fbpx

12 พิกัดจุดชมวิวทะเลหมอกหน้าหนาว ทั่วไทยที่ไม่ควรพลาด!

จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าหนาว

เมื่อเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูหนาวใครหลายคนเริ่มมองหาสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อออกไปสัมผัสสายหมอกท่ามกลางอากาศเย็นสบาย แน่นอนว่าพิกัดเที่ยวหน้าหนาวที่ประเทศไทยมีหลากหลายจุด ซึ่งใครกำลังจะวางแผนหรือมีทริปปลายปี ทริปต้นปีอยู่ในใจจะขอแนะนำให้รู้จักกับ 12 จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าหนาวที่ไปแล้วไม่ผิดหวัง ปลดปล่อยความเครียด

สารบัญเนื้อหา

1. จุดชมวิวทะเลหมอก ดอยผาตั้ง จ.เชียงราย

จุดชมวิวทะเลหมอก ดอยผาตั้ง จ.เชียงราย

“ดอยผาตั้ง” เป็นจุดชมทะเลหมอกของจังหวัดเชียงรายที่มีชื่อเสียงในช่วงฤดูหนาว อีกทั้งยังเดินง่าย ใช้เวลาไม่นาน มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยผาหม่น ซึ่งเป็นเทือกเขาแนวพรมแดนไทย-ลาว สูง 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สามารถชมวิวได้ในช่วงเช้าสัมผัสกับทะเลหมอกสีขาวโพลนตัดกับแสงอาทิตย์สีส้ม และช่วงเย็นเป็นจุดชมพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าที่มองเห็นวิวแม่น้ำโขงและชายแดนฝั่งลาวได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งปลูกผลไม้เมืองหนาวมากมาย เช่น บ๊วย ลูกท้อ สาลี่ แอปเปิ้ล และชา

ยิ่งกว่านั้นในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม บนยอดดอยจะสะพรั่งด้วยสีชมพูจากดอกนางพญาเสือโคร่งที่บานในช่วงนั้น ครั้นถึงเดือนกุมภาพันธ์ ที่นี่จะถูกระบายเป็นสีขาวจากดอกเสี้ยวป่าที่อวดช่อดอกงดงามอีกเช่นกัน โดยไฮไลท์ของการเที่ยวดอยผาตั้งนั้นมักอยู่ที่การชมวิวจากจุดชมวิวช่องผาบ่อง ในระดับความสูงที่ 1,635 เมตร จากระดับทะเลปานกลางซึ่งสามารถมองเห็นแม่น้ำโขงทอดตัวคดเคี้ยวในฝั่งลาว และยังเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม รวมทั้งยังสามารถมองเห็นยอดภูชี้ฟ้าที่ห่างออกไปอีกราว ๆ 25 กิโลเมตรได้อย่างน่าประทับใจ

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ : ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย 
จุดบริการนักท่องเที่ยวดอยผาตั้ง โทร. 0-5391-8301

2. ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย

ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย

จุดชมวิวทะเลหมอก “ภูชี้ฟ้า” ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า อ.เกิง จ.เชียงราย ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ มีภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบสลับกับเนินเขาเตี้ยๆ ตลอดไปจนถึงภูเขาสูงชัน พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาสลับกันไป มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติอยู่ที่หน้าผาลักษณะปลายยอดแหลมเป็นแนวยาว ชี้ไปบนฟ้าทางฝั่งประเทศลาว จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่า “ภูชี้ฟ้า”

โดยเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามราวภาพวาด ด้วยทิวทัศน์ของภูเขาสลับซับซ้อนดูกว้างไกล การจะเดินขึ้นไปชมทะเลหมอกควรจะขึ้นไปยอดภูตั้งแต่ฟ้ายังมืด มีสภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวนั้น ที่นี่จะหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสัมผัสความหนาว ชมทะเลหมอกยามเช้า และดื่มด่ำความสวยงามของดอกชงโคป่าสีขาวที่ออกดอกบานสะพรั่ง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

ที่อยู่ :43/1 ม. 24 ต.ตับเต่า อ.เกิง จ.เชียงราย
สอบถามเพิ่มเติม : วนอุทยานภูชี้ฟ้า โทร. 08-1883-4510
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อำเภอเทิง โทร. 0-5379-5345

3. ชมทะเลหมอก กิ่วแม่ปาน จ.เชียงใหม่

ชมทะเลหมอก กิ่วแม่ปาน จ.เชียงใหม่

“กิ่วแม่ปาน” ตั้งอยู่ในอุทยานดอยอินทนนท์ อยู่ใกล้กับพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ที่นี่เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้นประมาณ 3 กม. หากใครไปก็จะใช้เวลาในการเดิน 2-3 ชม.เท่านั้นเอง ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวจะเป็นช่วง ธันวาคม-มกราคม ส่วนในช่วง มิถุนายน-ตุลาคม เส้นทางนี้จะปิดให้บริการเพื่อพักธรรมชาติให้ฟื้นตัว นอกจากนี้ยังมีทางเดินลาดชันสลับขึ้นลงและทางเดินลัดเลาะไปตามริมเขาให้ได้เพลิดเพลินกับ ธรรมชาติ ลำธารและจุดชมวิวเป็นระยะ รวมถึงจุดไฮไลท์อย่างจุดชมทะเลหมอกได้กว้างสุดลูกหูลูกตา สภาพป่าโดยรอบเป็นป่าดิบชื้น อากาศเย็นสบายตลอดเส้นทาง

จุดชมวิวทะเลหมอกที่ขึ้นชื่อว่าวิวสวยมาก คือ จุดชมวิวดอยกิ่วลม ที่มีชื่อเสียงและสวยงดงามแห่งหนึ่งของไทย นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มียอดดอยที่สวยงามอีกมากมายหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ดอยช้าง ดอยสามหมื่น รเนื่องจากเส้นทางเดินมีความสลับซับซ้อนและเดินเลียบเขาจึงต้องมีไกด์ท้องถิ่นนำเดิน ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่ใคร ๆ ใฝ่ฝันอยากจะมา ซึ่งส่วนใหญ่ที่นี่จะถูกปกคลุมด้วยหมอกขาวและอากาศเย็นจัดตลอดทั้งปีรวมถึงมี โป่งเดือด น้ำพุร้อนธรรมชาติอีกด้วย ส่วนกิจกรรมในบริเวณอุทยานฯ นั้น ที่ฮิตสุด ๆ ก็คือ การล่องแพ ในลำน้ำแม่แตง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ :  ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 
สอบถามเพิ่มเติม : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทร. 0-5328-6729 
Facebook : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 

4. จุดชมวิวทะเลหมอก ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

จุดชมวิวทะเลหมอก ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

ตามล่าหาทะเลหมอกหน้าฝนที่ “ภูทับเบิก” จุดชมวิวสูงสุดของเพชรบูรณ์แวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพแบบทะเลภูเขาและหมอกขาวฟุ้งกระจายตลอดทั้งวัน สภาพภูมิอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่อพยพหนีร้อนมาที่ภูทับเบิกกันเป็นจำนวนมาก เดิมที “ภูทับเบิก” เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งที่อพยพมาอยู่ที่บ้านทับเบิก ทำมาหากินโดยทำเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิงเขา ในช่วงหน้าฝนยังมีการทำไร่กะหล่ำปลีที่สวยงาม โดยจุดท่องเที่ยวชื่อดังในภูทับเบิก ได้แก่ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว, ผาหัวสิงห์, ภูแผงม้า, ตลาดม้ง, ภูทับเบิก, วัดป่าภูทับเบิก, ทุ่งกังหันลม

โดยบนเขาภูทับเบิกมีจุดกางเต็นท์และบริการเต็นท์เช่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสทะเลหมอกและอยากตื่นให้ทันชมพระอาทิตย์ขึ้น ในช่วงเดือน ธ.ค. – ม.ค. จะมีดอกพญาเสือโคร่ง บานสะพรั่งเป็นสีชมพูให้ได้ชมตามไหล่ทางขึ้นสู่ยอดดอย อุณหภูมิต่ำสุดช่วงฤดูหนาวประมาณ 2-5 °C หากโชคดีอาจจะได้ชมปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งหรือแม่คะนิ้งอีกด้วย

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ : บ้านทับเบิก ต.วังตาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์
สอบถามเพิ่มเติม : ททท.จังหวัดพิษณุโลก โทร. 0-5525-2742 – 3

แนะนำกิจกรรมเล่นแก้ง่วง ระหว่างเดินทางออกทริป

5. ดอยผาหม่น จ.เชียงราย

ดอยผาหม่น จ.เชียงราย

จุดชมวิวทะเลหมอก “ดอยผาหม่น” สองฝั่งโขงที่อยู่ตรงกลางระหว่างภูชี้เดือนและดอยผาตั้ง บริเวณเส้นแบ่งเขตแดนธรรมชาติระหว่างไทย-ลาว สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้กว้างไกล 360 องศา ไม่ว่าจะยืนอยู่ตรงมุมไหนก็จะได้เห็นวิวธรรมชาติที่สวยงามและแตกต่างกันไปตามช่วงเวลา ยามเช้าตรู่ได้ชมวิวทะเลหมอกยามเช้า เคล้าแสงอาทิตย์สีส้ม ช่วงสายเมื่อหมอกจางไปแล้วจะเห็นวิวแม่น้ำโขงไหลคดเคี้ยวไปตามหุบเขาเบื้องล่าง  ยามเย็นฝั่งทิศตะวันตกยังสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกดินท่ามกลางทิวเขาฝั่งไทยได้อีกด้วย

นอกจากนี้ดอยผาหม่นยังเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่ต้องแวะมาชมความสวยงามของดอกไม้เมืองหนาว เพราะที่นี่ปลูกไม้เมืองหนาวมากมายหลายชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นดอกทิวลิป ลิลลี่ ดอกชัลเวียสีแดง ต้นคริสต์มาตย์สีแดง หลากหลายสีและหลายสายพันธุ์เลยทำให้เกิดสีสันสวยงามที่แตกต่างกันไป จึงทำให้ดอยผาหม่นนั้นเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนต่างก็เดินทางมาเที่ยวและเก็บภาพสวยๆกลับไปด้วย

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ : บ้านร่มฟ้าผาหม่น ต. ปอ อ. เวียงแก่น จ. เชียงราย
สอบถามเพิ่มเติม : ททท.สำนักงานเชียงราย-พะเยา โทร. 053 717 433

6. กลอเซโล จุดชมทะเลหมอก จ.แม่ฮ่องสอน

กลอเซโล จุดชมทะเลหมอก จ.แม่ฮ่องสอน

จุดชมวิวทะเลหมอกสองแผ่นดิน “กลอเซโล” ในภาษาปกาเกอะญอ หมายถึง ดินแดนแห่งต้นไม้เป็นหมู่บ้านตามแนวชายแดน ไทย-เมียนมา ฝั่งแม่น้ำสาละวินที่โอบล้อมด้วยภูเขากลอเซโล  เป็นหมู่บ้านเล็กๆ แสนเงียบสงบเป็นที่อยู่อาศัยของชาวกะเหรี่ยงที่ประกอบอาชีพทำการเกษตร ทำไร่หมุนเวียนเป็นหลัก เนื่องจากมีทำเลที่ตั้งอยู่บนเขาสูง โอบล้อมไปด้วยทะเลหมอกรอบด้าน ภายในหมู่บ้านจึงมีจุดกางเต็นท์ ชมทะเลหมอกอยู่หลายจุด และด้วยพิกัดที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา จึงทำให้เรามีโอกาสได้ชมทะเลหมอกปกคลุมทิวเขาทางฝั่งเมียนมาด้วย ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจึงเรียกทะเลหมอกที่กลอเซโลว่า ทะเลหมอก 2 แผ่นดิน

โดยไฮไลท์ของที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์ได้ในบริเวณจุดชมวิวทำให้ตื่นมาช่วงเช้าสามารถชมหมอกขาวโพลนได้จากเต็นท์ของตัวเอง ซึ่งช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เดือนธันวาคมค่ะ เป็นช่วงเวลาที่ทะเลหมอกจะก่อตัวหนาแน่น ปกคลุมไปทั่วขุนเขาทั้งฝั่งไทยและเมียนมา ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามมาก

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ :บ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน
สอบถามเพิ่มเติม : ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร. 0 5361 2982-3
Facebook : TAT Maehongson

7. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จ.เชียงใหม่

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จ.เชียงใหม่

“อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง” มีพื้นที่ครอบคลุม 2 จังหวัด คือเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน มีสภาพป่าและธรรมชาติที่อุสมบูรณ์เป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน  นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมขึ้นไปพักค้างแรมที่จุดชมวิวดอยกิ่วลม ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ว่าจะเป็น บ้านพักอุทยานและลานกางเต็นท์ ห้องน้ำ ร้านอาหาร เพียงแค่ตื่นเช้า เดินออกมาจากที่พักก็ได้สัมผัสอากาศหนาว ชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่รับรองว่าสวยตราตรึงใจไม่แพ้ที่ไหนๆ แน่นอน

โดยอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามและจุดชมวิวที่สามารถชมบรรยากาศอันร่มรื่น โดยเฉพาะบริเวณห้วยน้ำดัง ที่มีชื่อว่าทะเลหมอกที่งดงามยิ่ง  เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย จากจุดนี้สามารถมองเห็นดอยเชียงดาวได้ หรือจะเลือกขึ้นดอยสามหมื่นหรือดอยช้างก็ได้ ซึ่งเป็น ภูเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ : หมู่ 5 ต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
สอบถามเพิ่มเติม : อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง โทร. 0-5326-3910
และ 0 -5324-8491
Facebook : อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

8. ภูลังกา จ.พะเยา

ภูลังกา จ.พะเยา

จ.พะเยา มีจุดชมวิวทะเลหมอกที่มีเสน่ห์ธรรมชาติไม่เป็นสองรองใคร “ดอยภูลังกา” ภูเขาสูงชันอยู่บนเทือกเขาสันปันน้ำเป็นสันเขาแคบๆ ที่มีทิวทัศน์ทางทิศตะวันตกเป็นป่าดงดิบ และทิศตะวันออกเป็นหน้าผาสูงชันมีหญ้าปกคลุม เมื่อขึ้นไปบนยอดดอยชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้าได้สวยงาม และยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของประเทศลาวได้อีกด้วย ด้วยลักษณะที่เป็นยอดเขาสลับซับซ้อนนี้เองจึงเหมาะสำหรับนักนิยมธรรมชาติที่ชอบการเดินป่าพิชิตยอดดอยสูง 

ซึ่งเหมาะสำหรับการชมทิวทัศน์ในช่วงฤดูหนาวเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งทางวนอุทยานฯ ได้จัดเส้นทางในการเดินป่าระยะทาง 3 กิโลเมตร เริ่มต้นที่ห้องเรียนธรรมชาติ ซึ่งเป็นสวนสมุนไพร สวนกล้วยไม้ และพันธุ์ไม้หายาก ก่อนจะเดินผ่านป่าก่อโบราณ ซึ่งมีนกมากมายหลายชนิดเหมาะสำหรับการดูนก นอกจากนี้ยังมีทุ่งดอกโคลงเคลงซึ่งจะบานเบ่งสะพรั่งในช่วงปลายฝนต้นหนาวอีกด้วย

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ : บ้านน้ำต้ม หมู่ที่ 5 ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา
สอบถามเพิ่มเติม : วนอุทยานภูลังกา โทร. 081-883-0307, 053-711-402

9. ดอยเสมอดาว ชมทะเลหมอก จ.น่าน

ดอยเสมอดาว ชมทะเลหมอก จ.น่าน

จุดชมทะเลหมอก “ดอยเสมอดาว” ตั้งอยู่เขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ต.ศรีษะเกษ อ.นาน้อย จ.น่าน บริเวณจุดชมวิวเป็นลานกว้างที่ทอดยาวตามสันเขา ทำให้ทั้งกลางวันและกลางคืนที่แห่งนี้เป็นจุดที่ชมทะเลหมอกที่สวยงามที่สุดของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ด้วยความสวยงามของดอยเสมอดาวที่นี่จึงกลายเป็นอีกจุดที่ไม่ว่าจะมา ตั้งแคมป์ ดูดาว ชมทะเลหมอก หรือดูพระอาทิตย์ขึ้น ก็เรียกว่าผ่อนคลายสมองและร่างกายได้อย่างมาก

สำหรับความสูงของดอยเสมอดาวสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 888 เมตร แม้จะไม่สูงเท่าดอยอีกหลายแห่ง แต่ความโรแมนติกไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย ด้วยวิวขุนเขาและแม่น้ำน่านเบื้องล่าง บรรยากาศเงียบสงบ โดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่มือสนิทจนทำให้เห็นทะเลดาว บวกกับอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวอุณหภูมิอาจต่ำถึงเลขตัวเดียว ใครกำลังมองหาจุดชมวิวทะเลหมอกสวย ๆ ในภาคเหนือต้องห้ามพลาดที่นี่เลย 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ : ตำบล ศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย น่าน 5515
สอบถามเพิ่มเติม :  อุทยานแห่งชาติศรีน่าน โทร. 098-685-3293, 093-242-2914 (ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว) อีเมล : srinan_13@hotmail.com

10. เขาพะเนินทุ่ง จ.เพชรบุรี

เขาพะเนินทุ่ง จ.เพชรบุรี

หากมาเที่ยวเพชรบุรีแล้วอยากดูทะเลหมอกสวย ๆ ต้องไม่พลาดที่ “เขาพะเนินทุ่ง” จุดชมทะเลหมอกที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.พชรบุรี ที่นี่สามารถมองเห็นวิวทะเลหมอกได้แบบ 360 องศา ด้วยความสูงของเขาพะเนินทุ่งที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 1,200 เมตร ทำให้ทั้งอากาศและทิวทัศน์ดีจนใจฟู

สำหรับการมาชมทะเลหมอกที่เขาพะเนินทุ่ง แนะนำให้มาในช่วงปลายฝนต้นหนาว โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือช่วงเช้าตรู่ของวัน คุณจะได้เห็นทั้งทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานยังอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถตั้งแคมป์ค้างคืน โดยทางอุทยานมีให้เช่าสำหรับใครที่ไม่อยากแบกของไปเยอะ 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ : ห้วยแม่เพรียง แก่งกระจาน เพชรบุรี 76170
สอบถามเพิ่มเติม : เพจ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน – Kaeng Krachan National Park หรือโทร 0-3277-2311

11. จุดชมทะเลหมอกเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

จุดชมทะเลหมอกเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

“เขาค้อ” ตั้งอยู่ในอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,200 เมตร ทำให้เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามในยามเช้า นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมหลากหลาย เช่น การชมทะเลหมอก การถ่ายภาพธรรมชาติ การตั้งแคมป์บนยอดเขา หรือการเดินป่าเพื่อสำรวจความงามของป่าเขา 

นอกจากนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น วัดเขาค้อ จุดชมวิวทุ่งกังหันลม และสวนสตรอเบอร์รี่ ที่เขาค้อเหมาะแก่การเยือนในช่วงฤดูหนาว (ตุลาคม-กุมภาพันธ์) ซึ่งอากาศเย็นสบายและทะเลหมอกสวยงามที่สุด ในช่วงฤดูฝน (มิถุนายน-กันยายน) จะมีฝนตกบ้างแต่ยังคงมีอากาศเย็น ส่วนในฤดูร้อน (มีนาคม-พฤษภาคม) อากาศจะร้อนขึ้นแต่ยังสามารถชมวิวได้เช่นกัน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติเขาค้อ 67 ม.1 ต.สะเดาะพง อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ 67270
สอบถามเพิ่มเติม : อุทยานแห่งชาติเขาค้อ โทร. 081-284-5223. อีเมล : khaokhonew_2012@hotmail.co.th.

12. จุดชมทะเลหมอกม่อนสด ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่

จุดชมทะเลหมอกม่อนสด ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่

“จุดชมวิวทะเลหมอกม่อนสน” ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาวถึงฤดูหนาว (ตุลาคม-กุมภาพันธ์) เพราะที่นี่มีวิวทะเลหมอกสวยงามแบบพาโนรามา และอากาศเย็นสบายตลอดปี นอกจากทะเลหมอกแล้ว ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับแสงแรกของวันได้อย่างใกล้ชิด

สำหรับสายแคมป์ปิ้ง ม่อนสนมีลานกางเต็นท์ที่รองรับนักท่องเที่ยว พร้อมบริการเช่าเต็นท์ในราคา 235 บาท/หลัง หรือเพียง 30 บาท หากนำเต็นท์มาเอง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ร้านค้าและห้องน้ำ ใครที่อยากพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ และชมวิวหลักล้าน รีบจัดกระเป๋า จองคิวเช่ารถไปเชียงใหม่และเตรียมตัวเดินทางมาสัมผัสความงดงามที่นี่กันได้เลย! 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ :  อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ตำบล แม่สูน อำเภอ ฝาง เชียงใหม่ 50320
สอบถามเพิ่มเติม : อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก โทร. 0-5208-0801, 084-483-4689
อีเมล : doiphahompok.np@hotmail.com

ไม่พลาดบทความท่องเที่ยวดี ๆ คลิกเพื่ออ่านเลย!

เช่ารถบัสท่องเที่ยว DASH MV ชมทะเลหมอกทั่วไทย

การเดินทางไปสัมผัสทะเลหมอกในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วไทยไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงเลือกบริการเช่ารถบัสท่องเที่ยวจาก DASH MV ที่พร้อมพาคุณและหมู่คณะเดินทางสู่จุดหมายด้วยความสะดวกสบายและปลอดภัย

DASH MV ให้บริการรถบัส VIP ที่มีพื้นที่กว้างขวาง เบาะนั่งนุ่มสบาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น Wi-Fi, ระบบเครื่องเสียง, และช่องชาร์จ USB ตอบโจทย์การเดินทางไกล ไม่ว่าจะเป็นการทริปครอบครัว ทัวร์บริษัท หรือกลุ่มเพื่อน

ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวม่อนสนที่ดอยอ่างขาง ดอยอินทนนท์ หรือจุดชมทะเลหมอกภาคใต้ที่เขาศูนย์ ตรัง DASH MV พร้อมให้บริการพาคุณเดินทางไปชมธรรมชาติสุดอลังการทั่วประเทศ ด้วยทีมงานมืออาชีพและการดูแลเส้นทางที่ปลอดภัย

เลือก DASH MV เพื่อให้ทุกการเดินทางของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและน่าประทับใจ สัมผัสทะเลหมอกในฝันได้ง่ายๆ แค่ติดต่อจองบริการกับเรา แล้วเตรียมตัวออกเดินทางได้เลย!

สรุป

12 พิกัดจุดชมวิวทะเลหมอกในช่วงหน้าหนาวทั่วไทยที่ได้แนะนำมานี้ ไม่เพียงแค่ให้คุณได้สัมผัสกับธรรมชาติที่งดงาม แต่ยังเป็นโอกาสในการพักผ่อนและเติมเต็มพลังงานบวกในช่วงเวลาที่แสนพิเศษ หากคุณกำลังวางแผนทริปหน้าหนาว อย่าลืมเลือกสักแห่งแล้วออกไปสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษนี้กันนะครับ

DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

การเดินทางในประเทศไทยนั้นกินพลังงานชีวิต เรียกว่าเป็นอีกอุปสรรคหนึ่งในชีวิตประจำวันก็ว่าได้ เนื่องจากการเดินทางในประเทศของเราด้วยรถสาธารณะนั้นยังมีตัวเลือกให้บริการอย่างไม่เพียงพอ โดยเฉพาะถ้าหากเป็นพื้นที่นอกตัวเมือง การหารถสาธารณะเพื่อเดินทางให้ถึงจุดหมายยิ่งยากขึ้นเป็นเท่าตัว ด้วยเหตุนี้ “รถรับส่งพนักงาน” จึงเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการหรือบริการที่แต่ละองค์กรควรให้ความสนใจ เพื่อที่จะได้เข้ามาอุดรอยรั่วดังกล่าวและทำให้พนักงานรู้สึกได้รับการอำนวยความสะดวก ทำให้มีกำลังใจในการเดินทางมาทำงานในแต่ละวันเนื่องจากไม่ต้องเสียแรงยืนรอหรือเบียดเสียดกับผู้อื่นเพื่อใช้รถสาธารณะ ดังนั้นในวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าทำไมแต่ละองค์กรจึงควรมีรถรับส่งพนักงาน รวมถึงขั้นตอน สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำสวัสดิการรถรับส่งพนักงานแบบมืออาชีพด้วยว่าเป็นอย่างไร