fbpx

การบริหารจัดการรถบัสรับส่งพนักงานอย่างไร ให้ถูกใจพนักงาน

รถบัสรับส่งพนักงาน

รถรับส่งพนักงานเป็นสวัสดิการอย่างหนึ่งขององค์กร เพื่อช่วยประหยัด ค่าเดินทางของพนักงาน อีกทั้งยังช่วยให้พนักงานเข้างานได้พร้อมกัน เพื่อประโยชน์ในประสิทธิภาพของบุคคลากร ประโยชน์ของรถรับส่งพนักงานทางอ้อมอีกอย่าง คือ พนักงานสามารถเพิ่มความสัมพันธ์กันระหว่างนั่งรถรับส่งพนักงานกลับบ้านได้อีกด้วย

เช่ารถบัสรับส่งพนักงาน มีความจำเป็นไหม

สารบัญเนื้อหา

แน่นอนว่า เมื่อมีรถรับส่งพนักงานแล้วย่อมต้องมีการร้องเรียนจากพนักงานในเรื่องต่างๆ เข้ามา ซึ่งการร้องเรียนแต่ละครั้งก็จะมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ดังนั้น HR ควรแก้ไขปัญหานี้อย่างไร บทความนี้จึงเป็นแนวทางสำหรับ HR หรือผู้ซึ่งต้องทำหน้าที่ดูแลสวัสดิการรถบัสรับส่งพนักงาน ดังนี้

1. การคัดเลือกผู้ประกอบการรถบัสรับส่งพนักงาน

HR จะต้องรวบรวมความต้องการของพนักงานว่าต้องการรถบัสอย่างไร รับส่งพนักงานเส้นทางไหน จากนั้นก็เรียกผู้ประกอบการให้มานำเสนอรายละเอียด ควรมีการตรวจสอบข้อมูลของผู้ประกอบการdก่อนว่า มีความพร้อมทั้งสภาพรถและการบริหารรถบัสรับส่งพนักงานมากน้อยเพียงใด การให้บริการแบบรถบัสจะไม่เหมือนกับการให้บริการรถโรงงาน ซึ่งอาจเรียกว่า มีความจุกจิกและรายละเอียดที่มากกว่า ดังนั้น ถ้าเลือกได้ควรเลือกผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์ตรงมากกว่า

2. เป้าหมายการจัดรถบัสรับส่ง

การจัดรถรับส่งพนักงานจะสามารถทำให้พนักงานเดินทางมาทำงานได้ทันเวลา และมีความปลอดภัย ดังนั้น หัวข้อสำคัญในการประเมินการให้บริการ คือ พนักงานขับรถต้องด้วยความปลอดภัย ตรงต่อเวลา และรถบัสมีสภาพพร้อมให้บริการไม่เสียบ่อย ๆ

3. ควรจะกำหนดค่าปรับ

หัวข้อประเมินใดที่มีความสำคัญมากๆ ควรจะกำหนดค่าปรับ เพื่อเป็นการตักเตือนบริษัทเช่ารถบัส เช่น หากรถออกจากจุดต้นทางสายเกิน 5 นาที เพราะพนักงานขับรถตื่นสายจะถูกปรับ 500 บาท เพราะทำให้พนักงานมาถึงโรงงานสาย ทำให้ไม่สามารถทำการผลิตได้ งานล่าช้า แต่ถ้ารถรับส่งเข้าสายเพราะมีเหตุจำเป็นจริงๆ ก็ไม่ควรปรับ  หรือในกรณีที่รถเสียบ่อยๆก็ควรมีการปรับ เพราะถือว่าการดูแลบำรุงรักษาไม่ดีไม่มีความพร้อมในการให้บริการ เป็นต้น

4. ผู้ควบคุมรถบัสของบริษัท

ควรมีการแต่งตั้งให้มีผู้ควบคุมรถบัสของบริษัท เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบสภาพรถที่มาให้บริการ และช่วยในการบริหารรถบัส ซึ่งจะมีปัญหาจุกจิกที่ต้องแก้ไขหรือต้องปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา ในการตรวจสภาพเครื่องยนต์ ถ้ามีช่างผู้ชำนาญจะสามารถตรวจสอบได้ดีกว่า หากต้องการความมั่นใจควรมีช่างร่วมตรวจสอบด้วย และรถทุกคันต้องมีประตูฉุกเฉิน ฆ้อนทุบกระจก และถังดับเพลิงประจำรถ นอกจากนี้ควรมีการตรวจสภาพบางส่วนของรถบัสทุกๆ 6 เดือน เช่น ยางล้อรถมีดอกยาง หรือไม่ มีอุปกรณ์ชำรุดต้องซ่อมแซม หรือไม่ เป็นต้น

5. สัญญาการให้บริการ

ควรกำหนดว่า รถที่จะมาวิ่งแทนได้ต้องผ่านการตรวจสภาพ ยกเว้นรถบัสคันเดิมประสบอุบัติเหตุ เครื่องยนต์เสีย จึงจะอนุญาตให้นำรถสำรองมาวิ่งแทนชั่วคราวได้ไม่เกิน 3 วัน แต่ถ้าไม่มีเหตุผลจำเป็น เช่น รถที่ออกทัวร์ยังไม่กลับอาจจะต้องมีการกำหนดค่าปรับเช่นกัน ส่วนค่าปรับอื่นๆ ก็พิจารณาตามความเหมาะสมว่า ถ้าเกิดขึ้นแล้วจะมีผลกระทบต่อพนักงานหรือบริษัทมากน้อยเพียงใด

สนใจเช่ารถบัสรับส่งพนักงาน ติดต่อสอบถามข้อมูล

6. การให้บริการ

ถ้าสถิติการถูกปรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีการตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข บริษัทอาจบอกเลิกสัญญาได้ภายใน 30 วัน หรือ 60 วัน ขึ้นอยู่กับเราจะหาบริษัทรถบัสใหม่ ได้เร็วแค่ไหน

7. เงินประกันความเสียหาย

ในการทำสัญญาให้ในสัญญาระบุว่า บริษัทสามารถหักค่าปรับหรือค่าความเสียหายจากค่าบริการได้ เพราะส่วนใหญ่การชำระเงินมักกำหนดเป็นเครดิต 30 วันอยู่แล้ว และในสัญญาจะต้องระบุเรื่องกรมธรรม์ประกันภัยที่บริษัทรถบัสจะต้องจัดทำขั้นต่ำในวงเงินเท่าใด โดยบริษัทต้องตรวจสอบวันหมดอายุของกรมธรรม์และการต่ออายุกรมธรรม์ด้วย

8. ปัญหาที่ HR หรือผู้ที่ดูแลรถรับส่งพนักงานอาจต้องเจอ

เพราะรถบัสรับส่งพนักงาน 1 คัน จะมีพนักงานโดยสาร 30-50 คน ต่างคนต่างมีสิ่งที่ชอบไม่เหมือนกัน ดังนั้น ในรถบัสแต่ละสายควรมีตัวแทนพนักงาน 1 – 2 คน เพื่อแจ้งปัญหาให้ HR ทราบและเพื่อแจ้งความต้องการของพนักงานให้กับพนักงานขับรถได้ทราบ โดยจะยกตัวอย่างปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนี้

8.1 การเปิดโทรทัศน์หรือเพลง พนักงานบางคนก็ชอบ แต่บางคนก็ไม่ชอบ คงต้องจัดแบบกลางๆ ให้ ที่สำคัญถ้าพนักงานขับรถที่มีอัธยาศัยดีรู้จักพูดจาทักทาย ปัญหาต่างๆ จะน้อยลงได้

8.2 ความเร็วในการขับรถ การเดินทางมาทำงานพนักงานต้องการมีเวลาทานอาหารเช้า เมื่อเจอปัญหารถติดก็มีวิธีแก้ปัญหาหลายทางเลือก เช่น กำหนดเวลาออกรถให้เร็วขึ้น ใช้ทางด่วน หรือเร่งความเร็วรถมากกว่าที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น หรือในการเดินทางกลับบ้าน บางคนต้องการกลับบ้านเร็วๆ ก็มักต้องการให้รถวิ่งในเลนทางด่วนแล้วจอดส่งคนเลนกลาง ซึ่งพนักงานอีกกลุ่มย่อมต้องไม่พอใจ เพราะรู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัย 

โดยปัญหาเหล่านี้ ควรมีผู้จัดการดูแลช่วยอีกแรงหนึ่ง เพราะแต่ละคนแต่ละกลุ่มจะเห็นแต่ความจำเป็นของตนเองก่อน ซึ่งผู้จัดการดูแลต้องชั่งน้ำหนักว่า จะแก้ปัญหาด้วยวิธีไหนที่จะทำให้มีปัญหาน้อยที่สุด 

8.3 การย้ายที่พักอาศัย ทำให้รถบางสายมีที่ว่าง อาจจะต้องมีการเพิ่มจุดรับส่ง ซึ่งจะทำให้รถบางสายคนมีพนักงานแน่นล้นรถก็มี ทำให้ต้องตัดจุดรับส่งออกบ้าง คนที่ถูกเปลี่ยนสายรถอาจจะไม่พอใจและมีความสับสนได้ ซึ่งก็ต้องทำความเข้าใจให้ดี

8.4 เมื่อเกิดปัญหารถเสีย ทางบริษัทเช่ารถบัสจะต้องแก้ไขปัญหาเบื้องต้นนี้ให้ได้ เช่น ให้รถบัสรับส่งพนักงานคันอื่นช่วยรับแทน หรือหารถสำรองมาแทนโดยเร็วที่สุด หรือจะจัดรถตู้รถแท็กซี่มาแทนก็ได้ แต่ทั้งนี้ปัญหารถเสียบ่อยๆ จะต้องได้รับการแก้ไข มีการซ่อมบำรุงดูแลรักษาที่ดี ไม่เช่นนั้นความไม่พอใจอาจจะพอกพูนมากขึ้น เพราะการยืนข้างถนนที่รถเสียบ่อยๆ อาจจะมีสายตาของผู้ผ่านไปมามองแล้วทำให้บางคนรู้สึกอับอายได้

สรุป

ดังนั้น  ทุกปัญหาควรศึกษารายละเอียดให้ชัดเจน และค่อยๆ แก้ไขทีละเรื่อง ดูผลกระทบที่เกิดขึ้น ต้องชั่งน้ำหนักผลดีและผลเสีย แล้วอธิบายทำความเข้าใจ ศึกษาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ แต่อย่าให้พนักงานรอนานจนเบื่อเกินไป

หากต้องการใช้บริการเช่ารถบัสรับส่งพนักงาน สามารถติดต่อ DASH MV ได้ที่เบอร์ 092 185 6699 หรือ LINE : @DASHMV ซึ่งจะทำให้การเดินทางของคุณจะปลอดภัยและสบายใจได้อย่างแน่นอน เพราะความปลอดภัยถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ