fbpx

5 ขั้นตอน วางแผนท่องเที่ยวอย่างไรให้สนุก

วางแผนท่องเที่ยวอย่างไรให้สนุก

เคยไหมอยากไปเที่ยวแต่ไม่รู้อะไรเลย อยากจะออกเดินทางท่องเที่ยว แต่โปรแกรมทัวร์ที่จัดให้มาก็ไม่ได้ถูกใจไปซะหมด แถมยังมีเวลาในการในการเที่ยวไม่ค่อยเต็มอิ่มเท่าไหร่ แต่ถ้าเราสามารถออกแบบทริปได้ด้วยตัวเราเอง จะทำให้การเดินทางครั้งนี้เป็นทริปที่ถูกใจเราที่สุดอย่างแน่นอน

วันนี้เราเลยอยากจะมาแชร์วิธีกราวางแผนจัดทริปตั้งแต่ขั้นตอนแรกไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งเหมาะสำหรับมือใหม่ที่เริ่มสนใจอยากเที่ยวด้วยตัวเองไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีวิธีการอะไรบ้าง

สารบัญเนื้อหา

1. หาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่เราจะไป “ยิ่งเยอะ ยิ่งดี”

หาข้อมูล

ข้อมูลคร่าวๆในแต่ละจังหวัดที่พวกเราสนใจจะคงจะต้องมีอยู่แล้วแหละเราเชื่อแบบนั้น เช่น ฤดูไหนมีอะไรเด็ด ควรท่องเที่ยวช่วงไหน สถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้างที่เราสนใจ ยิ่งปัจจุบันนี้การเข้าถึงข้อมูลนั้นง่ายกว่าสมัยก่อนเสียอีกพอ ดังนั้นหากอ่านรีวิวเยอะๆ เราก็จะได้ไอเดียว่าเราควรจัดทริปยังไงบ้าง กี่วัน ตั้งงบไว้กี่บาท

ซึ่งบางสถานที่สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งปีตลอด แถมไม่ต้องใช้เวลาเยอะแค่วันเดียวก็สามารถเที่ยวครบแล้ว แต่สิ่งที่ควรรู้เลยคือ ช่วงมรสุมหรือช่วงที่สภาพอากาศแย่ๆ เวลาไปเที่ยวจะได้ไม่เซ็ง ฉะนั้น ลองร่างแผนคร่าวๆ ว่าจะไปไหน กี่วัน อะไรยังไงบ้าง ลองวิธีนี้ดูแล้วคุณจะพบกับประสบการณ์ใหม่ๆ

2. จัดสรรคนร่วมทริป วันเวลา และค่าใช้จ่าย

คน เงิน และเวลา 3 อย่างนี้ เป็นปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงเวลาจะจัดทริปไปเที่ยว วิธีวางแผน คือ หาคนที่สนใจร่วมทริปและพร้อมจะลุยไปกับเรา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิท ครอบครัว หรือเพื่อนที่ทำงาน เป็นต้น การจัดการกับเวลาเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเวลาของเราแต่ละคนมีเท่ากันก็จริง แต่เราว่างไม่เท่ากัน ควรหาเวลาที่ว่างพร้อมๆ กัน จะได้ไม่มีปัญหากับการจัดเวลา และที่สำคัญคือ การดูเวลาเที่ยว เพราะแต่ละที่เที่ยวของเราจะมีฤดูของการท่องเที่ยว

ดังนั้นการเลือกช่วงเวลาเป็นสิ่งสำคัญต่อการเที่ยว และพยายามจัดการกับค่าใช้จ่ายให้ดีๆ คิดคำนวนว่าต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

เรื่องงบประมาณโดยส่วนมากแล้วเราสามารถรู้ได้จากการหาข้อมูล ซึ่งเราจะสามารถประมาณได้ว่า ไปเที่ยวทริปนึงใช้เงินประมาณกี่บาท แล้วเราก็ใช้ตัวเลขตรงนี้มาวางแผนการเก็บเงินไปเที่ยวได้ ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับการวางแผนทางการเงินและวินัยในการออมของแต่ละคน ดังนั้น วางแผนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

3. จัดการเรื่องการเดินทาง

หารถบัสดินทาง

จากการวางแผนการเดินทาง พอเราได้วันเวลาครบแล้ว รถไฟ ข้อดีคือ ง่าย ประหยัด เหมาะสำหรับคนที่อยากชมเมืองชมวิว และอยากได้ภาพถ่ายที่สวยๆรถไฟ ข้อเสียคือ เสียเวลาเพราะต้องนั่งกันจนเมื่อยก้นเลยทีเดียวถึงแม้จะราคาถูกก็ตาม ดังนั้นการเช่ารถบัสก็เป็นวิธีที่ประหยัดอีกแบบ เสียแค่ไม่กี่บาท แถมยังมีพนักงานขับรถที่พร้อมพาขับชมเมืองที่แท้จริง

เรายอมรับว่า บางทีสาเหตุของการเกิดทริป มันไม่ได้เกิดจากความอยากแต่เพียงอย่างเดียว แต่มันยังเกิดจากอิทธิพลของราคาของค่ารถถูกก็เป็นสำคัญด้วย เพราะราคาค่ายานพาหนะถือได้ว่าเป็นปัจจัยหลักที่จะเป็นตัวกำหนดว่าทริปนั้นจะถูกหรือจะแพง สิ่งที่เราต้องทำ คือ หาให้ได้น้อยกว่านั้น ยิ่งน้อยกว่ามากเท่าไหร่ยิ่งดีมากเท่านั้น

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

4. เลือกที่พัก

เราต้องตกลงกับคนที่ไปทริปกับเราให้ดีว่าอยากพักแบบไหน เลือกให้เหมาะสม ส่วนมากดูจากรีวิวและทำเลที่ตั้งเป็นหลัก สำหรับที่พักในเบื้องต้นก็หาเอาใน agoda.com, booking.com โดยดูจากคะแนนรีวิว ราคา และความสะดวกในการเดินทาง พอถูกใจอันไหนเราถึงจะมาเสิร์จหา ว่ามีใครรีวิวไว้ว่าอย่างไรบ้าง ถ้าโอเคกับที่พักที่เลือกก็ค่อยทำการจอง และเวลาจองที่พักแนะนำให้เลือกที่พักที่มีอาหารเช้ารวมอยู่ในค่าที่พักแล้ว เพราะสามารถจัดเต็มมื้อเช้าแล้วหิ้วท้องไปถึงช่วงกลางวัน/บ่ายๆได้ เวลาจอง ถ้าเรามีแพลนที่ค่อนข้างแน่นอนแล้ว ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรอีก แนะนำให้จองในเว็บของที่พักเองก็ดี เพราบางทีอาจได้ราคาถูกกว่าก็เป็นได้ แต่ถ้าแพลนเรายังไม่นิ่ง ให้จองที่พักแบบยกเลิกได้ฟรีไว้ก่อน เผื่อต้องการเปลี่ยนที่พักตอนใกล้ๆ

พอจองผ่านเว็บเสร็จ ได้อีเมล์ยืนยันเรียบร้อยแล้ว เราควรอีเมล์ไปหาที่พักโดยตรงก่อนเดินทางสัก 3-5 วัน เพื่อยืนยันว่า เราพักที่นี่แน่นอน ถ้าไปถึงโรงแรมที่พักจริงแล้วเกิดไม่มีห้องว่างให้เรา เพราะโรงแรมอาจอ้างว่าไม่มีการจองผ่านทางเว็บไซต์ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้  เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น ที่แนะนำคือ งบที่ใช้ไปกับค่ารถและที่พักควรรวมกันแล้วไม่เกิน 50% ของงบทั้งหมดของทริป ถ้าต้องเกินจริงๆ ก็อย่าให้เกิน 60% ไม่งั้นอาจต้องเพิ่มงบ

5. เตรียมข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น

มาถึงขั้นตอนสุดท้ายกันแล้ว ว่าด้วยเรื่องของ สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการจัดกระเป๋าเดินทางนั้นเราต้องรู้อะไรบ้าง ดังนั้นจะเขียนแบบสรุปพอได้ไอเดีย เผื่อเอาไว้เป็นแนวทาง โดยจะแบ่งสิ่งที่ต้องเตรียมออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ คือ

  • กลุ่มที่ 1 ยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาแก้ปวดหัวลดไข้ ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้อาการภูมิแพ้ ยาแก้เมารถ เป็นต้น ส่วนใครที่มีโรคประจำตัวแนะนำว่าควรพกไปด้วย อย่าคิดว่าที่ไหนๆ ก็มีขาย เพราะบางที่ๆ เราไปอาจจะไม่มีร้านยา เกิดเราบาดเจ็บหรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับโรคของประจำตัว อาจจะหาโรงพยาบาลไม่ทัน

  • กลุ่มที่ 2 ของใช้เกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์ เช่น โน้ตบุ๊ก รางปลั๊ก หัวแปลงไฟ สายชาร์จ Card-Reader Power bank เป็นต้น นอกตากนี้กล้องก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ใครหลายๆคนคำนึงถึงเป็นสิ่งแรกๆ เลยก็ว่าได้ เพราะการไปเที่ยวคือการได้รูปดีๆ สักใบเก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดี

  • กลุ่มที่ 3 ของใช้ในห้องน้ำ เช่น สบู่ แชมพู แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ทิชชู่ ฯลฯ ถึงแม้ส่วนใหญ่พวกนี้จะมีให้ตามโรงแรม แต่ติดไปดีกว่ากันเหนียว

  • กลุ่มที่ 4 เสื้อผ้า โดยเช็คสภาพอากาศเป็นหลัก ถ้าอากาศหนาวควรติดถุงมือ ผ้าพันคอ ฯลฯ ทำให้ร่างกายอบอุ่นไว้ก่อน แต่ถ้าอากาศร้อนก็ใส่แค่บางๆ ก็พอ จัดกระเป๋าเอาไปแค่พอประมาณไม่ต้องถึงขนาดบ้าหอบฟาง

สรุป

ทั้งหมดนี้เรามีแพลนเดินทางไว้แนะนำ เพื่อสะดวกต่อคนที่อยากเลือกเที่ยวเองแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้การเดินทางท่องเที่ยวของคุณ เป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ พร้อมกลับมาด้วยพลังชีวิตที่เต็มเปี่ยม เพื่อเริ่มต้นการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากใครที่สนใจไปท่องเที่ยวและต้องการใช้บริการเช่ารถบัส สามารถติดต่อ DASH MV ได้ที่เบอร์ 092-185 6699 หรือ LINE: @DASHMV ซึ่งจะทำให้การเดินทางของคุณจะปลอดภัยและสบายใจได้อย่างแน่นอน เพราะความปลอดภัยถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ