เช่ารถบัส จัดทริปท่องเที่ยวสงกรานต์ ภาคอีสาน
สารบัญเนื้อหา
ต่อจากบทความก่อนหน้านี้ ถ้าใครที่ยังเบื่อสถานที่เดิมๆ หรือยังคิดไม่ออกว่าสงกรานต์นี้จะไปเที่ยวที่ไหนดีลองเช่ารถบัสมาท่องเที่ยวที่ภาคอีสานดูดีกว่า โดยในภาคอีสานมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจเพิ่มมากขึ้นไม่แพ้ภาคอื่นๆ เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังได้สัมผัสอัตลักษณ์ในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ วิถีชีวิตชาวอีสาน แล้วยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว เครือญาติ หรือเพื่อนฝูงที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกันในช่วงวันเทศกาลสงกรานต์ด้วย
ทริปท่องเที่ยวสงกรานต์ ภาคใต้
ทริปท่องเที่ยวสงกรานต์ ภาคใต้ 4 วัน 3 คืน
โปรแกรมการท่องเที่ยววันที่ 1
ขึ้นรถบัสนำเที่ยวเดินทางออกจากจุดหมายในกรุงเทพ มุ่งหน้าสู่ จังหวัดอุดรธานี โดยใช้เวลาประมาณ 8-9 ชั่วโมง
โปรแกรมการท่องเที่ยววันที่ 2
จังหวัดแรกที่มาถึงคือ จังหวัดอุดรธานี แวะเที่ยวชม ชุมชนบ้านเชียง ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งมรดกโลก เรียนรู้ชีวิตภูมิปัญญาพื้นบ้านและศึกษาการย้อมคราม เรียนรู้การทอผ้าฝ้าย ตามรอยดินดำอารยธรรมบ้านเชียง พร้อมทั้งมีแหล่งซื้อของเครื่องปั้มดินเผา และสินค้าโอท็อปต่างๆ
สถานที่ต่อมาห่างจากชุมชนบ้างเชียงเพียง 200 เมตร ก็คือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง แวะชมแหล่งโบราณคดีที่เป็นมรดกโลก แหล่งอารยธรรมโบราณที่มีอายุถึงประมาณ 5,000 ปี ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงหลักฐานที่ได้จากการสำรวจขุดค้นที่บ้านเชียง และแหล่งโบราณคดีใกล้เคียง ประกอบด้วยภาชนะดินเผา เครื่องมือ เครื่องใช้ และสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย
ต่อมาเดินทางไปที่ วัดสันตวินาราม ซึ่งอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง โดยพระอุโบสถที่วัดสันตวินารามเป็นพระอุโบสถทรงดอกบัวสีขาวหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ตั้งโดดเด่นกลางแม่น้ำมีสะพานเชื่อมไปยังพระอุโบสถ เพื่อไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันสงกรานต์
หลังจากนั้นเดินทางมาที่ คำชะโนด หรือวังนาคินทร์คำชะโนด สักการะขอพรรูปหล่อพญานาคปู่ศรีสุทโธ ย่าศรีประทุมมา เพื่อขอโชคลาภและความเป็นสิริมงคล ซึ่งคนในจังหวัดอุดรธานีและอีสานตอนบนเชื่อว่า เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ดินแดนลี้ลับของพญานาคและเป็นที่เคารพยำเกรงและศรัทธาเป็นอย่างมาก
ต่อมาก็เดินทางด้วยรถบัสเช่ามาไปยัง พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต หมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ได้นำความเชื่อและความศรัทธาที่มีต่อพญานาคมาผสมผสานกับอาชีพเกษตรกรรม วาดเป็นภาพเขียนสีพญานาคบนผนังของแต่ละบ้านจำนวน 22 รูป ตามความชอบของแต่ละครอบครัว ทำให้กลายเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวสตรีทอาร์ต หรือหมู่บ้านภาพวาดเขียนสีพญานาคหนึ่งเดียวในโลก นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงวิถีชีวิตของชุมชนชาวอีสานแบบดั้งเดิม รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ในอดีตอีด้วย
หลังจากนั้นเดินทางมาที่ วัดอาฮงศิลาวาส (แก่งอาฮง) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดบึงกาฬ ประกอบกับมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องพญานาค ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาที่วัดอาฮงอย่างไม่ขาดสาย นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมสะดือแม่น้ำโขงที่มีความลึกมากที่สุดอีกด้วย
หลังจากนั้นเดินทางออกจากวัด เพื่อเข้าที่พักที่จังหวัดบึงกาฬ
สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล
โปรแกรมการท่องเที่ยววันที่ 3
เช้าวันที่ 3 เดินทางนั่งรถบัสเช่าไปชมหินยักษ์ทรงเหมือนปลาวาฬ ที่ หินสามวาฬ ซึ่งถือว่า เป็นหนึ่งในอันซีนของประเทศไทย เป็นจุดชมวิวที่สวยงามโดดเด่นและมีชื่อเสียงมากๆ ของภูสิงห์ โดยสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าได้ นอกจากนี้ที่ป่าภูสิงห์ยังเต็มไปด้วยกลุ่มของก้อนหินรูปทรงต่าง ๆ ที่สวยงามแปลกตา และถ้ำที่กระจายอยู่ทั่วทั้งพื้นที่ ซึ่งสามารถแวะชมได้หลายจุด
ต่อมาเดินทางไปพักเดินเล่น เล่นน้ำที่ หาดคำสมบูรณ์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่สามารถเดินเล่น ชมวิว และเล่นน้ำได้ตลอดทั้งปี พร้อมทั้งมีกิจกรรมให้ทำที่หลากหลาย เหมาะสำหรับพาเพื่อ หรือครอบครัวมาพักผ่อนและลงเล่นน้ำคลายร้อน นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารริมน้ำจำนวนมาก เป็นแนวอาหารอีสานท้องถิ่นนั่งกินชิลๆ ริมหาดอีกด้วย
หลักจากพักเล่นน้ำคลายร้อนก็เดินทางไปยังจังหวัดต่อไป สถานที่แรก คือ วัดพระธาตุท่าอุเทน จ.นครพนม พระธาตุที่มีอายุยาวนานกว่า 100 ปี ซึ่งมีความเชื่อกันว่า หากใครได้ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ให้ชีวิตมีแต่ความรุ่งโรจน์เหมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า มีความเป็นสิริมงคลล้างอาถรรพณ์ทั้งหลายได้ และหากนั่งรถนานๆ รู้สึกปวดขา ปวดคอ หรือปวดเมื่อยตามร่างกายสามารถอ่านบทความ รวม 8 ท่าออกกำลังกาย ทำง่ายๆ บนรถบัส! แล้วทำตามจะช่วยให้อาการปวดเมื่อยต่างๆ ดีขึ้น
หลังจากนั้นสักการะพระธาตุท่าอุเทนเรียบร้อยก็นั่งรถบัสเดินทางต่อไปประมาณ 30 นาที ไปยัง ลานพญาศรีสัตตนาคราช ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดนครพนม สิ่งที่สะดุดตามที่สุด คือ รูปปั้นองค์พญานาคทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน ประดิษฐานอย่างโดดเด่นอยู่เหนือริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยร่ำลือกันว่า หากใครมาขอพรจะสัมฤทธิ์ผล
ต่อมาไปไหว้สักการะบูชา พระธาตุนคร วัดมหาธาตุ ซึ่งห่างจากลานพญาศรีสัตตนาคราชประมาณ 1 กิโลเมตร ภายในประดิษฐานพระบรมอรหันต์สารีริกธาตุ โดยเชื่อกันว่า ผู้ที่นมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์เสริมบุญบารมี และมีอำนาจวาสนาเป็นเจ้าคนนายคน
หลังจากนั้นเดินทางเข้าที่พักเพื่อพักผ่อน
โปรแกรมการท่องเที่ยววันที่ 4
เช้าวันที 4 เริ่มต้นวันด้วยการไปไหว้สักการะ พระธาตุเรณูนคร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ขึ้นชื่อของจังหวัดนครพนม โดยมีความเชื่อกันว่า หากผู้ใดไปนมัสการจะส่งผลให้มีวรรณะงดงาม ผุดผ่องเหมือนแสงจันทร์ นอกจากนี้ภายในโบสถ์ยังประดิษฐานพระองค์แสน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคำศิลปะแบบลาวปางสมาธิ เป็นพระคู่บ้านของอำเภอเรณูนครอีกด้วย
หลังจากนั้นั่งรถบัสเดินทางต่อไปอีกประมาณ 20 นาที ไปไหว้สักการะศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของภาคอีสาน นั่นก็คือ พระธาตุพนมวรมหาวิหาร โดยพระธาตุพนมนี้เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงประชาชนลาวด้วยเช่นกัน ดังนั้นควรสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตในวันปีใหม่ไทย
เดินทางออกจากพระธาตุพนมวรมหาวิหารเพื่อไปยัง วัดประชาคมวนาราม ที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยที่วัดแห่งนี้มีมีเจดีย์ขนาดใหญ่ที่ทำมาจากหินทรายธรรมชาติเป็นแห่งแรกในประเทศไทย โดยจำลองแบบการก่อสร้างมาจากบุโรพุทโธ ประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้ภายในองค์เจดีย์ยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่นำมาจากประเทศอินเดียให้พุทธศานิกชนและนักท่องเที่ยวได้กราบไหว้บูชาขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลอีกด้วย
หลังจากสักการะบูชาของเรียบร้อยก็เดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
ตามอ่านทริปท่องเที่ยว ว่าจะไปภาคไหนต่อได้ที่นี้
สรุป
ใครที่ลองมาเที่ยวภาคอีสานแล้วติดใจในความงดงามและความเป็นธรรมชาติสามารถเช่ารถบัสมาเที่ยวอีกได้
หากใครที่สนใจใช้บริการเช่ารถบัส ของ DASH MV ได้ที่เบอร์ 092-185 6699 หรือ LINE: @DASHMV ซึ่งจะทำให้การเดินทางของคุณจะปลอดภัยและสบายใจได้อย่างแน่นอน เพราะความปลอดภัยถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
DASH MV
สำหรับผู้ที่สนใจ
ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน
