวิวดอยล้าน ตั้งอยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ที่ จซ 7 ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างจังหวัดลำปางกับจังหวัดเชียงใหม่ อากาศเย็นช่วงเดือนธันวาคม – มกราคม เหมาะกับการตั้งเต็นท์พักแรม เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากและมีอากาศหนาว เมื่อฟ้าเปิดเราสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ถึง 4 จังหวัด คือ ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ และ เชียงราย โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว ที่ป่าโดยรอบมีความสวยงาม ต้นไม่นานาชิดอวดใบสีเขียวชอุ่ม โดยเฉพาะปลายฝนต้นหนาวที่ได้สัมผัสกับทะเลหมอกที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง

จุดชมวิวดอยล้าน

โดยในอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนมีสิ่งอำนวยความสะดวก ในอุทยานฯ บริการห้องอาบน้ำแร่ ซึ่งมีทั้งห้องอาบแร่สำหรับ 3-4 คน ห้องรวมแบบตักอาบและบ่อสำหรับแช่อาบกลางแจ้ง โดยน้ำแร่ที่นำมาใช้นั้นต่อท่อโดยตรงมาจากบ่อน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิน้ำแร่ประมาณ 39-42 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถใช้แช่อาบได้ ทั้งนี้ประโยชน์ของการอาบน้ำแร่คือช่วยบำบัดความเมื่อยล้าของร่างกาย ช่วยให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ช่วยรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ เช่น กลากเกลื้อน ผื่นคัน และยังช่วยบรรเทาอาการของโรคกระดูก แต่น้ำแร่จากที่นี่ไม่สามารถใช้ดื่มได้เพราะมีแร่ธาตุบางชนิดสูงกว่ามาตรฐาน

เรียกว่าเป็นที่เที่ยวธรรมชาติ ที่ตอบโจทย์สุดๆ ไปเลย เป็นอุทยานฯ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันมากๆ เหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนแบบจริงๆใครที่มีโอกาสได้มาเที่ยวลำปาง บอกเลยว่าต้องห้ามพลาดที่จะมาเยือนอุทยานแจ้ซ้อน แห่งนี้เลย หากต้องการมาสัมผัสธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวบ้านอย่างใกล้ชิด โดยทางอุทยานมีบ้านพักในอุทยานฯ พร้อมทั้งมีสถานที่กางเต็นท์ให้บริการไว้รองรับนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

สอบถามเพิ่มเติม

  • ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง

  • เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.

  • ค่าเข้าชม : คนไทย 50 บาท , ต่างชาติ 150 บาท

  • โทร : 08-9851-3355
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Chaesonnationnalpark

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/U3difvBiTK9LYA7G8
DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

การเดินทางในประเทศไทยนั้นกินพลังงานชีวิต เรียกว่าเป็นอีกอุปสรรคหนึ่งในชีวิตประจำวันก็ว่าได้ เนื่องจากการเดินทางในประเทศของเราด้วยรถสาธารณะนั้นยังมีตัวเลือกให้บริการอย่างไม่เพียงพอ โดยเฉพาะถ้าหากเป็นพื้นที่นอกตัวเมือง การหารถสาธารณะเพื่อเดินทางให้ถึงจุดหมายยิ่งยากขึ้นเป็นเท่าตัว ด้วยเหตุนี้ “รถรับส่งพนักงาน” จึงเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการหรือบริการที่แต่ละองค์กรควรให้ความสนใจ เพื่อที่จะได้เข้ามาอุดรอยรั่วดังกล่าวและทำให้พนักงานรู้สึกได้รับการอำนวยความสะดวก ทำให้มีกำลังใจในการเดินทางมาทำงานในแต่ละวันเนื่องจากไม่ต้องเสียแรงยืนรอหรือเบียดเสียดกับผู้อื่นเพื่อใช้รถสาธารณะ ดังนั้นในวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าทำไมแต่ละองค์กรจึงควรมีรถรับส่งพนักงาน รวมถึงขั้นตอน สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำสวัสดิการรถรับส่งพนักงานแบบมืออาชีพด้วยว่าเป็นอย่างไร