fbpx

อัพเดทสถานการณ์มาตรการการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย

มาตรการการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย

List of contents

Interested in renting a bus contact.

ประเทศไทยได้ปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร สำหรับผู้เดินทาง Test & Go (ทางบก, น้ำ และอากาศ), Sandbox Quarantine (AQ,OQ,SQ) และผู้ควบคุมยานพาหนะที่ไม่มีฐานปฏิบัติการในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 โดยมาตรการการเข้าเดินทางเข้าประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงด้วยข้อกำหนดที่ง่ายขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวก่อนที่จะปรับโรคโควิด- 19 เป็นโรคประจำถิ่น

ตามที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ได้แถลงการไว้เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2565 โดยระบุว่า ศบค.มีมติเห็นชอบที่จะปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางมาประเทศไทย สำหรับผู้เดินทาง Test & Go, Sandbox Quarantine และผู้ควบคุมยานพาหนะที่ไม่มีฐานปฏิบัติการในประเทศไทย โดยมีการอนุมัติให้ยกเลิกการตรวจเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทาง, ลดระยะเวลาของการเดินทางเข้าไทยในรูปแบบ Sandbox และการกักกันทางเลือกเหลือเพียงแค่ 5 วัน

โดยมาตรการใหม่นี้จะทำให้การเดินทางมาประเทศไทยง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้เดินทางที่เดินทางเข้าประเทศไทยด้วยโปรแกรม Test & Go และ Sandbox ยังคงต้องได้รับการตรวจ RT-PCR เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย และพักในโรงแรมที่มีโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการ (SHA Extra Plus) และจากนั้นทำกาตรวจ Self-ATK อีกครั้งในวันที่ 5 หากพบเชื้อก็จะต้องทำการรักษา แต่ถ้าหากไม่พบเชื้อก็สามารถเดินทางต่อหรือเดินทางกลับประเทศได้

ในปัจจุบันผู้เดินทางจากต่างประเทศต้องแสดงใบรับรองสุขภาพแบบ RT-PCR Test ที่ระบุผลเป็นลบ ภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางจากประเทศต้นทาง เพื่อรับรองว่าผู้เดินทางไม่ได้ติดเชื้อ COVID-19 โดยระยะเวลาของ Sandbox อยู่ในขณะนี้คือ 7 วัน และระยะเวลาของการกักกันทางเลือกสำหรับผู้เดินทางที่ไม่ได้รับวัคซีนคือ 10 วัน

Test & Go (T&G) คืออะไร และมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

Test & Go (T&G) คืออะไร

Test & Go (T&G) หรือ  Exemption from Quarantine (ยกเว้นการกักตัว) เป็นหนึ่งในโครงการใหม่เพื่อต้อนรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทย โปรแกรม Test & Go เริ่มเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2564 โดยกำหนดให้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 จากประเทศทุกประเทศทั่วโลกสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้รับการยกเว้นจากการกักตัว

แม้ว่าจะไม่มีข้อกำหนดในการกักตัว แต่นักท่องเที่ยวต้องการเดินทางมายังประเทศไทย ยังคงต้องลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass เพื่อขออนุมัติเข้าประเทศก่อนเดินทางและจะต้องทำการทดสอบ COVID-19 เมื่อมาถึงประเทศไทย ผู้เดินทางจำเป็นต้องเข้าพักในโรงแรมที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลเพื่อรอผลการทดสอบโควิด-19 หากผลการทดสอบเป็นลบ ผู้เดินทางสามารถไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆในประเทศไทยได้ โดยมาตรการ Test & Go ใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงในการเข้าประเทศไทยและเงื่อนไขการเดินทาง ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2565 มีรายละเอียด ดังนี้

  1. ผู้เดินทางจากทุกประเทศสามารถเดินทางเข้าไทยแบบ Test & Go (TG) ได้
  2. ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดส ไม่น้อยกว่า 14 วัน ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย (นับวันที่ฉีดวัคซีนโดสที่ 2 เป็นวันที่ 0 และวันถัดมาเป็นวันที่ 1)  
  3. ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 เกิน 3 เดือน และได้รับวัคซีน 1 โดส ไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย (นับวันที่ฉีดวัคซีนเป็นวันที่ 0 และวันถัดมาเป็นวันที่ 1)
  4. ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสก่อนติดเชื้อโควิด-19 และติดเชื้อโควิด-19 มาแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย ซึ่งมีเอกสารใบรับรองจากแพทย์ว่า หายจากโรคโควิด-19 และไม่มีอาการของโรคโควิด-19 แล้ว โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อวัคซีนที่ไทยให้การรับรองได้ที่ https://bit.ly/34J1mdZ
  5. บุคคลที่มีอายุระหว่าง 6-11 ปี ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน แต่เดินทางเข้าไทยพร้อมผู้ปกครองที่ฉีดวัคซีนครบ
  6. บุคคลผู้ที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี ที่ได้รับวัคซีนที่ไทยรับรอง 1 เข็ม สามารถเดินทางเข้าไทยด้วยตนเองได้ หากยังไม่ได้รับวัคซีนต้องเดินทางพร้อมผู้ปกครองที่ฉีดวัคซีนครบ

บุคคลที่ต้องการเดินทางเข้าไทยแบบ TEST & GO จะต้องมีการดำเนินการ ดังนี้

  • มีบัตรโดยสารเครื่องบิน และเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านทางท่าอากาศยานนานาชาติ หรือเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านทางท่าเรือเกาะสมุย
  • มีหลักฐานการจองโรงแรม SHA Extra + หรือโรงแรม Alternative Quarantine (AQ) 1 คืน ในวันที่ 1 โดยโรงแรมจะต้องอยู่ห่างจากสนามบินไม่เกิน 5 ชม. และมีหลักฐานการจองโรงแรมที่ระบุว่า ชำระเงินเต็มจำนวน พร้อมรวมค่าตรวจ RT-PCR และรถรับส่งจากสนามบิน-โรงแรม
  • ผู้เดินทางจะต้องตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR ในวันที่เดินทางถึงประเทศไทย (วันที่ 1) โดยรอผลตรวจที่โรงแรมเป็นเวลา 1 วัน เมื่อผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ สามารถออกจากห้องพักและเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่อื่น ๆ ได้ หลังจากนั้นจะต้องตรวจโควิด-19 แบบ ATK (Antigen Test Kit) ในวันที่ 5
  • ผู้ใช้หนังสือเดินทางต่างชาติเดินทางเข้าไทยต้องมีประกันสุขภาพในวงเงินไม่น้อยกว่า 20,000 USD (ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยไม่ต้องมีประกันสุขภาพ)
  • ลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass ทาง tp.consular.go.th ล่วงหน้าอย่างน้อย 3-7 วันก่อนเดินทาง โดยท่านจะต้องกรอกข้อมูลอัพโหลดเอกสารที่เกี่ยวข้อง เมื่อท่านลงทะเบียนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ท่านจะได้รับ Thailand Pass QR code เพื่อใช้เดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งนี้ ผู้เดินทางจะต้องแนบหลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรม AQ หรือ SHA Extra+ จำนวน 1 คืน ซึ่งรวมการตรวจ RT-PCR 1 ครั้ง และค่าพาหนะ airport pick up ในระบบ Thailand Pass 
  • ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 แล้วไม่น้อยกว่า14 วัน สามารถใช้ใบรับรองว่าหายจากโรคโควิด-19 หรือใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่า หายจากโควิด-19 หรือไม่มีอาการ เพื่อประกอบการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย 
  • ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปีที่ยังไม่ได้รับวัคซีน สามารถเดินทางเข้าไทยในรูปแบบเดียวกับผู้ปกครอง เมื่อเดินทางถึงไทยสามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยการตรวจด้วยน้ำลาย

มาตรการ Sandbox ที่มีการเปลี่ยนแปลง

มาตรการ Sandbox ที่มีการเปลี่ยนแปลง

แซนด์บ็อกซ์ เป็นโครงการใหม่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วสามารถเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว  โครงการนี้มีเริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ก่อนที่ประเทศไทยจะกลับมาเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างเต็มรูปแบบ ภูเก็ตเป็นจังหวัดแรกของไทยที่มีการดำเนินการตามแผนของโครงการ “แซนด์บ็อกซ์” นี้ และนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะภูเก็ตนี้จะไม่กักตัวในห้องพักอีกต่อไป ซึ่งการเดินทางเข้าประเทศไทย โดยการพำนักและท่องเที่ยวในพื้นที่ Sandbox ได้เป็นเวลา 5 วัน โดยพื้นที่ Sandbox เพื่อการท่องเที่ยว มีดังนี้

  • จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดพังงา เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านทางท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต หรือผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยแวะต่อเครื่องบินไม่เกิน 24 ชั่วโมง โดยไม่ออกจากพื้นที่ transit ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเดินทางต่อด้วยเที่ยวบินแบบ sealed route (PG 5275 หรือ PG 5279 ) ไปยังภูเก็ต ทั้งนี้ บัตรโดยสารเครื่องบินจะต้องระบุทั้งเที่ยวบินจากต่างประเทศเข้าไทย และเที่ยวบิน sealed route ใน booking เดียวกัน
  • จังหวัดกระบี่ เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านทางท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ หรือท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ (ต้องบินจากต่างประเทศตรงเข้าสู่ท่าอากาศยานภูเก็ต กระบี่ หรือหาดใหญ่เท่านั้น ไม่สามารถ Transit หรือต่อเครื่องภายในประเทศไทยได้)
  • จังหวัดสุราษฏ์ธานี (เกาะสมุย, เกาะพะงัน และเกาะเต่า) เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งสามารถแวะต่อเครื่องบินไม่เกิน 24 ชั่วโมง โดยไม่ออกจากพื้นที่ transit ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเดินทางต่อด้วยเที่ยวบินแบบ sealed route (PG5125 หรือ PG5171 ไปยังสมุย) ทั้งนี้ บัตรโดยสารเครื่องบินจะต้องระบุทั้งเที่ยวบินจากต่างประเทศเข้าไทย และเที่ยวบิน sealed route ใน booking เดียวกัน หรือ เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่

** โดยผู้ที่เดินทางเข้าพื้นที่ Sandbox จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และสุราษฎร์ธานี สามารถเดินทางระหว่างพื้นที่ดังกล่าวในช่วง 5 วันที่พักอยู่ในพื้นที่ Sandbox ได้

  • จังหวัดชลบุรี (เฉพาะเมืองพัทยา อำเภอบางละมุง ศรีราชา เกาะสีชัง อำเภอสัตหีบ เฉพาะ ตำบลนาจอมเทียนและบางเสร่)

  • จังหวัดตราด (เฉพาะเกาะช้าง)

  • จังหวัดสงขลา โดยการเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่

บุคคลที่สามารถเดินทางเข้าพื้นที่ Sandbox จะต้องมีการดำเนินการ ดังนี้

  • ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดส ไม่น้อยกว่า 14 วัน ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย (นับวันที่ฉีดวัคซีนโดสที่ 2 เป็นวันที่ 0 และวันถัดมาเป็นวันที่ 1)  
  • ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 และได้รับวัคซีน 1 โดส ไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย (นับวันที่ฉีดวัคซีนเป็นวันที่ 0 และวันถัดมาเป็นวันที่ 1)
  • ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสก่อนติดเชื้อโควิด-19 และติดเชื้อโควิด-19 มาแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย ซึ่งมีเอกสารใบรับรองจากแพทย์ว่า หายจากโรคโควิด-19 และไม่มีอาการของโรคโควิด-19 แล้ว สามารถตรวจสอบรายชื่อวัคซีนที่ไทยให้การรับรองได้ที่ https://bit.ly/34J1mdZ
  • ผู้ที่มีอายุระหว่าง 6-11 ปี ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน แต่เดินทางเข้าไทยพร้อมผู้ปกครองที่ฉีดวัคซีนครบ
  • ผู้ที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี ที่ได้รับวัคซีนที่ไทยรับรอง 1 เข็ม สามารถเดินทางเข้าไทยด้วยตนเองได้ หากยังไม่ได้รับวัคซีนต้องเดินทางพร้อมผู้ปกครองที่ฉีดวัคซีนครบ

How to choose bus type that suits your usage

ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยแบบ Alternative Quarantine (AQ)

Alternative Quarantine (AQ)

ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ สามารถเข้าพักในโรงแรม AQ หรือสถานที่ที่ราชการกำหนดเป็นเวลา 5 วัน โดยตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR ในวันที่ 4-5 ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือรับวัคซีนไม่ครบ ต้องเข้าพักในโรงแรม AQ หรือสถานที่ที่ราชการกำหนด เป็นเวลา 5 วัน โดยตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR ในวันที่ 4-5 ผู้ที่เดินทางเข้าไทยแบบ Alternative Quarantine (AQ) จะต้องดำเนินการ ดังนี้

  • เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเท่านั้น
  • ต้องมีหลักฐานการจองโรงแรม Alternative Quarantine 5 คืน และหลักฐานการชำระเงินเต็มจำนวนทั้งนี้ ผู้เดินทางจะต้องตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR 1 ครั้งตรวจสอบรายชื่อโรงแรม AQ ได้ที่: http://hsscovid.com/
  • ผู้ใช้หนังสือเดินทางต่างชาติเดินทางเข้าไทยต้องมีประกันสุขภาพในวงเงินไม่น้อยกว่า 20,000 USD (ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยไม่ต้องมีประกันสุขภาพ)
  • ลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass ทาง tp.consular.go.th ล่วงหน้าอย่างน้อย 3-7 วันก่อนเดินทาง โดยท่านจะต้องกรอกข้อมูลอัพโหลดเอกสารที่เกี่ยวข้อง เมื่อท่านลงทะเบียนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ท่านจะได้รับ Thailand Pass QR code เพื่อใช้เดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งนี้ ผู้เดินทางจะต้องแนบหลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรม AQ  จำนวน 5 คืน ซึ่งรวมการตรวจ RT-PCR 1 ครั้ง และค่าพาหนะ airport pick up ในระบบ Thailand Pass
  • บุคคลที่เคยติดเชื้อโควิด-19 แล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน สามารถใช้ใบรับรองว่าหายจากโรคโควิด-19 หรือใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่า หายจากโควิด-19 หรือไม่มีอาการ เพื่อประกอบการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย
  • ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี และยังไม่ได้รับวัคซีน สามารถเดินทางเข้าไทยในรูปแบบเดียวกับผู้ปกครอง เมื่อเดินทางถึงไทยสามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยการตรวจด้วยน้ำลาย

วิธีลงทะเบียนเข้าประเทศไทย ปี 2565

วิธีลงทะเบียนเข้าประเทศไทย

สำหรับผู้ที่มีกำหนดการเดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป

  1. ลงทะเบียนก่อนเดินทางล่วงหน้า 7 วัน ในระบบ Thailand Pass
  2. เตรียมเอกสารให้พร้อม ชาวต่างชาติมีประกันสุขภาพวงเงิน 20,000 USD (คนไทยไม่ต้องใช้เอกสารประกันสุขภาพ)
  3. จองโรงแรมที่พัก SHA Extra+/AQ ในวันเดินทางวันแรกที่ถึงประเทศไทย และตรวจโควิด-19 ครั้งที่ 1 ด้วยวิธี RT-PCR และตรวจโควิด-19 ครั้งที่ 2 ด้วยตัวเอง โดย ATK ที่โรงแรมจัดไว้ให้ และรายงานผลตามช่องทางกระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้

ดูรายชื่อโรงแรม SHA Extra+ ได้ที่นี่ : https://web.thailandsha.com/shaextraplus

ดูรายชื่อโรงแรม AQ ได้ที่นี่ : http://hsscovid.com

ดูกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย จากสมาคมประกันวินาศภัยไทยได้ที่นี่ : https://covid19.tgia.org

Summarize

กระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีนโยบายผลักดันเพื่อปลดล็อกเงื่อนไขการเข้าประเทศทั้งหมดให้เหมือนกับก่อนวิกฤตโควิด-19 ด้วยการนำเสนอ ศบค. เพื่อยกเลิกการลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass รวมถึงการเข้าประเทศในรูปแบบต่าง ๆ ทั้ง Test & Go และ Sandbox ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป

ส่วนมาตรการอื่น ๆ อาทิ จะยังคงมาตรการตรวจด้วย ATK แบบโปรเฟสชั่นนอล (ตรวจโดยบุคลากรทางการแพทย์) เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย จะได้อยู่หรือไม่นั้นต้องรอหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายใจของคนไทยในประเทศควรจะคงไว้ซึ่งมาตรการการตรวจด้วย ATK แบบโปรเฟสชั่นนอลในวันแรกที่มาถึงไว้ต่อไป

You can contact us to rent a tourist bus at
Address: 39 Moo 14, Bangna-Trad Road, Bang Kaeo, Bang Phli, Samut Prakan 10540
Phone number 092-185-6699
Line: @DASHMV

DASH MV
Bus rental service, coaches, size 39-45 seats, the buses that are serviced are imported cars and are all new cars. It is effective according to international standards and has a high-security system. Because we care primarily about the quality and safety of our customers.
บริษัทเช่ารถบัส
Bus Rental Service

For those who are interested

we have a daily and monthly bus rental service.

Article Category

การเดินทางในประเทศไทยนั้นกินพลังงานชีวิต เรียกว่าเป็นอีกอุปสรรคหนึ่งในชีวิตประจำวันก็ว่าได้ เนื่องจากการเดินทางในประเทศของเราด้วยรถสาธารณะนั้นยังมีตัวเลือกให้บริการอย่างไม่เพียงพอ โดยเฉพาะถ้าหากเป็นพื้นที่นอกตัวเมือง การหารถสาธารณะเพื่อเดินทางให้ถึงจุดหมายยิ่งยากขึ้นเป็นเท่าตัว ด้วยเหตุนี้ “รถรับส่งพนักงาน” จึงเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการหรือบริการที่แต่ละองค์กรควรให้ความสนใจ เพื่อที่จะได้เข้ามาอุดรอยรั่วดังกล่าวและทำให้พนักงานรู้สึกได้รับการอำนวยความสะดวก ทำให้มีกำลังใจในการเดินทางมาทำงานในแต่ละวันเนื่องจากไม่ต้องเสียแรงยืนรอหรือเบียดเสียดกับผู้อื่นเพื่อใช้รถสาธารณะ ดังนั้นในวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าทำไมแต่ละองค์กรจึงควรมีรถรับส่งพนักงาน รวมถึงขั้นตอน สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำสวัสดิการรถรับส่งพนักงานแบบมืออาชีพด้วยว่าเป็นอย่างไร