fbpx

Checklist จุดชมทะเลหมอกหน้าหนาวที่ไปแล้วไม่ผิดหวัง

Checklist จุดชมทะเลหมอกหน้าหนาวที่ไปแล้วไม่ผิดหวัง

จุดชมทะเลหมอก

เมื่อเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูหนาวใครหลายคนเริ่มมองหาสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อออกไปสัมผัสสายหมอกท่ามกลางอากาศเย็นสบาย แน่นอนว่าพิกัดเที่ยวหน้าหนาวที่ประเทศไทยมีหลากหลายจุด ซึ่งใครกำลังจะวางแผนหรือมีทริปปลายปี ทริปต้นปีอยู่ในใจจะขอแนะนำให้รู้จักกับ 8 จุดชมหมอกหน้าหนาวที่ไปแล้วไม่ผิดหวัง ปลดปล่อยความเครียด

สารบัญเนื้อหา

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

ดอยผาตั้ง จ.เชียงราย

ดอยผาตั้ง

ดอยผาตั้ง เป็นจุดชมทะเลหมอกของจังหวัดเชียงรายที่มีชื่อเสียงในช่วงฤดูหนาว อีกทั้งยังเดินง่าย ใช้เวลาไม่นาน มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยผาหม่น ซึ่งเป็นเทือกเขาแนวพรมแดนไทย-ลาว สูง 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สามารถชมวิวได้ในช่วงเช้าสัมผัสกับทะเลหมอกสีขาวโพลนตัดกับแสงอาทิตย์สีส้ม และช่วงเย็นเป็นจุดชมพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าที่มองเห็นวิวแม่น้ำโขงและชายแดนฝั่งลาวได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งปลูกผลไม้เมืองหนาวมากมาย เช่น บ๊วย ลูกท้อ สาลี่ แอปเปิ้ล และชา

ยิ่งกว่านั้นในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม บนยอดดอยจะสะพรั่งด้วยสีชมพูจากดอกนางพญาเสือโคร่งที่บานในช่วงนั้น ครั้นถึงเดือนกุมภาพันธ์ ที่นี่จะถูกระบายเป็นสีขาวจากดอกเสี้ยวป่าที่อวดช่อดอกงดงามอีกเช่นกัน โดยไฮไลท์ของการเที่ยวดอยผาตั้งนั้นมักอยู่ที่การชมวิวจากจุดชมวิวช่องผาบ่อง ในระดับความสูงที่ 1,635 เมตร จากระดับทะเลปานกลางซึ่งสามารถมองเห็นแม่น้ำโขงทอดตัวคดเคี้ยวในฝั่งลาว และยังเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม รวมทั้งยังสามารถมองเห็นยอดภูชี้ฟ้าที่ห่างออกไปอีกราว ๆ 25 กิโลเมตรได้อย่างน่าประทับใจ

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ : ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย
จุดบริการนักท่องเที่ยวดอยผาตั้ง โทร. 0-5391-8301

ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย

ภูชี้ฟ้าตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า อ.เกิง จ.เชียงราย ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ มีภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบสลับกับเนินเขาเตี้ยๆ ตลอดไปจนถึงภูเขาสูงชัน พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นภูเขาสลับกันไป มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติอยู่ที่หน้าผาลักษณะปลายยอดแหลมเป็นแนวยาว ชี้ไปบนฟ้าทางฝั่งประเทศลาว จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่า “ภูชี้ฟ้า”

โดยเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามราวภาพวาด ด้วยทิวทัศน์ของภูเขาสลับซับซ้อนดูกว้างไกล การจะเดินขึ้นไปชมทะเลหมอกควรจะขึ้นไปยอดภูตั้งแต่ฟ้ายังมืด มีสภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวนั้น ที่นี่จะหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสัมผัสความหนาว ชมทะเลหมอกยามเช้า และดื่มด่ำความสวยงามของดอกชงโคป่าสีขาวที่ออกดอกบานสะพรั่ง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ :43/1 ม. 24 ต.ตับเต่า อ.เกิง จ.เชียงราย
สอบถามเพิ่มเติม : วนอุทยานภูชี้ฟ้า โทร. 08-1883-4510
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อำเภอเทิง โทร. 0-5379-5345

กิ่วแม่ปาน จ.เชียงใหม่

กิ่วแม่ปานตั้งอยู่ในอุทยานดอยอินทนนท์ อยู่ใกล้กับพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ที่นี่เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้นประมาณ 3 กม. หากใครไปก็จะใช้เวลาในการเดิน 2-3 ชม.เท่านั้นเอง ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวจะเป็นช่วง ธันวาคม-มกราคม ส่วนในช่วง มิถุนายน-ตุลาคม เส้นทางนี้จะปิดให้บริการเพื่อพักธรรมชาติให้ฟื้นตัว นอกจากนี้ยังมีทางเดินลาดชันสลับขึ้นลงและทางเดินลัดเลาะไปตามริมเขาให้ได้เพลิดเพลินกับ ธรรมชาติ ลำธารและจุดชมวิวเป็นระยะ รวมถึงจุดไฮไลท์อย่างจุดชมทะเลหมอกได้กว้างสุดลูกหูลูกตา สภาพป่าโดยรอบเป็นป่าดิบชื้น อากาศเย็นสบายตลอดเส้นทาง

จุดชมวิวทะเลหมอกที่ขึ้นชื่อว่าวิวสวยมาก คือ จุดชมวิวดอยกิ่วลม ที่มีชื่อเสียงและสวยงดงามแห่งหนึ่งของไทย นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มียอดดอยที่สวยงามอีกมากมายหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ดอยช้าง ดอยสามหมื่น รเนื่องจากเส้นทางเดินมีความสลับซับซ้อนและเดินเลียบเขาจึงต้องมีไกด์ท้องถิ่นนำเดิน ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่ใครๆ ใฝ่ฝันอยากจะมา บรรยากาศโดยทั่วไปของที่นี่จะมืดครึ้ม มีแสงแดดลอดผ่านเข้ามาแบบรำไรท่ามกลางมอสที่ห้อยระย้า ฝอยลมตามต้นไม้ขนาดใหญ่ และเฟิร์นหลากชนิด ซึ่งส่วนใหญ่ที่นี่จะถูกปกคลุมด้วยหมอกขาวและอากาศเย็นจัดตลอดทั้งปีวมถึงมี โป่งเดือด น้ำพุร้อนธรรมชาติอีกด้วย ส่วนกิจกรรมในบริเวณอุทยานฯ นั้น ที่ฮิตสุดๆ ก็คือ การล่องแพ ในลำน้ำแม่แตง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ :  ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 
สอบถามเพิ่มเติม : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทร. 0-5328-6729 
Facebook : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 

ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

ตามล่าหาทะเลหมอกหน้าฝนที่ “ภูทับเบิก” จุดชมวิวสูงสุดของเพชรบูรณ์แวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพแบบทะเลภูเขาและหมอกขาวฟุ้งกระจายตลอดทั้งวัน สภาพภูมิอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่อพยพหนีร้อนมาที่ภูทับเบิกกันเป็นจำนวนมาก เดิมที “ภูทับเบิก” เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งที่อพยพมาอยู่ที่บ้านทับเบิก ทำมาหากินโดยทำเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิงเขา ในช่วงหน้าฝนยังมีการทำไร่กะหล่ำปลีที่สวยงาม โดยจุดท่องเที่ยวชื่อดังในภูทับเบิก ได้แก่ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว, ผาหัวสิงห์, ภูแผงม้า, ตลาดม้ง, ภูทับเบิก, วัดป่าภูทับเบิก, ทุ่งกังหันลม

โดยบนเขาภูทับเบิกมีจุดกางเต็นท์และบริการเต็นท์เช่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสทะเลหมอกและอยากตื่นให้ทันชมพระอาทิตย์ขึ้น ในช่วงเดือน ธ.ค. – ม.ค. จะมีดอกพญาเสือโคร่ง บานสะพรั่งเป็นสีชมพูให้ได้ชมตามไหล่ทางขึ้นสู่ยอดดอย อุณหภูมิต่ำสุดช่วงฤดูหนาวประมาณ 2-5 °C หากโชคดีอาจจะได้ชมปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งหรือแม่คะนิ้งอีกด้วย

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ : บ้านทับเบิก ต.วังตาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์
สอบถามเพิ่มเติม : ททท.จังหวัดพิษณุโลก โทร. 0-5525-2742 – 3

แนะนำกิจกรรมเล่นแก้ง่วง ระหว่างเดินทางออกทริป

ดอยผาหม่น จ.เชียงราย

จุดชมวิวทะเลหมอกสองฝั่งโขงที่อยู่ตรงกลางระหว่างภูชี้เดือนและดอยผาตั้ง บริเวณเส้นแบ่งเขตแดนธรรมชาติระหว่างไทย-ลาว สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้กว้างไกล 360 องศา ไม่ว่าจะยืนอยู่ตรงมุมไหนก็จะได้เห็นวิวธรรมชาติที่สวยงามและแตกต่างกันไปตามช่วงเวลา ยามเช้าตรู่ได้ชมวิวทะเลหมอกยามเช้า เคล้าแสงอาทิตย์สีส้ม ช่วงสายเมื่อหมอกจางไปแล้วจะเห็นวิวแม่น้ำโขงไหลคดเคี้ยวไปตามหุบเขาเบื้องล่าง  ยามเย็นฝั่งทิศตะวันตกยังสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกดินท่ามกลางทิวเขาฝั่งไทยได้อีกด้วย

นอกจากนี้ดอยผาหม่นยังเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่ต้องแวะมาชมความสวยงามของดอกไม้เมืองหนาว เพราะที่นี่ปลูกไม้เมืองหนาวมากมายหลายชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นดอกทิวลิป ลิลลี่ ดอกชัลเวียสีแดง ต้นคริสต์มาตย์สีแดง หลากหลายสีและหลายสายพันธุ์เลยทำให้เกิดสีสันสวยงามที่แตกต่างกันไป จึงทำให้ดอยผาหม่นนั้นเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนต่างก็เดินทางมาเที่ยวและเก็บภาพสวยๆกลับไปด้วย

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ : บ้านร่มฟ้าผาหม่น ต. ปอ อ. เวียงแก่น จ. เชียงราย 
สอบถามเพิ่มเติม : ททท.สำนักงานเชียงราย-พะเยา โทร. 053 717 433

กลอเซโล จ.แม่ฮ่องสอน

จุดชมวิวทะเลหมอกสองแผ่นดิน กลอเซโล ในภาษาปกาเกอะญอ หมายถึง ดินแดนแห่งต้นไม้เป็นหมู่บ้านตามแนวชายแดน ไทย-เมียนมา ฝั่งแม่น้ำสาละวินที่โอบล้อมด้วยภูเขากลอเซโล  เป็นหมู่บ้านเล็กๆ แสนเงียบสงบเป็นที่อยู่อาศัยของชาวกะเหรี่ยงที่ประกอบอาชีพทำการเกษตร ทำไร่หมุนเวียนเป็นหลัก เนื่องจากมีทำเลที่ตั้งอยู่บนเขาสูง โอบล้อมไปด้วยทะเลหมอกรอบด้าน ภายในหมู่บ้านจึงมีจุดกางเต็นท์ ชมทะเลหมอกอยู่หลายจุด และด้วยพิกัดที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา จึงทำให้เรามีโอกาสได้ชมทะเลหมอกปกคลุมทิวเขาทางฝั่งเมียนมาด้วย ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจึงเรียกทะเลหมอกที่กลอเซโลว่า ทะเลหมอก 2 แผ่นดิน

โดยไฮไลท์ของที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์ได้ในบริเวณจุดชมวิวทำให้ตื่นมาช่วงเช้าสามารถชมหมอกขาวโพลนได้จากเต็นท์ของตัวเอง ซึ่งช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เดือนธันวาคมค่ะ เป็นช่วงเวลาที่ทะเลหมอกจะก่อตัวหนาแน่น ปกคลุมไปทั่วขุนเขาทั้งฝั่งไทยและเมียนมา ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามมาก

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ :บ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน
สอบถามเพิ่มเติม : ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร. 0 5361 2982-3
Facebook : TAT Maehongson

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จ.เชียงใหม่

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มีพื้นที่ครอบคลุม 2 จังหวัด คือเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน มีสภาพป่าและธรรมชาติที่อุสมบูรณ์เป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน  นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมขึ้นไปพักค้างแรมที่จุดชมวิวดอยกิ่วลม ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ว่าจะเป็น บ้านพักอุทยานและลานกางเต็นท์ ห้องน้ำ ร้านอาหาร เพียงแค่ตื่นเช้า เดินออกมาจากที่พักก็ได้สัมผัสอากาศหนาว ชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่รับรองว่าสวยตราตรึงใจไม่แพ้ที่ไหนๆ แน่นอน

โดยอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามและจุดชมวิวที่สามารถชมบรรยากาศอันร่มรื่น โดยเฉพาะบริเวณห้วยน้ำดัง ที่มีชื่อว่าทะเลหมอกที่งดงามยิ่ง  เป็นจุดชมวิวที่สวยงามและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย จากจุดนี้สามารถมองเห็นดอยเชียงดาวได้ หรือจะเลือกขึ้นดอยสามหมื่นหรือดอยช้างก็ได้ ซึ่งเป็น ภูเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ : หมู่ 5 ต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ 
สอบถามเพิ่มเติม : อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง โทร. 0-5326-3910
และ 0 -5324-8491
Facebook : อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

ภูลังกา จ.พะเยา

ภูลังกา

จ.พะเยา มีจุดชมวิวทะเลหมอกที่มีเสน่ห์ธรรมชาติไม่เป็นสองรองใคร ดอยภูลังกาภูเขาสูงชันอยู่บนเทือกเขาสันปันน้ำเป็นสันเขาแคบๆ ที่มีทิวทัศน์ทางทิศตะวันตกเป็นป่าดงดิบ และทิศตะวันออกเป็นหน้าผาสูงชันมีหญ้าปกคลุม เมื่อขึ้นไปบนยอดดอยชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้าได้สวยงาม และยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของประเทศลาวได้อีกด้วย ด้วยลักษณะที่เป็นยอดเขาสลับซับซ้อนนี้เองจึงเหมาะสำหรับนักนิยมธรรมชาติที่ชอบการเดินป่าพิชิตยอดดอยสูง ซึ่งเหมาะสำหรับการชมทิวทัศน์ในช่วงฤดูหนาวเป็นอย่างยิ่ง

ซึ่งทางวนอุทยานฯ ได้จัดเส้นทางในการเดินป่าระยะทาง 3 กิโลเมตร เริ่มต้นที่ห้องเรียนธรรมชาติ ซึ่งเป็นสวนสมุนไพร สวนกล้วยไม้ และพันธุ์ไม้หายาก ก่อนจะเดินผ่านป่าก่อโบราณ ซึ่งมีนกมากมายหลายชนิดเหมาะสำหรับการดูนก นอกจากนี้ยังมีทุ่งดอกโคลงเคลงซึ่งจะบานเบ่งสะพรั่งในช่วงปลายฝนต้นหนาวอีกด้วย

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ที่อยู่ : บ้านน้ำต้ม หมู่ที่ 5 ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา
สอบถามเพิ่มเติม : วนอุทยานภูลังกา โทร. 081-883-0307, 053-711-402

เป็นอย่างไรกันบ้างกับจุดชมทะเลหมอกหน้าหนาวที่เราเลือกมา ไม่ว่าจะเป็น วิว ทัศนียภาพ ธรรมชาติสวยงามมากๆ โดยบางสถานที่ก็ต้องออกแรงกันหน่อย เพื่อที่จะเดินขึ้นไปชมความงามที่ธรรมชาติสรรสร้างขึ้นมา รับรองว่าถ้าขึ้นไปถึงแล้ว ได้เห็นวิวสวยๆ แบบนี้ หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งอย่างแน่นอน และใครได้ไปเที่ยวอย่าลืมมาแบ่งปันประสบการณ์กันนะ

DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

การเดินทางในประเทศไทยนั้นกินพลังงานชีวิต เรียกว่าเป็นอีกอุปสรรคหนึ่งในชีวิตประจำวันก็ว่าได้ เนื่องจากการเดินทางในประเทศของเราด้วยรถสาธารณะนั้นยังมีตัวเลือกให้บริการอย่างไม่เพียงพอ โดยเฉพาะถ้าหากเป็นพื้นที่นอกตัวเมือง การหารถสาธารณะเพื่อเดินทางให้ถึงจุดหมายยิ่งยากขึ้นเป็นเท่าตัว ด้วยเหตุนี้ “รถรับส่งพนักงาน” จึงเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการหรือบริการที่แต่ละองค์กรควรให้ความสนใจ เพื่อที่จะได้เข้ามาอุดรอยรั่วดังกล่าวและทำให้พนักงานรู้สึกได้รับการอำนวยความสะดวก ทำให้มีกำลังใจในการเดินทางมาทำงานในแต่ละวันเนื่องจากไม่ต้องเสียแรงยืนรอหรือเบียดเสียดกับผู้อื่นเพื่อใช้รถสาธารณะ ดังนั้นในวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าทำไมแต่ละองค์กรจึงควรมีรถรับส่งพนักงาน รวมถึงขั้นตอน สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำสวัสดิการรถรับส่งพนักงานแบบมืออาชีพด้วยว่าเป็นอย่างไร

เดินขึ้นเขาชมวิวสวยๆ จุดชมทิวทัศน์ ณ เขาแดง

เดินขึ้นเขาชมวิวสวยๆ จุดชมทิวทัศน์ ณ เขาแดง

จุดชมทิวทัศน์ ณ เขาแดง

เขาแดง เป็นภูเขาหินปูนที่สวยงาม และใกล้ๆ ยังเป็นที่ต้ังของที่ทำการ อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งในบริเวณนี้มีป่าชายเลนที่สมบูรณ์ สำหรับเขาแดงเป็นยอดเขาที่มีจุดชมทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเขาสามร้อยยอดที่มีแนวเขาหินปูนอยู่เรียงรายรอบด้าน อีกทั้งยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือขอบทะเลที่งดงามมากๆ

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

ทางเดินขึ้นเขาแดง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ไปประมาณ 400 เมตร และเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 300 เมตร ใช้เวลาในการเดินประมาณ 30 นาที โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขึ้นชมทิวทัศน์ ณ จุดนี้ คือช่วงเวลา 05.00-07.00 น ซึ่งเมื่อขึ้นไปถึงด้านบนจะได้สัมผัสกับลมเย็นๆ ในยามเช้า และมองเห็นความงามของทัศนียภาพเบื้องล่างที่มีบ้านเรือนของชาวบ้าน และมองออกไปได้ไกลถึงชายฝั่งทะเลกันเลยทีเดียว

บริเวณจุดชมวิวเราจะได้ดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขาสามร้อยยอด หากมาในช่วงฤดูร้อนจะได้เห็นภูเขาเปลี่ยนสีไปตามพรรณไม้แปลกตาต่างๆที่ขึ้นไล่ระดับไปตามความสูงของภูเขา ไม่นับรวมกับด้านทิศตะวันออกของจุดชมวิวที่เปิดรับวิวสวยๆของทะเลอ่าวไทย วิถีชีวิตชาวประมงพื้นที่บ้านที่ออกเรือหาปลาในช่วงเช้าบนเส้นขอบฟ้าทะเลไกลสุดลูกหูลูกตาส่วนอีกด้านหนึ่งของจุดชมวิวสามารถมองเห็นวัดเขาแดงและคลองเขาแดงที่สายน้ำไหลลัดเลาะเลียบไปตามป่าโกงกางขนาดใหญ่

พอขึ้นไปถึงบริเวณจุดชมวิวเขาแดงแล้ว นอกจากวิวสวยๆ ยังสามารถถ่ายรูปได้หลายจุดอีกด้วย แต่สวยสุดๆ น่าจะเป็น บริเวณชะง่อนผาด้านตะวันตก แต่แน่นอนว่าต้องใช้ความระมัดระวังกันด้วย และอย่าลืมแต่งตัวรัดกุม และพกยากันยุงมาด้วย เพราะที่นี่ยุงค่อนข้างชุมเลยทีเดียว

โดยรายละเอียดในการขึ้นไปเที่ยวชม นักท่องเที่ยวต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ ก่อน ซึ่งในระหว่างทางเดินขึ้นไปท่านจะได้พบเห็นพันธ์ุไม้ของเขาหินปูน และอาจจะได้พบเห็นค่างแว่นถิ่นใต้ได้ไม่ยากเช่นกัน

ที่อยู่ : ตำบลเขาแดง อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

พิกัด : https://goo.gl/maps/QuA7hKN7tujUpp2S8 

เปิดให้เข้าชม : 05:00 น. – 19:00 น.

เขาแดง เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และอยู่ใกล้ทะเลที่น่าสนใจเลยทีเดียวค่ะ ใครชอบเที่ยวชมธรรมชาติ ปืนป่าเขา ชมความงามแบบนี้ ต้องชอบแน่ๆ ที่สำคัญเสร็จจากชมวิวแล้ว แนะนำว่าอย่าลืมไปล่องเรือชมวิวที่คลองเขาแดงเป็นที่ที่สวยมากๆ เหมือนกันแน่นอน

DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

การเดินทางในประเทศไทยนั้นกินพลังงานชีวิต เรียกว่าเป็นอีกอุปสรรคหนึ่งในชีวิตประจำวันก็ว่าได้ เนื่องจากการเดินทางในประเทศของเราด้วยรถสาธารณะนั้นยังมีตัวเลือกให้บริการอย่างไม่เพียงพอ โดยเฉพาะถ้าหากเป็นพื้นที่นอกตัวเมือง การหารถสาธารณะเพื่อเดินทางให้ถึงจุดหมายยิ่งยากขึ้นเป็นเท่าตัว ด้วยเหตุนี้ “รถรับส่งพนักงาน” จึงเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการหรือบริการที่แต่ละองค์กรควรให้ความสนใจ เพื่อที่จะได้เข้ามาอุดรอยรั่วดังกล่าวและทำให้พนักงานรู้สึกได้รับการอำนวยความสะดวก ทำให้มีกำลังใจในการเดินทางมาทำงานในแต่ละวันเนื่องจากไม่ต้องเสียแรงยืนรอหรือเบียดเสียดกับผู้อื่นเพื่อใช้รถสาธารณะ ดังนั้นในวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าทำไมแต่ละองค์กรจึงควรมีรถรับส่งพนักงาน รวมถึงขั้นตอน สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำสวัสดิการรถรับส่งพนักงานแบบมืออาชีพด้วยว่าเป็นอย่างไร

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน แช่น้ำพุร้อน ชมดอกไม้ รับลมหนาว

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน แช่น้ำพุร้อน ชมดอกไม้ รับลมหนาว

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน

มาถึงวันนี้ ประเทศไทยก็เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะพื้นที่ตอนบนของประเทศที่เริ่มรู้สึกถึงอากาศที่เย็นสบายกันบ้างแล้ว แน่นอนว่าอากาศหนาว ๆ แบบนี้ ใครหลายคนคงอยากออกเดินทางขึ้นเหนือไปสัมผัสบรรยากาศดี ๆ ซึ่งมีอยู่หนึ่งสถานที่ที่อยากจะชวนทุกคนไปเจอกับความสวยงามแบบที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

นั่นก็คือ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ห่างจากตัวเมืองลำปางประมาณ 70 กิโลเมตร ความพิเศษของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ไม่เพียงอยู่ที่ธรรมชาติบริสุทธิ์แล้ว ที่นี่ยังได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังเป็นสถานที่ดำเนินงานตามแนวพระราชดำรัสในการใช้พลังงานน้ำธรรมชาติมาประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่จะได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงฤดูหนาวซึ่งบรรยากาศสวยที่สุด นักท่องเที่ยวจึงมักจับจองบ้านพักกันจนเต็ม อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนมีสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร และมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 592 ตารางกิโลเมตร โดยเป็นแนวแบ่งเขตระหว่างลำปางและเชียงใหม่ นับเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามโดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีน้ำตกและบ่อน้ำร้อนอยู่ในบริเวณเดียวกัน ซึ่งถือเป็นความมหัศจรรย์ยากจะหาที่ไหนเทียบ

ซึ่งช่วงเวลาเหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวและมีอากาศเย็นสบาย คือ เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ โดยไฮไลท์แห่งอุทยานฯ คือ บ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อน เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีสภาพการเกิดทางธรณีวิทยามีกลิ่นกำมะถันอ่อนๆ จำนวน 9 บ่อ ตั้งอยู่รวมกันในบริเวณพื้นที่ที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 3 ไร่ ภายในพื้นที่มีโขดหินน้อยใหญ่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ยามเช้าจะมองเห็นภาพไอน้ำลอยกรุ่นขึ้นมาจากบ่อปกคลุมโดยรอบดูสวยงาม โดยน้ำพุร้อนนั้นมีอุณหภูมิเฉลี่ย 73 องศาเซลเซียส ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่บ่อน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยาน นักท่องเที่ยวสามารถซื้อไข่มาต้มในจุดที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ โดยไข่ต้มที่นี่มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครคือส่วนไข่ขาวจะเหลวและไข่แดงจะเป็นก้อนกลมให้รสชาติมันอร่อย และที่บ่อน้ำพุร้อนนี่เองที่ถือเป็นจุดเช็คอินของนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงเวลาเช้าตอนกระอามิตย์ขึ้น

บ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อน

นอกจากบ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อนแล้ว ก็มี น้ำตกแจ้ซ้อน อีกหนึ่งที่ ซึ่งเป็นน้ำตกที่กำเนิดจากลำน้ำแม่มอญมีน้ำไหลตลอดทั้งปีและมีแอ่งน้ำรองรับอยู่ตลอดสายไหลตกลงมาเป็นชั้น ๆ มี 6 ชั้น อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 3 กิโลเมตร มีทางเดินไปสะดวกและสามารถเดินทางจากบ่อน้ำพุร้อนไปถึงน้ำตกได้ น้ำตกแม่มอญ เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลแรงจากชะง่อนผาสูงลงสู่หุบเหวเบื้องล่าง น้ำจะตกลงมาเป็นชั้น ๆ สวยงาม แต่ที่นี่ไม่เหมาะสำหรับเล่นน้ำ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 5 กิโลเมตร

น้ำตกแจ้ซ้อน

โดย แอ่งน้ำอุ่น ซึ่งอยู่ติดกับบ่อน้ำพุร้อนเป็นแอ่งน้ำที่เกิดจากการไหลมาบรรจบกันของน้ำพุร้อนและน้ำเย็นที่มาจากน้ำตกแจ้ซ้อน ทำให้เกิดเป็นน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิเหมาะแก่การแช่อาบ เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกแจ้ซ้อน มีระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1.30 ชั่วโมง ผ่านจุดสื่อความหมาย 24 จุด ผ่านสภาพป่าและพรรณไม้ที่น่าสนใจหลายชนิด รวมถึงอาจพบสัตว์หายาก เช่น นกเขนเทาหางแดง และปลาปุงแห่งลำห้วยแม่มอญ เส้นทางนี้เหมาะสำหรับเยาวชนผู้สนใจศึกษาพรรณไม้ต่าง ๆ เช่น ต้นก๋งกวาวเครือ หรือยางปาย ศึกษาระบบนิเวศน์ เช่น สภาพภูมิศาสตร์โดยรอบลานน้ำพุร้อน รวมถึงแอ่งอาบน้ำอุ่นที่เกิดจากน้ำร้อนในบ่อน้ำพุร้อนมาบรรจบกับน้ำเย็นที่มาจากน้ำตกแจ้ซ้อน

แอ่งน้ำอุ่น

นอกจากแล้ว ก็มี ดอกเสี้ยวบาน ให้ได้ชม เนื่องจากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ดอกเสี้ยวป่าสีขาวบริสุทธิ์ จะบานทั่วหุบเขาและระห่างทางเดิน ดอกเสี้ยวป่า เป็นดอกไม้พื้นเมือง ลักษณะดอก จะมีสีขาว มี 5 กลีบ มีแต้มสีชมพูที่กลีบใหญ่ ขึ้นบนภูเขาที่มีระดับความสูง 1,000 เมตรขึ้นไป มีขึ้นมากที่สุดที่ บ้านป่าเหมี้ยง ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน ซึ่งในทุกปีจะมีเทศกาลดอกเสี้ยวบาน นักท่องเที่ยวสามารถขับรถชมดอกเสี้ยวบานได้ตามเส้นทางแจ้ซ้อน-บ้านป่าเหมี้ยงเป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร

ดอกเสี้ยวบาน

นอกจากเทศกาลดอกเสี้ยวบานแล้วบ้านป่าเหมี้ยง ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ จุดชมวิวดอยล้าน ตั้งอยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ที่ จซ 7 ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างจังหวัดลำปางกับจังหวัดเชียงใหม่ อากาศเย็นช่วงเดือนธันวาคม – มกราคม เหมาะกับการตั้งเต็นท์พักแรม เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากและมีอากาศหนาว เมื่อฟ้าเปิดเราสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ถึง 4 จังหวัด คือ ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ และ เชียงราย โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว ที่ป่าโดยรอบมีความสวยงาม ต้นไม่นานาชิดอวดใบสีเขียวชอุ่ม โดยเฉพาะปลายฝนต้นหนาวที่ได้สัมผัสกับทะเลหมอกที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง

จุดชมวิวดอยล้าน

โดยในอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนมีสิ่งอำนวยความสะดวก ในอุทยานฯ บริการห้องอาบน้ำแร่ ซึ่งมีทั้งห้องอาบแร่สำหรับ 3-4 คน ห้องรวมแบบตักอาบและบ่อสำหรับแช่อาบกลางแจ้ง โดยน้ำแร่ที่นำมาใช้นั้นต่อท่อโดยตรงมาจากบ่อน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิน้ำแร่ประมาณ 39-42 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถใช้แช่อาบได้ ทั้งนี้ประโยชน์ของการอาบน้ำแร่คือช่วยบำบัดความเมื่อยล้าของร่างกาย ช่วยให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ช่วยรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ เช่น กลากเกลื้อน ผื่นคัน และยังช่วยบรรเทาอาการของโรคกระดูก แต่น้ำแร่จากที่นี่ไม่สามารถใช้ดื่มได้เพราะมีแร่ธาตุบางชนิดสูงกว่ามาตรฐาน

เรียกว่าเป็นที่เที่ยวธรรมชาติ ที่ตอบโจทย์สุดๆ ไปเลย เป็นอุทยานฯ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันมากๆ เหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนแบบจริงๆใครที่มีโอกาสได้มาเที่ยวลำปาง บอกเลยว่าต้องห้ามพลาดที่จะมาเยือนอุทยานแจ้ซ้อน แห่งนี้เลย หากต้องการมาสัมผัสธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวบ้านอย่างใกล้ชิด โดยทางอุทยานมีบ้านพักในอุทยานฯ พร้อมทั้งมีสถานที่กางเต็นท์ให้บริการไว้รองรับนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

สอบถามเพิ่มเติม

  • ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง

  • เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.

  • ค่าเข้าชม : คนไทย 50 บาท , ต่างชาติ 150 บาท

  • โทร : 08-9851-3355
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Chaesonnationnalpark

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/U3difvBiTK9LYA7G8
DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

การเดินทางในประเทศไทยนั้นกินพลังงานชีวิต เรียกว่าเป็นอีกอุปสรรคหนึ่งในชีวิตประจำวันก็ว่าได้ เนื่องจากการเดินทางในประเทศของเราด้วยรถสาธารณะนั้นยังมีตัวเลือกให้บริการอย่างไม่เพียงพอ โดยเฉพาะถ้าหากเป็นพื้นที่นอกตัวเมือง การหารถสาธารณะเพื่อเดินทางให้ถึงจุดหมายยิ่งยากขึ้นเป็นเท่าตัว ด้วยเหตุนี้ “รถรับส่งพนักงาน” จึงเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการหรือบริการที่แต่ละองค์กรควรให้ความสนใจ เพื่อที่จะได้เข้ามาอุดรอยรั่วดังกล่าวและทำให้พนักงานรู้สึกได้รับการอำนวยความสะดวก ทำให้มีกำลังใจในการเดินทางมาทำงานในแต่ละวันเนื่องจากไม่ต้องเสียแรงยืนรอหรือเบียดเสียดกับผู้อื่นเพื่อใช้รถสาธารณะ ดังนั้นในวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าทำไมแต่ละองค์กรจึงควรมีรถรับส่งพนักงาน รวมถึงขั้นตอน สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำสวัสดิการรถรับส่งพนักงานแบบมืออาชีพด้วยว่าเป็นอย่างไร

5 ที่เที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่น่าไปเช็กอิน

5 ที่เที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่น่าไปเช็กอิน

5 ที่เที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่น่าไปเช็กอิน

ใกล้หยุดยาวแล้ว! มาเตรียมแพลนเที่ยวไปพักกายพักใจกับสถานที่ท่องเที่ยวปลายฝนต้นหนาวกันเถอะ พร้อมเก็บภาพความทรงจำขุนเขาและสายหมอก ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบายเงียบสงบ หนีเมืองที่วุ่นวายไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ให้ผ่อนคลายความตึงเครียดจากเรื่องงาน ซึ่งเราคัดมาให้แล้วกับ 5 จุดเช็กอินสุดปัง! ชมบรรยากาศเขียวขจีให้สายหมอกไหลผ่านตัว เหมาะกับคนรักธรรมชาติ ชอบชมวิวสวย ๆ รับรองว่าไม่ผิดหวัง ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูลิสต์ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวกันเลย

สารบัญเนื้อหา

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

เขาหลวง อุทยานแห่งชาติรามคำแหง จังหวัดสุโขทัย

เขาหลวง อุทยานแห่งชาติรามคำแหง

เขาหลวง หรือ อุทยานแห่งชาติรามคำแหง มีเนื้อที่ครอบคลุมอำเภอบ้านด่านลานหอย อำเภอคีรีมาศ และอำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย เขาหลวงคือยอดเขาที่สูงที่สุดในสุโขทัยที่สูงกว่า 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล ที่นี่ไม่ใช่แค่ธรรมชาติงาม แต่มากด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ มีปูชนียวัตถุอันเป็นโบราณสถานสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ป่าเขาสมบูรณ์ ทะเลหมอกดีงาม และยังเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสายของจังหวัด

สำหรับจุดกางเต็นท์บนยอด เขาหลวงสุโขทัย นั้น ก็แทบจะสะดวกสบายทุกอย่างเลย เพราะมีทั้ง ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และ ร้านค้าสวัสดิการต่างๆ ที่มีทั้งขายอาหารเครื่องดื่ม และของใช้จำเป็นต่างๆ ให้ครบเลยค่ะ เรียกได้ว่าใครลืมเอาอะไรไป ก็ซื้อจากที่นี่ได้เลย

เมื่อมาถึงด้านบน เขาหลวง แล้วสามารถเดินไปเที่ยวตามยอดต่างๆ ได้อีกนะคะ ไม่ว่าจะเป็น ยอดเขานารายณ์ ที่ไว้สำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า ยอดเขาแม่ย่า ไว้สำหรับชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยมากๆ นอกจากนั้น ก็จะมี ยอดเขาเจดีย์ ยอดเขาภูลังกา และ ผาชมปรง

ติดต่อสอบถามได้ที่

ที่อยู่ : เขาหลวง ตำบลบ้านน้ำพุ อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย
พิกัด : https://goo.gl/maps/vd2FKwBrDvd6ooEK6
เปิดให้เข้าชม : เปิดให้ขึ้น 08.00 น. และไม่อนุญาตให้ขึ้นเขาหลัง 15.30 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาทโทรศัพท์ : 0-5561-9200-1
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/RamkhamhaengNationalPark/

ผาชะนะได อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี

ผาชะนะได อุทยานแห่งชาติผาแต้ม

ผาชะนะได ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตำบลนาโพธิ์กลาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดใจด้วยหน้าผาที่ยื่นออกไปรับลมบนที่สูง ปกคลุมด้วยป่าสนสองใบ ทิวทัศน์เบื้องหน้าเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน และที่นี่ยังเป็นจุดที่กรมอุตุนิยมวิทยาใช้คำนวณพยากรณ์เวลาดวงอาทิตย์ขึ้นของประเทศไทยด้วยการเห็นลำแสงแรกเริ่มของ ตะวัน ณ เส้นแวงที่ 105 องศา 37 ลิปดา 17 ฟิลิปดาอีกด้วย

อีกหลายจุดชมวิวทางผ่านไปสู่ของ ผาชะนะได คือ ลานดอกไม้ดิน และการชมพะลานหิน ได้แก่ พะลานหินวัดภูอานนท์ พะลานถ้ำไฮ พะลานภูโลง พะลานผายะยืด พะลานวัดถ้ำอมรถ้ำ ถ้ำปาฏิหาริย์ ถ้ำฝ่ามือแดงบ้านปากลา ผาที่วัดภูอานนท์โหง่นแต้ม เสาเฉลียง และหินโยกมหัศจรรย์ ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 50 ตัน แต่ใช้แรงเพียงคนเดียวโยกได้ หรือจะท่อง ป่าดงนาทาม ซึ่งมีความหลากหลายทางธรรมชาติ เป็นแหล่งเดินป่ายอดนิยมสำหรับนักผจญภัย

แต่ที่จะไม่พูดไม่ได้เลย คือ ทะเลหมอกของผาชะนะไดที่สวยงามเป็นที่กล่าวขานกันว่าใครมีโอกาสเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเป็นคนแรกก็เหมือนกับได้เพิ่มพลังให้ชีวิต ดั่งเช่นแสงที่ตัดเส้นขอบฟ้านั่นเอง ช่วงเวลาเหมาะสำหรับการมาชมวิวสวยๆ จะเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ตั้งแต่ตุลาคม-กุมภาพันธ์ เพราะช่วงนี้จะได้ทั้งอากาศเย็นๆ และได้ชมดอกไม้บานสะพรั่งอีกด้วย

ติดต่อสอบถามได้ที่

ที่อยู่ : ตำบลนาโพธิ์กลาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด : https://goo.gl/maps/jc61BtFdHjnGhpWeA
เปิดให้เข้าชม : สอบถามได้จากอุทยานฯ
โทรศัพท์ : 0-4524-6332-3

ทำไมต้องทำกิจกรรม CSR ทำแล้วได้อะไร

น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก

น้ำตกทีลอซู

น้ำตกทีลอซู เป็นน้ำตกที่สวยงามมาก จนได้รับการยกย่องว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของประเทศไทย ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก สายน้ำตกนั้นเกิดจากลำน้ำห้วยกล้อท้อที่ไหลผ่านหน้าผาสูงชันลดหลั่นเป็นชั้น ๆ เกิดเสียงดังกึกก้องท่ามกลางป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์

นอกจากความงามของ น้ำตกทีลอซู แล้ว สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง คือ น้ำตกทีลอจ่อ เป็นน้ำตกหินปูนที่ไหลจากลำธารลงสู่แม่น้ำ น้ำตกสายรุ้ง ต้องล่องเรือเพื่อไปชมเท่านั้น หากช่วงเวลาเหมาะสมนักท่องเที่ยวจะเห็นรุ้งกินน้ำซึ่งเกิดจากแสงที่ตกกระทบกับละลองน้ำของสายน้ำตก น้ำตกพาเจริญ เป็นน้ำตกที่มีจำนวนชั้นมากถึง 97 ชั้น น้ำตกทีลอเล ตั้งอยู่ในเขตผืนป่าตอนบนของลำน้ำแม่กลอง บริเวณรอยต่อระหว่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ดอยหัวหมด เป็นจุดชมวิวทะเลหมอก ถ้ำตะโค๊ะบิ เป็นถ้ำขนาดใหญ่ กิจกรรมท่องเที่ยว ล่องเรือยางชมน้ำตก สมัยก่อนเป็นการล่องแพ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นเรือยางแทน ชมถ้ำ ชมทะเลหมอก

เมื่อมาถึงด้านบน เขาหลวง แล้วสามารถเดินไปเที่ยวตามยอดต่างๆ ได้อีกนะคะ ไม่ว่าจะเป็น ยอดเขานารายณ์ ที่ไว้สำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า ยอดเขาแม่ย่า ไว้สำหรับชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยมากๆ นอกจากนั้น ก็จะมี ยอดเขาเจดีย์ ยอดเขาภูลังกา และ ผาชมปรง

ติดต่อสอบถามได้ที่

ที่อยู่ : ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
พิกัด : https://goo.gl/maps/gm4Zz9XVdFnJx92i6  
เปิดให้เข้าชม : สามารถสอบถามได้จากบริษัททัวร์ในการจัดล่องแพ
โทรศัพท์ : 055-508780 ในเวลาราชการ หรือ  088-4275272

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ตั้งอยู่ที่เป็นอุทยานแห่งชาติที่ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด คือ อำเภอแม่แตง อำเภอเวียงแหง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 782,575 โดยมีสภาพป่าและธรรมชาติที่สมบูรณ์ ภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามและจุดชมวิวที่สามารถชมบรรยากาศอันร่มรื่น โดยเฉพาะบริเวณห้วยน้ำดัง ที่มีชื่อว่าทะเลหมอกที่งดงามยิ่ง มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังมียอดดอยที่มีธรรมชาติงดงามอีกหลายแห่ง เช่น ดอยช้าง ดอยสามหมื่น รวมทั้งมีโป่งเดือดซึ่งเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติ ส่วนการล่องแพในลำน้ำแม่แตงก็เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย

จุดชมวิวทะเลหมอกที่ขึ้นชื่อว่าวิวสวยมาก คือ จุดชมวิวดอยกิ่วลม ที่มีชื่อเสียงและสวยงดงามแห่งหนึ่งของไทย นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง มียอดดอยที่สวยงามอีกมากมายหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ดอยช้าง ดอยสามหมื่น รวมถึงมี โป่งเดือด น้ำพุร้อนธรรมชาติอีกด้วย ส่วนกิจกรรมในบริเวณอุทยานฯ นั้น ที่ฮิตสุดๆ ก็คือ การล่องแพ ในลำน้ำแม่แตง

โดยบริเวณนี้มีลานกางเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวได้นอนสัมผัสบรรยากาศสบาย ๆ นอนดูดาวแล้วตื่นมาชมวิวสวย ๆ ยามเช้า นอกจากนี้ใครที่ไม่ใช่สายแคมปิงที่เที่ยวเชียงใหม่แห่งนี้ยังมีบ้านพักของอุทยานราคาไม่แรงอีกด้วย

ติดต่อสอบถามได้ที่

ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง หมู่ 5 ตำบลกึ๊ดช้าง
อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : https://goo.gl/maps/7oBn66qvn6LFhE9W8
เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.
โทรศัพท์ : 0-5324-8491 , 0-84908-1531
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/huainamdang.np/

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นน้ำของลำน้ำปาด สภาพอากาศเย็นสบายตลอดปี มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27 องศาเซลเซียส มีเทือกเขา กั้นพรมแดนระหว่างไทย-ลาว ยอดภูสอยดาวมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 2,102 เมตร สูงเป็นอันดับ 5 ของประเทศ สภาพป่ามีความอุดมสมบูรณ์ประกอบด้วยป่าสนเขา ป่าดิบเขา ป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง

และสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวพลาดไม่ได้ ก็คือ ลานสนสามใบภูสอยดาว ซึ่งจะเป็นลานที่มีต้นสนขึ้นอยู่เต็มลานสวยงาม และ ทุ่งดอกหงอนนาค ซึ่งจะเบ่งบานให้ได้ชมกันในช่วงหน้าฝนนั่นเองค่ะ โดยช่วงเวลาที่เหมาะในการมาเที่ยวก็คือจะเริ่มตั้งแต่ประมาณ เดือนสิงหาคม-กันยายน เป็นทุ่งดอกไม้สีม่วงสวย ที่ขึ้นตามธรรมชาติ ท่ามกลางป่า ที่จัดว่าเป็นทุ่งดอกไม้ที่สวยงามอันดับต้นๆ เลยของเมืองไทยค่ะ เหมาะกับการมาถ่ายรูปสวยๆ กลางทุ่งดอกไม้ และบรรยากาศดีๆ ของป่าที่เขียวขจีในช่วงหน้าฝนแบบนี้

ติดต่อสอบถามได้ที่

ที่อยู่ : ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ 53110 
โทรศัพท์ : 0 5543 6793, 095 629 9528, 091 024 7633
อีเมล : phusoidao07@hotmail.com

และนี่เป็น 5 จุดเช็กอินปลายฝนต้นหนาวที่เที่ยวสวย ๆ รอต้อนรับให้คุณได้เดินทางไปชื่นชมกับธรรมชาติ สัมผัสอากาศเย็นสบาย เคล้าสายหมอกบางเบาอีกมากมาย มีเวลาอย่าลืมพาตัวและใจไปเสพความงามเหล่านั้นกันนะ และสุดท้ายขอให้ทุกท่าน วางโปรแกรมเที่ยวให้สะดวก เที่ยวสนุกอย่างมีความสุข และขอให้เดินทางปลอดภัยกันทุกคน

และใครที่กำลังมองหารถบัสให้เช่า คุณภาพดี การันตีมาตรฐาน บริษัทให้เช่ารถบัส DASH MV เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการที่มีความน่าเชื่อถือ ด้วยบริการเช่ารถบัสปรับอากาศมาอย่างยาวนาน สำหรับการท่องเที่ยวในประเทศไทย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน คุ้มค่า รถบัสมีมาตรฐานครบถ้วนในทุกๆ ด้าน ทั้งความปลอดภัย มาตรฐานการให้บริการ รวมไปถึงความสะดวกสบายต่างๆ จึงมั่นใจได้ว่าผู้โดยสารจะได้รับประสบการณ์การเดินทางที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ปลอดภัยตลอดการเดินทาง

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่

ที่อยู่: 39  หมู่ 14 ถนนบางนา-ตราด บางแก้ว บางพลี สมุทรปราการ 10540
เบอร์โทร: 092 185 6699
Line:  @dashmv

DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

Tourism Smart Data ยกระดับการท่องเที่ยวไทยสู่ยุคดิจิทัล

Tourism Smart Data ยกระดับการท่องเที่ยวไทยสู่ยุคดิจิทัล

Tourism Smart Data

ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลที่นักท่องเที่ยวต่างหันมาใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการเดินทางท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ส่งผลให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เดินหน้าพัฒนาระบบ เพื่อมารองรับการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวให้เข้าถึงข้อมูลการเดินทางได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ยังได้จัดตั้งโครงการ “Tourism Smart Data Management” (โครงการบริหารจัดการข้อมูลอัจฉริยะด้านการท่องเที่ยว) ระบบจัดการฐานข้อมูลอัจฉริยะเพื่อใช้จัดการข้อมูลด้านการท่องเที่ยว ให้สามารถนำไปวิเคราะห์ พัฒนา และต่อยอดการพัฒนาประเทศด้านธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาเชื่อมโยงในการพัฒนาแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่เจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกลุ่มและตรงตามความต้องการมากขึ้น

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

ททท. ได้จัดทำแผนปฏิบัติการดิจิทัลระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) เพื่อวางแผนการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลที่สอดคล้องกับนโยบายชาติในการปฏิรูปประเทศสู่ดิจิทัล ไทยแลนด์ (Digital Thailand) โดยร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย Digital Tourism ร่วมผลักดันให้เกิด Ecosystem ยกระดับห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้มีความรู้เท่าทันและได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัล ให้สามารถปรับตัวในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยแนวคิด 3D ได้แก่ Digital Literacy การอบรมให้ความรู้ในด้านการทำการตลาดสมัยใหม่โดยการใช้ข้อมูลมาช่วยวิเคราะห์วางแผน การใช้เทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินงาน ยกระดับศูนย์พัฒนาวิชาการด้านการตลาดท่องเที่ยว (TAT Academy) ซึ่งสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ชุนชนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจด้านการตลาด การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยดำเนินงาน การบริหารและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

โดยในปี 2566 ททท. จะมีการเปิดสอนหลักสูตรการตลาดท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบผ่านระบบการเรียนออนไลน์ และจัดทำหลักสูตรระยะสั้นเพื่อเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม Thai MOOC เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว เครือข่ายด้านการท่องเที่ยว ทั้งยังมุ่งพัฒนา “TAT Review” จุลสารวิชาการด้านการท่องเที่ยวในช่องทางออนไลน์ พร้อมให้เป็นฐานรวมความรู้เชิงวิชาการด้านการตลาดท่องเที่ยวความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรมแนวโน้มสถานการณ์งานวิจัยตลอดจนการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจสังคมสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีที่อาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในอนาคต

นอกจากนี้ ททท. ยังมีแผนส่งเสริมกลุ่ม Travel Tech และ Start Up ในการพัฒนาเครื่องมือเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เช่น Smart Map AI VI เป็นต้น เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์อันทรงคุณค่าแก่นักท่องเที่ยว สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ ททท. ในการเป็นผู้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยในการสร้างประสบการณ์ทรงคุณค่าและมุ่งสู่ความยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

พร้อมสนับสนุนการระดมเงินทุนเพื่อสรรค์สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือที่ช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการตลาดการท่องเที่ยว ให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ททท. พร้อมสนับสนุนข้อมูลโดยมีการพัฒนาระบบข้อมูลให้เป็น (Data Digitizing) ทั้งข้อมูลที่ใช้ภายในหน่วยงาน และข้อมูลที่จะเผยแพร่สู่หน่วยงานภายนอก เพื่อนำไปสู่การเชื่อมโยงและแบ่งปันข้อมูล (Data Sharing) ตลอดจนมีการพัฒนากระบวนการปฏิบัติงานที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นกลไกหลักในการดำเนินการ (Digitalized Process) รวมถึงให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูลเพื่อสร้างนวัตกรรมบริการสารสนเทศ

ยังมีแนวทางในการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยการจัดตั้งบริษัทในเครือเพื่อรองรับและส่งเสริมให้เกิดการทำกิจกรรมทางการตลาดท่องเที่ยวผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล เพิ่มขีดความสามารถให้แก่ผู้ประกอบการในการเร่งปรับตัว เตรียมรับ และเพิ่มศักยภาพให้สามารถนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้ได้ทั้งระบบนิเวศน์ของการพัฒนาการท่องเที่ยว อาทิ จัดทำ Token ที่สามารถใช้เป็นส่วนลดในการใช้บริการแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และบริการทางการท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวผ่านการตลาดสมัยใหม่ นอกจากนี้ยังมีแผนจัดตั้งคณะทำงานร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน start up สถาบันการศึกษา ชุมชน และทุกภาคส่วน เพื่อร่วมมือกันขับเคลื่อนมุ่งยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่ยุคดิจิทัล

สำหรับยุทธศาสตร์ภายใต้แผนปฏิบัติการฯ ของ ททท. แบ่งออกเป็น 3 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่

  • ยุทธศาสตร์ที่ 1 พัฒนาเครื่องมือทางการตลาดดิจิทัล เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้วยการส่งมอบคุณค่าและประสบการณ์การท่องเที่ยว
  • ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาและผลักดันการใช้โครงสร้างพื้นฐาน ระบบสารสนเทศ และข้อมูลด้านการตลาดการท่องเที่ยว เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
  • ยุทธศาสตร์ที่ 3 ยกระดับการบริหารจัดการดิจิทัลเพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรสมรรถนะสูงอย่างมีธรรมาภิบาล

และได้มีการวางแผนขยายขอบเขตการบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 27001:2013 ระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (ISMS) ในขอบเขตระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ให้ครอบคลุมระบบปฏิบัติการและจัดการข้อมูลที่หลากหลายมากขึ้น พร้อมดำเนินการตรวจสอบช่องโหว่ ตาม พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 เพื่อจัดการความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศขององค์กร

ทั้งนี้ ด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา มุ่งให้นโยบายและกลยุทธ์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยผลักดันให้ ททท. มีแผนการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมขับเคลื่อนให้ททท. เป็นองค์กรสมรรถนะสูง (High Performance Organization : HPO) เพื่อให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ ททท. เป็นผู้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยในการสร้างประสบการณ์ทรงคุณค่า และมุ่งสู่ความยั่งยืน

DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

การเดินทางในประเทศไทยนั้นกินพลังงานชีวิต เรียกว่าเป็นอีกอุปสรรคหนึ่งในชีวิตประจำวันก็ว่าได้ เนื่องจากการเดินทางในประเทศของเราด้วยรถสาธารณะนั้นยังมีตัวเลือกให้บริการอย่างไม่เพียงพอ โดยเฉพาะถ้าหากเป็นพื้นที่นอกตัวเมือง การหารถสาธารณะเพื่อเดินทางให้ถึงจุดหมายยิ่งยากขึ้นเป็นเท่าตัว ด้วยเหตุนี้ “รถรับส่งพนักงาน” จึงเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการหรือบริการที่แต่ละองค์กรควรให้ความสนใจ เพื่อที่จะได้เข้ามาอุดรอยรั่วดังกล่าวและทำให้พนักงานรู้สึกได้รับการอำนวยความสะดวก ทำให้มีกำลังใจในการเดินทางมาทำงานในแต่ละวันเนื่องจากไม่ต้องเสียแรงยืนรอหรือเบียดเสียดกับผู้อื่นเพื่อใช้รถสาธารณะ ดังนั้นในวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าทำไมแต่ละองค์กรจึงควรมีรถรับส่งพนักงาน รวมถึงขั้นตอน สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำสวัสดิการรถรับส่งพนักงานแบบมืออาชีพด้วยว่าเป็นอย่างไร

แนวคิด “ปรับ–ลด-ชดเชย” สู่การท่องเที่ยว Carbon neutral tourism

แนวคิด “ปรับ–ลด-ชดเชย” สู่การท่องเที่ยว Carbon neutral tourism

แนวคิด “ปรับ – ลด - ชดเชย"

สารบัญเนื้อหา

การท่องเที่ยวแบบคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (carbon neutral tourism) คือ การท่องเที่ยวโดยลดการใช้พลังงาน ลดการใช้เชื้อเพลิงคาร์บอน หันมาเดิน วิ่ง ปั่นจักรยานหรือพายเรือ เพื่อสัมผัสชีวิตชุมชนที่ได้ไปเยี่ยมเยียน เปิดโอกาสให้ชีวิตได้ศึกษาหาความรู้จากธรรมชาติและใช้ชีวิตให้ช้าลง กินอยู่เรียบง่าย ในการขับเคลื่อนรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวสนใจโดยอาศัยกลไกการตลาด จึงได้จัดทำต้นแบบเส้นทางการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการท่องเที่ยวแนวใหม่ที่เหมาะสมกับบริบท สร้างโอกาสให้ชุมชน ผู้ประกอบการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

การท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำนี้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เท่ากับ 2.45 ตันต่อปี ซึ่งยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของการท่องเที่ยวทั่วไปที่ปล่อยก๊าซนี้ถึง 5.08 ตันต่อปี เส้นทางการท่องเที่ยวที่กำหนดไว้อาจมีอุปสรรคจากสภาวะดินฟ้าอากาศ เช่น ฝนตก จึงต้องเตรียมเส้นทางและแหล่งท่องเที่ยวสำรอง เตรียมพาหนะให้เหมาะสม นอกจากนี้ควรมีการพัฒนาต่อยอดให้การท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำนี้น่าสนใจมากขึ้น เช่น นักท่องเที่ยวได้ลงมือทำหรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นวิถีชีวิตหรือศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ไม่ใช่แค่การเยี่ยมชมเพียงอย่างเดียว

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้าขับเคลื่อนการท่องเที่ยวตามแผน BCG Model และยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวใช้ทรัพยากรการท่องเที่ยวอย่างคุ้มค่าเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยได้ดำเนินการเสริมสร้างศักยภาพ พัฒนา และต่อยอดการจัดการการท่องเที่ยวที่ปล่อย “คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์” (Carbon Neutral Tourism) ที่เหมาะสมกับบริบทของภาคธุรกิจท่องเที่ยวไทย ทั้งในส่วนผู้ประกอบการ และชุมชนท่องเที่ยว เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

“ปรับ – ลด - ชดเชย" สู่การท่องเที่ยวแบบคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์

โดยฝ่ายส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว  ได้พัฒนาธุรกิจและกิจกรรมท่องเที่ยวที่จัดการด้วยแนวคิดการท่องเที่ยวที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral Tourism) โดยพัฒนากิจกรรมต้นแบบ ที่มุ่งเน้นกระบวนการตามแนวคิด “ปรับ – ลด – ชดเชย” เพื่อเปลี่ยนให้กิจกรรมท่องเที่ยวแบบปกติของธุรกิจเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ และพัฒนาไปสู่การเป็นต้นแบบธุรกิจท่องเที่ยวที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์

 โดยการ “ปรับ – ลด – ชดเชย” หมายถึง ปรับกิจกรรมให้น่าสนใจ โดยอยู่บนพื้นฐานการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงและวัสดุสิ้นเปลืองจากกิจกรรมท่องเที่ยวให้มีค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์น้อยที่สุด และชดเชยการปล่อยด้วยคาร์บอนเครดิต ซึ่งได้มาจากกิจกรรมฟื้นฟู และสร้างแหล่งดูดซับก๊าซเรือนกระจก การกำจัดออกหรือดักจับโดยตรง เพื่อสร้างสมดุลและทำให้คาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ทั้งนี้ ททท. ได้คัดสรร 5 แหล่งท่องเที่ยว เพื่อนำเสนอเป็นต้นแบบของการท่องเที่ยวที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ดังนี้

บ้านถ้ำเสือ จ.เพชรบุรี : ตะลุยถ้ำเสือสุดโก้ ซีโรคาร์บอน

ปัจจุบันเป็นต้นแบบเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย  ได้แก่ ฐานการเรียนรู้การเผาถ่านความร้อนสูงเตา อิวาเตะ กลั้นน้ำส้มควันไม้ การปั้นไข่เค็มสมุนไพร การทำทองม้วนน้ำตาลโตนด การปลูกผักอินทรีย์  ฐานธนาคารต้นไม้  การปั้นกระสุนเมล็ดพันธุ์ การยิงกระสุนเมล็ดพันธุ์ เป็นต้น

ชาวบ้านถ้ำเสือ ส่วนใหญ่ทำการเกษตรและจะมีสวนผลไม้ ได้แก่ เงาะ ทุเรียน ที่จะมีเอกลักษณ์เฉพาะ  โดยผลของเงาะจะกลม รสชาติหวาน กรอบ อร่อย  เนื้อร่อน จนเป็นที่ติดใจ  ส่วนทุเรียนเนื้อจะเหลือง หวาน อร่อย นักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยวชมสวนต้องการสัมผัสบรรยากาศ   สามารถเข้ามาเก็บชิมเงาะได้แบบสดๆ จากต้น และสามารถเลือกซื้อเงาะโดยระบุต้นได้เลยว่าชอบหรือต้องการซื้อเงาะต้นไหน โดยจะเก็บลงจากต้นนั้นมาขายให้ทันที

นอกจากนี้ยังมีป่าชุมชนบ้านถ้ำเสือ ที่จัดตั้งเพื่อการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ของชุมชนตามฤดูกาล เป็นป่าสงวนแห่งชาติ เป็นพื้นที่ราบ มีภูเขาตั้งอยู่โดยทั่วไป มีแหล่งน้ำธรรมชาติ สมบูรณ์ เส้นทางคมนาคมสะดวก เป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติ มีพันธุ์ไม้รวก งิ้ว มะค่า ตะแบก ไม้รัง และไม้อื่นๆ  มีเห็ดและพืชสมุนไพรให้ชุมชนได้ใช้ประโยชน์   นักท่องเที่ยวสามารถร่วมทำกิจกรรมปลูกป่าโดยการปั้นกระสุนเมล็ดพันธุ์ต้นไม้ และการยิงกระสุนเมล็ดพันธุ์ต้นไม้

สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 089-1702904

ทำไมต้องทำกิจกรรม CSR ทำแล้วได้อะไร

บ้านริมคลองโฮมสเตย์ จ. สมุทรสงคราม

บ้านริมคลองโฮมสเตย์ จ. สมุทรสงคราม

กิน เที่ยว สโลว์ไลฟ์ สไตล์ริมคลอง โลว์คาร์บอน ชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์ อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับรางวัลมาตรฐานโฮมสเตย์ รางวัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย อีกทั้ง ยังเป็นชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง เป็นกลุ่มวิสาหกิจที่ผลิตสินค้าเกี่ยวกับมะพร้าว เป็น ผลิตภัณฑ์ที่ชาวชุมชนเพาะปลูกและเป็นสวนมะพร้าวจึงเกิดการแปรรูปเป็นสินค้า เช่น น้ำตาลมะพร้าว น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ไซรัปจากน้ำตาลมะพร้าว เป็นต้น

การทำน้ำตาลมะพร้าวถือเป็นอาชีพดั้งเดิมของชาวสมุทรสงครามมาตั้งแต่อดีตเนื่องด้วยในจังหวัดสมุทรสงครามนั้นมีต้นมะพร้าวจำนวนมาก โดยที่ชุมชนบ้านริมคลองนั้นได้นำการทำน้ำตาลมะพร้าวมาสาธิตให้นักท่องเที่ยวดูโดยการจะชมนั้นอาจจะต้องไปเช้านิดนึงเพราะการเคี่ยวตาลจะทำกันตอนเช้า โดยน้ำตาลมะพร้าวของที่นี่จะไม่มีการใส่สารกันบูดจะเป็นน้ำตาลมะพร้าวแท้

นอกจากนี้ยังมีการสานทางมะพร้าวถือว่าเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นและอีกทั้งยังสามารถเอาวัสดุจากธรรมชาติในชุมชนมาสร้างรายได้ โดยที่ชุมชนริมคลองนั้นจะมีการสาธิตการสานมะพร้าวให้สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเอาไปทำเป็นงานอดิเรกสร้างอาชีพสร้างรายได้

สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 089-170-2904

ไร่ใจยิ้ม จ. กาญจนบุรี : แคมป์แห่งความสุข สนุกครบรส

ไร่ใจยิ้ม จ. กาญจนบุรี : แคมป์แห่งความสุข สนุกครบรส

ไร่ใจยิ้ม เป็นที่พักแบบสโลไลฟ์ อยู่ติดกับอ่างเก็บน้ำห้วยตะเคียน กลางคืนจะได้บรรยากาศเงาน้ำ สะท้อนดวงดาว อย่างสวยงาม หากใครต้องการมาแคมป์ปิ้ง พักผ่อน นั่งชิลล์ ใช้เวลากับครอบครัว นั่งอ่านหนังสือ ฟังเสียงธรรมชาติ ใช้เวลากับตัวเอง รวมไปถึงกิจกรรมชิลล์ๆ ทั้ง พายเรือแคนู ตกปลา เก็บผัก เก็บไข่ออแกนิก ขี่จักรยานชมสวน ที่นี่รวมมาให้หมดแล้ว

ไร่ใจยิ้มจะเน้นที่การมองโลกด้วยใจที่เป็นสุข เป็นธรรมดา และเป็นธรรมชาติด้วยแนวคิด Oneness เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง มีกิจกรรมเก็บไข่ไก่ เก็บผัก หรือจะเอาจักรยานมาปั่นในไร่ก็สร้างความเพลิดเพลินได้ไม่น้อย ความสุนทรียภาพถูกถ่ายทอดผ่านอากาศอันบริสุทธิ์ ทิวทัศน์อันสวยงาม บรรยากาศที่สงบเงียบ ความเป็นกันเองของผู้คน และการเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติอย่างแท้จริง

สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร.085-482-6559

ฟาร์มสเตย์ไร่คืนรัง จ.นครราชสีมา

ฟาร์มสเตย์ไร่คืนรัง จ.นครราชสีมา : คืนรังสไตล์ เที่ยวแบบไร้คาร์บอน

เป็นฟาร์มสเตย์แห่งแรกในชุมชนคุ้มโนนสำราญ​ ที่อาศัยพื้นฐานทางเกษตรกรรมมาสร้างสรรค์เป็นกิจกรรมเพื่อการท่องเที่ยวชุมชนเรียนรู้วิถีแบบบ้านๆ​ และสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ของการท่องเที่ยวชุมชน โดยมีพื้นที่ 20 กว่าไร่ แบ่งเป็น บ่อน้ำ 5-10 ไร่ ผืนนาปลูกข้าวออร์แกนิก 5 ไร่ ปศุสัตว์ 5 ไร่เลี้ยงวัว 3 ตัว ควาย 3 ตัว เป็ด 40 ตัว ไก่ 100 ตัว ปลูกมะพร้าวน้ำหอม พืชผัก ไม้ป่าอื่นๆ รวมถึงห้องพัก 4 หลัง โดยการผสานบรรยากาศแบบชาวไร่ที่ทำเกษตรผสมผสาน พร้อมสัมผัสวิถีการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายแบบไม่เร่งรีบ ภายในฟาร์มที่พึ่งพาตัวเองและชุมชนใกล้เคียงแบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด ”ไร่คืนรัง” ให้มันจบที่บ้านเรา วงจรแห่งความยั่งยืน

สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 089-244-1369

สวนส้มโอไทยทวี จ.นครปฐม

สวนส้มโอไทยทวี เป็นแหล่งท่องเที่ยวเกษตรนิเวศน์เชิงสร้างสรรค์ มีกิจกรรมให้เรียนรู้มากมาย อย่างกิจกรรมไฮไลท์คือการล่องเรือชมสวน เรียนรู้เทคนิคการเก็บส้มโอ โดยคุณธนกฤต จะเป็นคนพายเรือและสาธิตการเก็บส้มโอด้วยตัวเอง และระหว่างล่องเรืออยู่นั้น คุณจะได้เห็นปลาหลากชนิดในร่องสวนกระโดดขึ้นมาอวดโฉมเหมือนกับการแสดงโชว์ หากใครไม่สะดวกล่องเรือ ก็สามารถเดินชมสวนส้มโอได้เลย ที่สวนทำสะพานเชื่อมให้เดินข้ามไปบริเวณร่องสวนแบบสะดวกสบาย ทั้งยังเป็นจุดชมวิวสวนที่สวยจุดหนึ่งเลย

ภายในสวนปลูกส้มโอพันธุ์ขาวน้ำผึ้ง มีจุดเด่นคือ มีขนาดใหญ่ หวานอมเปรี้ยวกำลังดี เก็บจากต้นรับประทานได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้ลืมต้น และพันธุ์ทองดีที่มีรสชาติหวานหอม เป็นผลผลิตที่มีคุณภาพเนื่องจากอยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่าน้ำไหลทรายมูล และไฮไลท์สำคัญคือทางสวนนำกิ่งพันธ์ส้มโอทับทิมสยามมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช นำมาปลูกที่อำเภอนครชัยศรีได้เป็นผลสำเร็จ มีลักษณะและรสชาติหวานเหมือนกับต้นฉบับเลยทีเดียว มีให้เลือกซื้อหากันตามชอบ และยังมีกิ่งพันธ์ส้มโอจำหน่ายด้วย

สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 083-626-5499

การพัฒนาต่อยอดหน่วยธุรกิจและชุมชนสู่การท่องเที่ยวที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์นี้ นอกจากจะเป็นการช่วยลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมแล้ว ยังเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่า สร้างจุดเด่น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทยในตลาดโลก ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม รวมถึงเป็นการสร้างความตระหนักรู้ และคุณค่าในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่บุคลากรในหน่วยธุรกิจและนักท่องเที่ยว อีกทั้ง นักท่องเที่ยวยังมีส่วนช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สร้างประโยชน์ให้กับผู้คนในท้องถิ่น ส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชุมชน ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติ สัมผัสประสบการณ์ที่สนุกสนานและเพลิดเพลิน เกิดความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมสร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนอีกด้วย

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท แดช เอ็มวี จำกัด
ที่อยู่:  39 หมู่ 14 ถนนบางนา-ตราด บางแก้ว บางพลี สมุทรปราการ 10540
เบอร์โทร. 092-185-6699
Line: @DASHMV

DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

BCG Model สู่ BCG Tourism ส่งเสริมการท่องเที่ยวเกษตรไทย

BCG Model สู่ BCG Tourism ส่งเสริมการท่องเที่ยวเกษตรไทย

BCG-Tourism

สารบัญเนื้อหา

เมื่อสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19)  อุบัติขึ้นบนโลก อุตสาหกรรมต่าง ๆ ถูกบีบบังคับให้ขับเคลื่อนไม่ได้ การดำเนินชีวิตต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่ นอกจากความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นแล้ว วิกฤติการณ์นี้ยังทำให้เรามองเห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นั่นคือการที่ธรรมชาติซึ่งเป็นหนึ่งในต้นทุนที่เราใช้ไปกับการท่องเที่ยวได้โอกาสในการฟื้นฟูให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง

และประเทศไทยเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งในเรื่องอาหาร วิถีชีวิต วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนภายในประเทศ

ทั้งนี้เพื่อเป็นการบริหารจัดการทรัพยากรของชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงานและวัตถุดิบท้องถิ่นอย่างสิ้นเปลือง หลีกเลี่ยงการสร้างมลภาวะให้สถานที่ท่องเที่ยว และพัฒนาหรือแปรรูปผลผลิตด้วยเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมอย่างเป็นระบบ จึงสามารถนำแนวคิด BCG Model มาประยุกต์ใช้ในการท่องเที่ยวเชิงเกษตรวิถีอินทรีย์ในไทยได้

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

ทำความรู้จักหลักการของ แนวคิด BCG

ทำความรู้จักหลักการของ แนวคิด BCG

BCG Model เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม ที่จะพัฒนาเศรษฐกิจ 3 มิติไปพร้อมกัน ได้แก่

B - Bioeconomy หรือ เศรษฐกิจชีวภาพ

การทำเศรษฐกิจชีวภาพ เป็นการนำเอาเทคโนโลยีการจัดการผลผลิต ในรูปแบบ Smart Farming ที่เน้นการดูแลผลผลิตและการท่องเที่ยวเชิงเกษตรวิถีอินทรีย์อย่างครบวงจร มีการดูแลกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ หรือการพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพและปลอดสารเคมีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในชุมชนวิถีอินทรีย์ 

ตัวอย่างการทำศรษฐกิจชีวภาพ เช่น วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์คลองโยง จังหวัดนครปฐม เป็นตัวอย่างการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเศรษฐกิจชีวภาพ เพราะมีการเพาะปลูกพืชอินทรีย์ปลอดสารเคมีหมุนเวียนกว่า 20 ชนิด ตลอดจนมีระบบจัดการตั้งแต่การเตรียมดิน การจัดการแปลงเพาะปลูก ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวและการขายผลผลิตเพื่อสร้างรายได้ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการระบบเกษตรอินทรีย์ IFOAM จากสำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์อีกด้วย

C - Circular Economy หรือ เศรษฐกิจหมุนเวียน

การทำเศรษฐกิจหมุนเวียน คือการนำเอาผลผลิตหรือบริการในท้องถิ่นที่มีอยู่นำมาทำให้เกิดการหมุนเวียน ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวจะต้องมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่การออกแบบการผลิตตั้งแต่ต้นทาง เพื่อให้วัตถุดิบถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่ามากที่สุด และสามารถนำวัตถุดิบกลับมาใช้ซ้ำ ปรับปรุง ซ่อมแซม หรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยต้องเป็นวัตถุดิบที่สามารถผลิตทดแทนขึ้นมาใหม่ได้ ทั้งนี้จะช่วยลดปริมาณการใช้วัตถุดิบ และเพิ่มประสิทธิภาพให้ใช้งานได้หลากหลาย และสร้างรายได้มากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างการทำเศรษฐกิจหมุนเวียน ได้แก่ คุ้งบางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นปอดของกรุงเทพฯ และ The best Urban Oasis of Asia โดยนิตยสาร Time ซึ่งสมาชิกในชุมชนมีการนำเอาผลผลิตท้องถิ่นมาแปรรูป เช่น การทำวิสาหกิจชุมชนหัตถศาสตร์เพื่อสุขภาพ กิจกรรมบริการนวดและสาธิตการทำลูกประคบสมุนไพร จำหน่ายหมอนรองคอ เข็มขัดธัญพืช หมอนคลุมไหล่ หมอนกดจุด ธูปหอมสมุนไพร ผ้ามัดย้อม และบริการโฮมสเตย์ที่ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ใช้ใบตองและวัสดุย่อยสลายง่ายบรรจุอาหาร ส่งเสริมให้ใช้ถุงผ้า และปั่นจักรยานท่องเที่ยวแทนการใช้รถยนต์

G - Green Economy เศรษฐกิจสีเขียว

ทั้งเศรษฐกิจชีวภาพและเศรษฐกิจหมุนเวียน อยู่ภายใต้กรอบเศรษฐกิจสีเขียว หรือ Green Economy ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเกษตรให้มีความยั่งยืน โดยลดการสร้างมลพิษหรือใช้สารเคมี ทั้งจากชุมชนและนักท่องเที่ยว ลดปริมาณขยะและสามารถแปรรูปให้เกิดมูลค่า พร้อมทั้งสร้างจิตสำนึกให้ชุมชนและนักท่องเที่ยวร่วมกันอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยวให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุด

ตัวอย่างการทำเศรษฐกิจสีเขียว เช่น ชุมชนบ้านอำเภอ จังหวัดชลบุรี เป็นชุมชนต้นแบบด้านการทำแหล่งท่องเที่ยวเศรษฐกิจสีเขียว เนื่องจากเดิมในชุมชนมีปัญหาขยะมากถึงวันละ 37 ตัน และขยะตามฤดูกาลที่พัดมาจากทะเล โดยมีการแก้ปัญหาโดยนำขยะพลาสติกมาผ่านกระบวนการเปลี่ยนรูปเป็นวัสดุก่อสร้างเพื่อจำหน่ายเป็นแห่งแรกในประเทศไทย และมีเป้าหมายพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ สร้างงาน สร้างอาชีพ และห้องทดลองเพื่อพัฒนาวัสดุใหม่ ๆ และสนับสนุนด้านการจัดการขยะพลาสติกอัพไซคลิ่ง เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนมีโอกาสเป็นผู้นำในการรณรงค์เรื่องการจัดการขยะชุมชนด้วยตนเอง

จะเห็นได้ว่า การพัฒนาท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนด้วย BCG Model จะช่วยให้ชุมชนและนักท่องเที่ยวมีบทบาทร่วมกันในการดูแลแหล่งท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืน และเราเชื่อว่ายังมีอีกหลายชุมชนที่ต้องการทำแหล่งท่องเที่ยวให้เป็นวิถีอินทรีย์ด้วยแนวคิด BCG Model ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

เพราะเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อผลิตภัณฑ์และสินค้าต่าง ๆ ในพื้นที่ อาทิ ส่งเสริมโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปรู้จักกับผลิตภัณฑ์ OTOP และสินค้า GI ซึ่งจะทำให้เกิดกระจายรายได้สู่ภาคเศรษฐกิจอื่น ๆ ในพื้นที่ และยังสามารถเพิ่มมูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวให้สูงขึ้นอย่างยั่งยืนตลอดไป

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นภาคส่วนที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยในปี 2562 ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยว 3 ล้านล้านบาท ถึงแม้ในอดีตการท่องเที่ยวจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดจนทำให้ GDP ของประเทศเพิ่มขึ้น แต่ก็มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมด้วย โดยปัญหาที่สำคัญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวคือเรื่องขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว (Carrying Capacity)  โดยส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง

ทรัพยากรธรรมชาติทางการท่องเที่ยว ในอนาคตเราจึงต้องตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารจัดการการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพและยั่งยืน และควรเน้นคำว่า “กำไร” มากกว่าคำว่า “รายได้” โดยกำไรอาจหมายถึงการที่ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีความสมดุลกันระหว่างอุปสงค์ (Demand) ที่เป็นความต้องการของนักท่องเที่ยว และอุปทาน (Supply) สินค้า/บริการทางการท่องเที่ยว รวมทั้งผู้ประกอบการหรือธุรกิจที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของการท่องเที่ยว (Tourism Supply Chain) สามารถทำกำไรมากกว่าขาดทุน เลิกเบียดเบียนต้นทุน พร้อมทั้งเติมต้นทุน โดยจะต้องคำนึงถึงเรื่องสังคม วิถีชีวิต และทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นสำคัญ เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

โดยการนำจุดแข็งของประเทศไทยที่มีความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรมมาต่อยอดและยกระดับมูลค่าสินค้าและบริการ โดยในระยะแรกจะมุ่งเน้น 4 สาขายุทธศาสตร์ที่สำคัญ คือ 1) เกษตรและอาหาร 2) สุขภาพและการแพทย์ 3) พลังงาน วัสดุ และเคมีชีวภาพ และ 4) การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์

ทำไมต้องทำกิจกรรม CSR ทำแล้วได้อะไร

“การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์” จึงเป็นการท่องเที่ยวตามแนวคิด BCG ที่มุ่งเน้นการพัฒนาการท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งเริ่มต้นแนวคิดการท่องเที่ยวใหม่โดยใช้การวิจัยความรู้ในเรื่องขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว (Carrying Capacity) นโยบายรัฐบาล (Government Policy) และ มาตรฐานระดับประเทศ (National Standard) เข้ามาจัดระเบียบทิศทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม เกิด Demand และ Supply ที่สมดุลกัน ทำให้ด้าน Supply สามารถมองหามาตรฐานในการปรับปรุงสินค้าและบริการของตนเองในแนวคิดของ BCG Model ได้

BCG Model เป็นกลไกที่มีศักยภาพสูงในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในประเทศอย่างทั่วถึง สามารถกระจายโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันสามารถสร้างให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกในบางสาขาที่ประเทศไทยมีศักยภาพ จึงได้กำหนดเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศเพื่อใช้ในการขับเคลื่อน BCG Model ดังนี้จึงได้กำหนดเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศเพื่อใช้ในการขับเคลื่อน BCG Model ดังนี้

  • ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองเพื่อลดการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยวในเมืองหลัก
  • พัฒนาและเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการโดยคนในชุมชน ส่งเสริมให้คนในชุมชนเห็นคุณค่าและอัตลักษณ์ของสินค้าทางการท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่
  • บริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ สร้างมาตรฐานความสะอาด สะดวก ปลอดภัย
  • นำเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์มาใช้พัฒนาสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว โดยจะต้องคำนึงถึงต้นทุนทางทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ
  • ส่งเสริมสินค้า GI ที่กระทรวงพาณิชย์พัฒนาขึ้นมาไว้อยู่แล้ว ซึ่งเป็นสินค้าที่น่าภูมิใจของท้องถิ่นต่าง ๆ ที่มีทั้งเรื่องราวให้เล่าขาน มีลักษณะเฉพาะตัว และมีคุณค่า ทำให้คนไทยเกิดความภูมิใจในประเทศไทยจากความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ อยากเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ลดการพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างประเทศ

การส่งเสริมสินค้าเกษตรอินทรีย์ โดยเชิญชวนให้เกษตรกรที่ทำการเกษตรอินทรีย์ ผู้ประกอบการโรงแรมร้านอาหาร และนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้บริโภคเมนูอาหารที่ทำจากวัตถุดิบเกษตรอินทรีย์ มาร่วมกันใช้ Platform ของ “สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย” หรือ TOCA (Thai Organic Consumer Association) ซึ่ง TOCA Platform เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ โดยจะมีส่วนร่วมในงานด้านการจัดการงานต้นน้ำ (การทำเกษตรอินทรีย์) ด้านการจัดการงานซื้อขาย (E-commerce: B2B, B2C) ด้านสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ประกอบการและผู้บริโภค และด้านการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytic)

โดยรัฐบาลคาดหวังว่าโมเดลเศรษฐกิจ BCG จะช่วยส่งเสริมภาคเกษตรกรรมที่เป็นสาขาหลักของประเทศที่ยังคงอยู่ในภาวะที่ยากลำบาก และจะทำอย่างไรให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์ทางการเกษตร สร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบทางการเกษตรผ่านการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม และมีกระบวนการผลิตที่ไม่ทิ้งร่องรอยเสียหายให้กับประเทศ โดยการท่องเที่ยวจะเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยเล่าเรื่องที่ทำให้นักท่องเที่ยวเห็นคุณค่าของสินค้าและบริการได้ ซึ่งทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะต้องพยายามนำเสนอสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่ดี พร้อมทั้งจะต้องต่อยอดความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม โดยเชื่อมโยงกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อทำให้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ในมิติด้านการท่องเที่ยวเป็นรูปธรรมมากขึ้น

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท แดช เอ็มวี จำกัด
ที่อยู่:  39 หมู่ 14 ถนนบางนา-ตราด บางแก้ว บางพลี สมุทรปราการ 10540
เบอร์โทร. 092-185-6699
Line: @DASHMV

DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

การเดินทางในประเทศไทยนั้นกินพลังงานชีวิต เรียกว่าเป็นอีกอุปสรรคหนึ่งในชีวิตประจำวันก็ว่าได้ เนื่องจากการเดินทางในประเทศของเราด้วยรถสาธารณะนั้นยังมีตัวเลือกให้บริการอย่างไม่เพียงพอ โดยเฉพาะถ้าหากเป็นพื้นที่นอกตัวเมือง การหารถสาธารณะเพื่อเดินทางให้ถึงจุดหมายยิ่งยากขึ้นเป็นเท่าตัว ด้วยเหตุนี้ “รถรับส่งพนักงาน” จึงเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการหรือบริการที่แต่ละองค์กรควรให้ความสนใจ เพื่อที่จะได้เข้ามาอุดรอยรั่วดังกล่าวและทำให้พนักงานรู้สึกได้รับการอำนวยความสะดวก ทำให้มีกำลังใจในการเดินทางมาทำงานในแต่ละวันเนื่องจากไม่ต้องเสียแรงยืนรอหรือเบียดเสียดกับผู้อื่นเพื่อใช้รถสาธารณะ ดังนั้นในวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าทำไมแต่ละองค์กรจึงควรมีรถรับส่งพนักงาน รวมถึงขั้นตอน สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำสวัสดิการรถรับส่งพนักงานแบบมืออาชีพด้วยว่าเป็นอย่างไร

ที่เที่ยวพังงา ตะกั่วป่า สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

ที่เที่ยวพังงา ตะกั่วป่า สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

สารบัญเนื้อหา

การท่องเที่ยวมีหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นก็คือการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่หมายถึง การเที่ยวเพื่อศึกษาหาความรู้ในพื้นที่หรือในบริเวณที่มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ มีการบอกเล่าเรื่องราวของสังคมผ่านองค์ความรู้ต่างๆ และสามารถถ่ายทอดให้เราได้เห็นคุณค่าของประวัติ ความเป็นมา การดำเนินชีวิต หรือสภาพแวดล้อมของผู้คนในแต่ละยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นแง่เศรษฐกิจ สังคม หรือขนบธรรมเนียมประเพณี

ดังนั้น ใครกำลังเบื่อการไปเที่ยวห้างหรูในเมือง อยากลองเปลี่ยนบรรยากาศไปสัมผัสความเรียบง่าย อบอุ่นหัวใจ และอยากเที่ยวแบบใกล้ชิดวัฒนธรรมไทยมากกว่าเดิม วันนี้ DASH MV มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่น่าสนใจมาฝาก หลายๆ คนที่เดินทางมาเที่ยวที่พังงาน่าจะเคยมาเยือน อำเภอตะกั่วป่า กันอย่างแน่นอน แล้วรู้ไหมว่า ที่นี่มีจุดชมวิว จุดเช็คอิน ที่สร้างขึ้นมาจากร่องรอยในอดีตของตะกั่วป่าแห่งนี้

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

สะพานเหล็ก บุญสูง

สะพานเหล็ก บุญสูง

สะพานเหล็กบุญสูง หรือ สะพานเหล็กโคกขนุน ตั้งอยู่ในอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เป็นสะพานขนาดเล็กๆ แต่มีเรื่องราวในอดีตที่อยู่คู่อำเภอตะกั่วป่ามาอย่างยาวนาน เมื่อก่อนนั้นที่นี่เคยได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่เฟื่องฟูในการทำเหมืองแร่ดีบุกอย่างมาก แต่ต่อมาเมื่อหมดยุครุ่งเรื่องของเหมืองแล้ว ในปี พ.ศ.2511 ก็ได้มีการนำเหล็กจากเรือขุดแร่ มาสร้างเป็นสะพานเหล็กโคกขนุนแห่งนี้นั่นเอง ซึ่งสะพานเหล็กบุญสูงเชื่อมต่อกันยาวรวม 200 เมตร เป็นสะพานที่ชาวบ้านใช้สัญจรข้ามไปมา โดยตัวสะพานจะทอดยาวผ่านทุ่งหญ้าสีเขียวสวยงามและแม่น้ำตะกั่วป่า เพราะบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงามนี้ สะพานเหล็กบุญสูงจึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีวิวภูเขาสวยงามอยู่ด้านหลังไกล ๆ เวลาได้มองไปจะรู้สึกสดชื่นมาก ๆ มุมสวยๆ ของสะพานเหล็กบุญสูงนั้นจะเป็นภาพของสะพานที่ทอดยาวผ่านทุ่งสีเขียวขจี สามารถมองเห็นได้ทั้งต้นไม้นานาชนิดและทิวเขาไกลสุดลูกหูลูกตา เป็นจุดเช็คอินที่มีทั้งความทรงจำและวิวสวยๆ แบบนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ใครมาเยือนตะกั่วป่า ก็ต้องมาแวะถ่ายภาพสวยๆ กันกลับไป

ขนมเต้าส้อ ร้านตวงรัตน์

ขนมเต้าส้อ ร้านตวงรัตน์

ขนมเต้าส้อ เป็นขนมมงคลพื้นถิ่นของคนภูเก็ต-พังงา โดยมีจุดเริ่มต้นจากชาวไทยเชื้อสายจีนฮกเกี้ยน ที่นิยมทำขนมเต้าส้อรับประทานกัน เดิมมีเพียง 2 ไส้ คือ ไส้หวานและไส้เค็ม แต่ปัจจุบันมีการดัดแปลงไส้ต่าง ๆ มากขึ้น ตัวขนมจะมีแป้งที่บาง กรอบนอก นุ่มใน และมีลักษณะที่คล้ายกับขนมเปี๊ยะ ในอดีตจะต่างกันที่ขนาดและไส้นั่นเองค่ะ ขนมเต้าส้อถือได้ว่าเป็น #LocalFood ของดีจังหวัดพังงาเลยนะคะ โดยเฉพาะถ้าใครมาเที่ยวและมองหาของฝาก เราแนะนำให้ลองมาที่ #ร้านตวงรัตน์ เพราะเป็นร้านขนมเต้าส้อที่สืบทอดความอร่อยมาจากบรรพบุรุษยาวนานกว่า 100 ปี เลยค่ะ

ศาลเจ้าปุนเถ้ากงอำ

ศาลเจ้าปุ่นเท่ากงอำ

ศาลเจ้าเก่าแก่ดั้งเดิมของเมืองตะกั่วป่า ที่สร้างโดยชาวจีนที่อพยพเข้ามาทำเหมืองแร่ในเมืองตะกั่วป่า ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนเชื้อสายฮกเกี้ยน ไหหลำ และกวางตุ้ง โดย #ศาลเจ้าปุนเถ้าก๋งอำ มีเทพเจ้าปุนเถ้าก๋ง เป็นองค์เทพเจ้าประธาน เพราะมีความเชื่อที่ว่าท่านจะช่วยปกป้องให้ความร่มเย็น และช่วยให้ทำมาค้าขายเจริญ

ทำไมต้องทำกิจกรรม CSR ทำแล้วได้อะไร

วัดคูหาภิมุข (วัดควนถ้ำ)

วัดคูหาภิมุข (วัดควนถ้ำ)

วัดโบราณที่มีอายุกว่า 300 ปี สิ่งสำคัญภายในวัด คือ อุโบสถที่มีขนาดเล็กที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2513 โดยนางฮวดบี ซึ่งมีอักขระจารึกอยู่ด้านหลัง ภายในมีพระพุทธรูปหินแกะสลักเป็นภาพนูนต่ำมีปลวกทำรังสูงอยู่ด้านหลัง ส่วนใบเสมาโดยรอบจะทำเป็นรูปพระพุทธรูปปางต่าง ๆ นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าวัดจะมีรูปปั้นฤๅษีโบราณตั้งอยู่ โดยอุโบสถนี้สามารถทำพิธีกรรมทางศาสนาได้จริงด้วยนะคะ นอกจากนี้แล้วที่วัดคูหาภิมุข หรือ วัดควนถ้ำ ยังเคยขุดเจอลูกนิมิตรในช่วงที่บูรณะวัดใหม่ด้วย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญสำหรับชาวบ้านจังหวัดพังงา

ถนนคนเดิน ถนนศรีตะกั่วป่า

ถนนคนเดิน ถนนศรีตะกั่วป่า

ถนนศรีตะกั่วป่า ถนนสายวัฒนธรรม ที่ปิดถนนแล้วเปิดพื้นที่ให้ชาวบ้านมาขายของยาว ๆ ริมสองฝั่งถนน หลากหลายไปด้วย Local Food แสนอร่อย และสินค้างานฝีมือที่สวยงามผลงานของชาวบ้าน ในอดีตถนนเส้นนี้เป็นถนนสายเศรษฐกิจ เพราะเป็นตลาดใหญ่ย่านชุมชน ทำให้มีความคึกคักและเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญ บรรยากาศของ #ถนนคนเดินตะกั่วป่า นี้ มีความคลาสสิกเป็นอย่างมาก เพราะสองฝั่งทางเป็นบ้านตึกปูนโบราณที่สวยงาม รวมถึงมีมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ กับรูปวาดฝาผนังที่วาดถึงวิถีชีวิตของคนในชุมชนด้วย

ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตลาดใหญ่

ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตลาดใหญ่

ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตลาดใหญ่ ตำบลตะกั่วป่า อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เดิมเคยเป็นที่ตั้งเมืองตะกั่วป่า ซึ่งเคยคึกคัก และรุ่งเรืองมากเมื่อหลายสิบปีก่อน เนื่องจากชาวจีนเข้ามาทำเหมืองแร่จำนวนมาก การก่อสร้างบ้านเรือนเป็นลักษณะที่เป็นตึกแถวแบบชิโน-โปรตุกีสที่น่าชม สามารถเดินชมเมืองได้โดยใช้เวลาไม่มากนัก มีความโดดเด่นคือ การดำเนินชีวิต และวัฒนธรรมที่มีศิลปกรรมแบบชิโน – โปรตุเกส ที่คนในชุมชนอนุรักษ์ไว้

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในประเทศไทยนั้นยังมีอีกหลายแห่ง แต่ละแห่ง แต่ละชุมชน ก็มีเสน่ห์น่าค้นหาในแบบของตัวเอง ใครไปเที่ยวธรรมชาติ เที่ยวแอดเวนเจอร์ หรือไปเยือนที่เที่ยวฮิตๆ จนเบื่อแล้ว ลองกลับสู่ความเรียบง่ายในแบบฉบับการเที่ยวชุมชนท้องถิ่นและที่เที่ยวเชิงวัฒนธรรมดูบ้าง นอกจากเที่ยวใส่ใจ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราแล้ว การเที่ยวแบบลดการปล่อยคาร์บอน รวมถึงกระจายรายได้ให้กับชุมชนเล็ก ๆ หรือชุมชนเก่าแก่ของแต่ละที่ก็ถือเป็นการท่องเที่ยวที่ดีเหมือนกัน เชื่อว่าก็เที่ยวสนุกและประทับใจได้ไม่แพ้กันแน่นอน

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท แดช เอ็มวี จำกัด
ที่อยู่:  39 หมู่ 14 ถนนบางนา-ตราด บางแก้ว บางพลี สมุทรปราการ 10540
เบอร์โทร. 092-185-6699
Line: @DASHMV

DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

การเดินทางในประเทศไทยนั้นกินพลังงานชีวิต เรียกว่าเป็นอีกอุปสรรคหนึ่งในชีวิตประจำวันก็ว่าได้ เนื่องจากการเดินทางในประเทศของเราด้วยรถสาธารณะนั้นยังมีตัวเลือกให้บริการอย่างไม่เพียงพอ โดยเฉพาะถ้าหากเป็นพื้นที่นอกตัวเมือง การหารถสาธารณะเพื่อเดินทางให้ถึงจุดหมายยิ่งยากขึ้นเป็นเท่าตัว ด้วยเหตุนี้ “รถรับส่งพนักงาน” จึงเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการหรือบริการที่แต่ละองค์กรควรให้ความสนใจ เพื่อที่จะได้เข้ามาอุดรอยรั่วดังกล่าวและทำให้พนักงานรู้สึกได้รับการอำนวยความสะดวก ทำให้มีกำลังใจในการเดินทางมาทำงานในแต่ละวันเนื่องจากไม่ต้องเสียแรงยืนรอหรือเบียดเสียดกับผู้อื่นเพื่อใช้รถสาธารณะ ดังนั้นในวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าทำไมแต่ละองค์กรจึงควรมีรถรับส่งพนักงาน รวมถึงขั้นตอน สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำสวัสดิการรถรับส่งพนักงานแบบมืออาชีพด้วยว่าเป็นอย่างไร

รถบัสเพื่อการพาณิชย์ ตัวช่วยฟื้นฟูธุรกิจอีกทางเลือกหนึ่ง

รถบัสเพื่อการพาณิชย์ ตัวช่วยฟื้นฟูธุรกิจอีกทางเลือกหนึ่ง

รถบัสเพื่อการพาณิชย์

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020 มาจนถึงปัจจุบัน ได้ส่งผลกระทบต่อมนุษยชาติในทุกมิติ การใช้มาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศเพื่อยับยั้งการระบาดทำให้ผู้คนไม่สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติก่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนชีวิตความเป็นอยู่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อีกทั้งยังสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในวงกว้างด้วย ที่สำคัญ วิกฤตในครั้งนี้ได้ทิ้งร่องรอยหลายอย่างไว้สำหรับโลกใหม่ บางอย่างจะเลือนหายไปกับกาลเวลา ขณะที่การเปลี่ยนแปลงอีกบางอย่างจะไม่กลับมาเหมือนเดิม ซึ่งเกิดจากปัจจัยแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นกระแสสังคม โครงสร้างพื้นฐาน ความต้องการของผู้บริโภค และวัฏจักรเศรษฐกิจ หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า วิกฤตโรคระบาดครั้งนี้เป็นตัวเร่งให้กระแสต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วให้เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นนั่นเอง

ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกหดตัวเป็นประวัติการณ์ ธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมหลายแห่งพยายามปรับตัว มีทั้งบริษัทที่ไปรอดและไปไม่รอด ซึ่งในประเทศไทยหลังจากได้มีการยกเลิก Test & Go ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 ทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยมากขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้  และตั้งแต่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการเปิดประเทศเต็มรูปแบบทำให้การเดินทางเข้าประเทศกลับสู่ภาวะปกติ และมีอัตราการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จนอาจทำให้การท่องเที่ยวกลายเป็นกลไกสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 ได้

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

ในปัจจุบันธุรกิจบริการเช่ารถบัสมีการแข่งขันค่อนข้างสูง ทำให้การที่จะเลือกใช้บริการต้องพิจารณาในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความน่าเชื่อ ความปลอดภัยในการเดินทาง และราคาที่สมเหตุสมผล นอกจากธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมแล้วธุรกิจอื่นก็สามารถใช้รถบัสไปปรับใช้ในธุรกิจได้เช่นกัน ในโรงเรียนบางแห่งที่มักจะมีบริการรับส่งนักเรียน ยิ่งในช่วงเปิดเทอมแบบนี้ควรเลือกรถบัสที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ แข็งแรง ทนทาน เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน รวมไปถึงบริษัทที่มีบริการรถบัสรับส่งพนักงานก็สามารถนำรถบัสไปใช้ได้เช่นกัน

นอกจากนั้นรถบัสยังสามารถนำไปใช้ในธุรกิจบันเทิงได้อีก ในกรณีที่ต้องไปออกกองต่างจังหวัด โดยที่มีทีมงานและนักแสดงจำนวนมาก เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ไม่ต้องขึ้นเครื่องบ่อย ๆ และไม่ต้องมีปัญหาภายหลัง ซึ่งการจะเลือกใช้รถบัสนั้นจะต้องดูที่ระบบรถต้องมีประสิทธิภาพ ระบบควบคุมการทรงตัวที่มั่นคง เพื่อช่วยส่งแรงเบรกไปที่ล้ออัตโนมัติ ป้องกันการหลุดโค้งเมื่อถนนเปียกลื่น มีระบบป้องกันผู้โดยสารและผู้ขับขี่กรณีมีเหตุฉุกเฉิน

อย่างไรก็ตามรถบัสเพื่อการพาณิชย์ยังสามารถสร้างโอกาสที่หลากหลายได้ให้กับผู้ประกอบการได้อีกมากมาย เพียงแค่ผู้ประกอบการคิดอย่างรอบคอบและลงมือทำไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ธุรกิจท่องเที่ยว หรือธุรกิจอื่น ๆ ก็มีโอกาสฟื้นตัวในช่วงนี้เช่นเดียวกัน  แต่หากจะเลือกรถบัสทั้งทีควรเลือกที่มีความปลอดภัยสูง ขับขี่ง่าย สะดวกสบาย อายุการใช้งานยาวนาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยก็ยิ่งสมบูรณ์แบบ

และหากใครต้องการใช้บริการเช่ารถบัส DASH MV ยินดีให้บริการเช่ารถบัสและรถตู้ที่เติมเต็มทุกการเดินทาง พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเดินทางให้กับทุกท่าน  โดยมีพนักงานขับที่มากด้วยประสบการณ์ จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยในทุกๆการเดินทางนอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีที่สามารถควบคุมความเร็วที่มีประสิทธิภาพรวมถึงพนักงานขับรถของเราได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี ทำให้ทุกการเดินทางนั้นปลอดภัยและมั่นใจทุกการเดินทางของผู้ใช้บริการ

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท แดช เอ็มวี จำกัด
ที่อยู่:  39 หมู่ 14 ถนนบางนา-ตราด บางแก้ว บางพลี สมุทรปราการ 10540
เบอร์โทร. 092-185-6699
Line: @DASHMV

DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

การเดินทางในประเทศไทยนั้นกินพลังงานชีวิต เรียกว่าเป็นอีกอุปสรรคหนึ่งในชีวิตประจำวันก็ว่าได้ เนื่องจากการเดินทางในประเทศของเราด้วยรถสาธารณะนั้นยังมีตัวเลือกให้บริการอย่างไม่เพียงพอ โดยเฉพาะถ้าหากเป็นพื้นที่นอกตัวเมือง การหารถสาธารณะเพื่อเดินทางให้ถึงจุดหมายยิ่งยากขึ้นเป็นเท่าตัว ด้วยเหตุนี้ “รถรับส่งพนักงาน” จึงเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการหรือบริการที่แต่ละองค์กรควรให้ความสนใจ เพื่อที่จะได้เข้ามาอุดรอยรั่วดังกล่าวและทำให้พนักงานรู้สึกได้รับการอำนวยความสะดวก ทำให้มีกำลังใจในการเดินทางมาทำงานในแต่ละวันเนื่องจากไม่ต้องเสียแรงยืนรอหรือเบียดเสียดกับผู้อื่นเพื่อใช้รถสาธารณะ ดังนั้นในวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าทำไมแต่ละองค์กรจึงควรมีรถรับส่งพนักงาน รวมถึงขั้นตอน สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำสวัสดิการรถรับส่งพนักงานแบบมืออาชีพด้วยว่าเป็นอย่างไร

การท่องเที่ยวเชิงเกษตร อีกหนึ่งทางเลือกของเกษตรกร สร้างจุดขายให้ชุมชน

การท่องเที่ยวเชิงเกษตร อีกหนึ่งทางเลือกของเกษตรกร สร้างจุดขายให้ชุมชน

ท่องเที่ยวเชิงเกษตร

สารบัญเนื้อหา

การท่องเที่ยวเชิงเกษตร หรือ Agro-tourism เป็นทางเลือกในการพักผ่อนหย่อนใจ ที่จะได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมกิจกรรม Unseen in Thailand ที่น่าติดตามยิ่ง ขณะที่ในภาพรวมของการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยกว่า 1.2 ล้านบาท/ปี และท่องเที่ยวเชิงเกษตรก็เป็นกิจกรรมสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจที่ได้รับความนิยมจากนักเดินทางมากที่สุด 

แนะนำกิจกรรมเล่นแก้ง่วง ระหว่างเดินทางออกทริป

การท่องเที่ยวเชิงเกษตรเป็นการคิดค้นเอาทรัพยากรทางการท่องเที่ยวที่มีอยู่ในประเทศมาจัดกิจกรรมหรือจัดเป็นรูปแบบทางการท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีความสนใจและอยากเดินทางไปเที่ยว การขยายเส้นทางการท่องเที่ยว และเป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น อีกท้ังยังเป็นการอนุรักษ์และการให้ความรู้ในคุณค่าของภูมิปัญญาของเกษตรกรไทย

การเดินทางท่องเที่ยวไปยังพื้นที่เกษตรกรรมสวนเกษตร วนเกษตร สวนสมุนไพร ฟาร์มปศุสัตว์และเลี้ยงสัตว์เพื่อชื่นชมความสวยงาม ความสำเร็จและเพลิดเพลินในสวนเกษตร ได้ความรู้มีประสบการณ์ใหม่บนพื้นฐานความรับผิดชอบ  มีจิตสำนึกต่อการรักษาสภาพแวดล้อมของสถานที่แห่งนั้น และยังช่วยกระตุ้นให้รักการทำเกษตรด้วยตัวเองอีกด้วย

จะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันมีการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรมากขึ้น เช่น โครงการสาธิตการเกษตรแบบพอเพียง มีการจัดทำทางเดินบนไร่นา มีที่ถ่ายรูปสวยๆ ทำให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาแวะชม และได้เรียนรู้รวมทั้งได้ซึมซับวิถีการเกษตรไปในตัวด้วย ถือว่าการท่องเที่ยวดังกล่าวได้รับความนิยมและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่นได้อย่างดีทีเดียว

ความหมายของการท่องเที่ยวเชิงเกษตร

การท่องเที่ยวเชิงเกษตร คือ การท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นทางด้านการเรียนรู้วิถีเกษตรกรรมของชาวชนบท โดยเน้นการมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยวในการดำเนินกิจกรรมให้เกิดการเรียนรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ก่อให้เกิดรายได้ต่อชุมชน และตัวเกษตรกร การท่องเที่ยวเชิงเกษตรจะเป็นการอนุรักษ์ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนและผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม

รูปแบบการท่องเที่ยวเชิงเกษตร

การท่องเที่ยวเชิงเกษตรนั้นมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับสภาพของสถานที่และจุดท่องเที่ยวใกล้เคียง แต่โดยหลักแล้วก็จะมีการเข้าชมสวนระยะสั้น ที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมและเลือกซื้อผลผลิตด้วยการเก็บเองจากสวนโดยตรง หรือที่เป็นที่นิยมกันมาก คือ บุฟเฟ่ต์ผลไม้

ส่วนการท่องเที่ยวระยะยาวขึ้นคือการพักค้างแรมในสวนหรือในหมู่บ้าน พร้อมกับร่วมกิจกรรมในชุมชน หรือที่เรียกว่าฟาร์มสเตย์ (farmstay) โดยการท่องเที่ยวแบบนี้จะเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มากกว่าระยะสั้นเพราะนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชุมชนมากกว่าการเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ

โดยกิจกรรมนั้นมีได้ทั้งการเที่ยวชมสวนเพื่อเรียนรู้เรื่องการผลิต การให้นักท่องเที่ยวร่วมมือทำกิจกรรมทางการเกษตร เช่น การดำนา การเก็บพืชผัก การตกปลา เก็บไข่ไก่ แล้วนำผลผลิตที่ได้มาทำอาหารกับนักท่องเที่ยวโดยตรง หรือหากบริเวณชุมชนมีจุดท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เช่น หมู่บ้านจักสาน หล่อศาลพระภูมิ ไม้แกะสลัก ก็สามารถนำเสนอเพื่อให้ความรู้ เพิ่มพูนความต้องการที่จะอนุรักษ์ให้แก่นักท่องเที่ยว และเพิ่มรายได้ให้ชุมชนเหล่านั้นอีกด้วย

ประโยชน์จากการท่องเที่ยวเชิงเกษตร

การท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งการท่องเที่ยวแบบนี้สามารถตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเป็นการหลีกหนีชุมชนที่หนาแน่และต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องทางการเกษตร และเรื่องอื่นๆ มากมาย โดยการท่องเที่ยวเชิงเกษตรมีประโยชน์ ดังนี้

  1. โอกาสจากการมีรายได้มากขึ้น จากหลากหลายทางที่ไม่ใช่จากผลผลิตทางการเกษตรเท่านั้น แต่ผู้ประกอบการยังสามารถมีรายได้เพิ่มจากการแปรรูปสินค้าเกษตร การเก็บค่าเข้าชม การจำหน่ายสินค้าที่ระลึกเป็นต้น
  2. รายได้เพิ่ม แต่ไม่ต้องเพิ่มที่ดินท ากิน โดยการนำทฤษฎีเกษตรผสมผสานมาปรับใช้ในพื้นที่ทำกินที่ไม่อยู่จำกัดหรือมีขนาดเล็กให้มีประสิทธิภาพ มีรายได้เพิ่ม มีผลผลิตที่หลากหลาย
  3. เมื่อเทียบกับตลาดสินค้าแบบดั้งเดิม การท่องเที่ยวเชิงเกษตรน าเสนอวิธีการใหม่ของการตลาดผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถเพิ่มมูลค่าของสินค้าการเกษตร ได้แก่ การแปรรูปผลผลิตให้มีมูลค่าเพิ่ม
  4. โอกาสในการสร้างธุรกิจใหม่ ๆ จากทรัพยากรที่เกษตรกรมีอยู่แล้ว

  5. เป็นการสร้างกิจการ เพื่อครอบครัวและลูกหลานในอนาคต เป็นวิธีการหนึ่งในการดึงดูดให้คนหนุ่มสาวเดินทางกลับมาประกอบอาชีพในท้องถิ่น
  6. เป็นธุรกิจหนึ่งที่ผู้เกษียณอายุ สามารถดำเนินการได้เอง

  7.  เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับทุกคนที่สนใจเรื่องการเพาะปลูกและการเกษตร ทั้งตัวเกษตรกรเอง นักศึกษาและผู้สนใจทั่วไปที่อยากศึกษา หาความรู้เพิ่มเติมด้านการเกษตร หรือความรู้การเลือกซื้อสินค้าการเกษตร การจัดเก็บ เป็นต้น
  8. แสดงวิธีการดูแลและป้องกันผืนดินและทรัพยากรธรรมชาติ เป็นหนึ่งในวิธีการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และพื้นที่สีเขียว โดยการจัดทำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อลดปัญหาการขายที่ดิน และปัญหาสิ่งแวดล้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมที่จะเข้ามาในท้องถิ่น
  9. เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องราววิถีทางทำเกษตรกรรม ไม่ว่าจะเป็นทั้งสมัยโบราณ และสมัยใหม่ด้วย เป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น การปลูกข้าว เครื่องมือเครื่องใช้ในการทำนา เป็นต้น

นอกจากจะได้รับความรู้ความเพลิดเพลินจากประสบการณ์ตรงของเกษตรกรแล้ว ยังได้สัมผัสและเรียนรู้ถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรมท้องถิ่น เทคโนโลยีการเกษตรต่างๆ อีกทั้งเป็นการกระจายรายได้โดยตรงสู่เกษตรกร ช่วยสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนได้เป็นอย่างดี ทั้งการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ยังช่วยให้คนไทยหันกลับมาเที่ยวเมืองไทยให้มากขึ้นด้วย

ลักษณะกิจกรรมการเกษตร

แนวคิดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรต้องการที่จะพัฒนาพื้นที่เกษตรกรรมที่มีความเหมาะสม โดยเป็นการเชื่อมโยงภาคการเกษตรและวิถีชีวิตชุมชนเข้ากับภาคการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มมูลค่า โดยกิจกรรมทางการเกษตรสามารถแบ่งกิจกรรมได้ตามลักษณะ ดังนี้

  1. การทำนา (Rice Cultivation) ได้แก่ การทำนาปี การทำนาปรัง การทำนาหว่าน น้า ตม การทา นาข้นั บนั ได พิพิธภณั ฑ์ขา้ว ความรู้เรื่องขา้วสายพันธุ์ต่างๆ ประเพณีพิธีกรรมเกี่ยวกับข้าว วัฒนธรรมการกินข้าวไทย เป็นต้น
  2. การทำสวนไม้ตัดดอก (Cutting Flowers) การทำสวนดอกไม้เพื่อตัดดอกขายทุกชนิด เช่น สวนกุหลาบ ฟาร์มกล้วยไม้ สวนดอกไม้ประดับนานาชนิด ไม้กระถางทุกประเภท รวมถึงไร่ทานตะวัน
  3.  การทำสวนผลไม้ (Orchard) การทำสวนผลไม้ทุกประเภท รวมทั้งการทำวนเกษตร การทำเกษตรแผนใหม่ การทำสวนผสม รวมถึงการทำยางพารา สวนไผ่ สวนปาล์มน้ำมัน

  4. การทำผักสวนครัว (Vegetables) การปลูกพืชผักสวนครัวทุกประเภทรวมถึงการทำไร่สวนผัก ไร่ถั่ว ไร่ข้าวโพดข้าวฟ่าง ไร่พริกไทย เป็นต้น
  5. การทำสวนสมุนไพร (Herbs) การปลูกพืชสมุนไพรนานาชนิด เพื่อใช้เป็นอาหารเสริมพืชผักสวนครัวข้างบ้าน เพื่อใช้เป็นเครื่องดื่ม เพื่อใช้เป็นเครื่องส าอาง และเพื่อใช้ในการแพทย์แผนไทย

  6. การทำฟาร์มปศุสัตว์ (Animal Farming) การเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์เศรษฐกิจนานาชนิด อาทิ การเลี้ยงไหม การทำฟาร์มปลา การเลี้ยงหอยแมลงภู่ หอยแครง หอยนางรม หอยตะโกรม ฟาร์มจระเข้ และบางแห่งเพาะขยายพันธุ์สัตว์ป่าหายาก เช่น ฟาร์มนกยูงฟาร์มไก่ฟ้า ฟาร์มกวาง รวมถึงสวนงูของสภากาชาดไทยอีกด้วย
  7. งานเทศกาลผลิตภัณฑ์ต่างๆ (Festival) การจัดงานเพื่อส่งเสริมการขายผลิตผลทางการเกษตร เมื่อถึงฤดูที่พืชผลเหล่าน้ันออกผล อาทิเช่น มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ งานเทศกาลลิ้นจี่ เทศกาลลำไย เทศกาลกินปลา เป็นต้น
สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้เชิงเกษตร

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้เชิงเกษตร

ประเทศไทยก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความโดดเด่นด้านเกษตรกรรม ทำให้หลาย ๆ ที่ในประเทศมีการกระจายของพื้นที่ทางการเกษตรอยู่มากมาย และหลาย ๆ ที่ก็เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้ผู้คนมากหน้าหลายตาได้เข้ามาเยี่ยมเยียน พร้อมกับเรียนรู้ด้านเกษตรกรรมอย่างเพลิดเพลิน เผื่อใครอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศไปทำกิจกรรมสนุกๆ ทั้งปลูกผัก เดินเล่นชมวิวของท้องไร่ท้องนา โดยในครั้งนี้  DASH MV จะมาแนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่น่าสนใจกัน มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง

กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรตลาดน้ำท่าคา จังหวัดสมุทรสงคราม

ชุมชนท่าคา ตำบลท่าคา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นชุมชนเก่าแก่ที่ชาวบ้านมีอาชีพทำสวนปลูกพืชล้มลุก เช่น หอม กระเทียม พริกสด ฯลฯ ในสมัยก่อนชาวบ้านนำพืชผักผลไม้ในสวนของแต่ละคนที่เหลือจากการเก็บไว้รับประทานในครัวเรือนมาแลกเปลี่ยนกัน ซึ่งชาวบ้านจะนัดแลกเปลี่ยนสินค้ากันในวันขึ้นและแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ และ 12 ค่ำ โดยการสัญจรทางเรือ เนื่องจากในอดีตยังไม่มีถนน ต่อมาเมื่อมีการแลกเปลี่ยนระหว่างหมู่บ้านอื่นมากขึ้นจึงได้มีการพัฒนาเป็นตลาดน้ำท่าคาเพิ่มเป็นวันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยสินค้าหลักของชุมชน คือ น้ำตาลสด น้ำตาลมะพร้าว ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว เป็นต้น

กิจกรรมชุมชน ร่วมทำกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ต่างๆของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ตลาดน้ำท่าคาจากเรื่องราวของมะพร้าว ชมภูมิปัญญาการทำน้ำตาลมะพร้าว ได้แก่

  • การขึ้นเก็บน้ำตาลมะพร้าวจากต้น
  • การเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าวแบบโบราณ
  • เติมความหวาน เรียนรู้การทำขนมโบราณจากน้ำตาลมะพร้าวท่าคา
  • การจักสานก้านมะพร้าว ภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนท่าคา
  • การจักสานทางมะพร้าวสด นำมาสานเป็นหมวก ตะกร้า ฯลฯ
  • เรือดุ๊กดิ๊กจากกาบมะพร้าว

ข้อมูลติดต่อ
สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลท่าคา โทร. 03-4766208 
คุณฐานิดา สีเหลือง ผู้ใหญ่บ้านท่าคา โทร. 08-67898130

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านโคกเมือง จังหวัดบุรีรัมย์

บ้านโคกเมือง ตั้งอยู่ในตำบลจรเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นชุมชนขนาดใหญ่มีอาณาเขตการปกครองแบ่งเป็น 4 หมู่บ้านคือ หมู่ที่ 6 หมุ่ที่ 9 หมู่ที่ 15 และหมู่ที่ 18 จำนวน 720 ครัวเรือน ชุมชนโคกเมืองเป็นชุมชนเก่าแก่ดั้งเดิม ประชาชนที่มาตั้งหลักอพยพมาจากตำบลตาจง อำเภอละทานทราย (ปัจจุบัน) และจากการเสียราษฎรศรีโสภณ กัมพูชา ศรีษะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี เป็นชุมชนที่มีพื้นฐานความเจริญรุ่งรืองทางวัฒนธรรมมาก่อนในอดีต โดยมีหลักฐานทางโบราณสถานที่สำคัญ คือ ปราสาทเมืองต่ำที่มีอายุมากกว่า 1,400 ปี ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา และทำการเกษตรผสมผสาน เมื่อว่างจากการทำนาซึ่งเป็นอาชีพหลักแล้วประชาชนกลุ่มแม่บ้านทำการทอผ้าไหมและทอเสื่อกก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและเป็นการขยายตลาดสินค้า ที่ระลึก และสินค้ามีราคาถูก ขายง่าย กลุ่มพ่อบ้านทำการเกษตรพอเพียง ประชาชนนับถือศาสนาพุทธ มีประเพณีบวงสรวงเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปราสาทเมืองตำในวันที่ 2-4 เมษายนของทุกปี โดยจะเปิดทำการเวลา

กิจกรรมชุมชน : ชมและศึกษากระบวนการผลิตข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟ สาธิตการทอเสื่อ การย้อมผ้าจากดินจากบ่อบารายศักศิ์สิทธ์ การชมฐานผลิตพืชผักสมุนไพรและการแปรรูปสมุนไพร เลือกซื้อของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์และผลผลิตทางการเกษตร ศูนย์ OTOP ชิมอาหารพื้นบ้านในรูปแบบขันโตก ชมระบำนางอัปรา ปั่นจักรยานชมวิวทิวทัศน์ นอนบ้านพักโฮมสเตย์ ชมตลาดเช้าวิถีชุมชน

วิถีชีวิตชุมชน : วิถีชีวิตการทำการเกษตร การอยู่อาศัยของชาวบ้านอีสานใต้ ร่องรอยอารยธรรมขอม

การมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยว : ชม ชิม ช้อป แชะ แชร์ ลองปฏิบิติและเรียนรู้ตามฐานเรียนรู้ด้านการเกษตร

ข้อมูลติดต่อ
อบต.จรเข้มาก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ โทร. 044-666-247-8
คุณส้มเกลี้ยง สืบวัน (ประธานโฮมสเตย์) โทร. 08 8193 8840
คุณประสิทธิ์ ลอยประโคน (ประธานหมู่บ้านท่องเที่ยว) โทร. 08 6721 1789

ศูนย์การเรียนรู้เกษตรเชิงสร้างสรรค์ ไร่รื่นรมย์ จังหวัดเชียงราย

ศูนย์การเรียนรู้เกษตรเชิงสร้างสรรค์ ไร่รื่นรมย์ จังหวัดเชียงราย

ไร่รื่นรมย์ เป็นไร่ปลูกพืชผักแบบเกษตรอินทรีย์ (Organic) ตั้งอยู่ที่ อ.เทิง จ.เชียงราย โดยก่อตั้งจากคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจอยากให้ทุกคนหันมาดูแลสุขภาพ และควบคุมน้ำหนักอย่างถูกวิธีและปลอดภัย ด้วยการเลือกทานพืชผักที่ไม่มีสารเคมีหรือเรียกแบบคุ้นหู คือ พืชเกษตรอินทรีย์ (Organic) ซึ่งปัจจุบันคนส่วนใหญ่โดยหันมาสนใจและทานอาหารสุขภาพมากขึ้น แต่ยังไม่ได้ตระหนักว่าผักเหล่านั้นมีสารเคมีตกค้างมากน้อยแค่ไหน ดังนั้น ทางไร่เริงรมย์จึงมีความตั้งใจในการโปรโมทสินค้าเกษตรอินทรีย์ให้ผู้บริโภคได้เข้าใจและเข้าถึงในการหาซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยจะเปิดทำการทุกวัน เวลา 08:00 น. – 19:00 น.

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมให้ได้ทำ สร้างการเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งหลักการและการลงมือทำ อาทิ การทำเกษตรอินทรีย์, การทำปุ๋ยอินทรีย์, ปลูกต้นไม้ยืนต้น, การดำนา อีกทั้งถ้าใครสนใจทารทำไร่นาแบบเกษตรอินทรีย์ ที่นี่ก็ได้เปิดคอร์สสอนเป็นระยะๆ อีกด้วย

ข้อมูลติดต่อ
ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ อ.เทิง จ.เชียงราย โทร. 053 160 512, 025111942, 0818361387

สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน จังหวัดเชียงใหม่

ขุนช่างเคี่ยน หรือสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ใน เส้นทางเดียวกับ พระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิวเศน์ และบ้านม้งดอยปุย สถานีเกษตรที่สูง ขุนช่างเคี่ยนเป็น 1 สถานี เกษตรฯ ของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสถานีวิจัยเกี่ยวกับ เมล็ด พันธุ์กาแฟ ไม้ผลเมืองหนาว เช่น ท้อ พลับ บ๊วย พลัม อะโวกาโด มะคาเดเมีย และไม้ผลกึ่งร้อน ได้แก่ ลิ้นจี่ และในทุกๆปีของหน้าหนาวช่วงปลายธ.ค-ม.ค. แต่ในเนื่องจากสภาพอากาศ เริ่มแปรปรวนไป ก่อนเดินทางต้องโทรสอบถามไปอีกครั้ง ว่าบานแล้วหรือยัง ต้นนางพญาเสือโคร่งหรือที่เรียกกันว่าซากุระเมืองไทย สีชมพู สดจะบานสะพรั่งอวดความงามไปทั่วบริเวณสถานีวิจัยและศูนย์ฝึก อบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน หมู่บ้านชาวม้ง บ้าน ขุนช่างเคี่ยนเต็มไปด้วยสีชมพูของต้นนางพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่มาก ทั้งตามข้างทางถึงในหมู่บ้าน โดยเปิดทำการวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.

ข้อมูลติดต่อ
สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน โทร. 053-944053 หรือ 053-222014

สวนผู้ใหญ่สมควร จังหวัดระยอง

สวนผู้ใหญ่สมควร จังหวัดระยอง

สวนผู้ใหญ่สมควร มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 100 ไร่ แต่ที่จัดเป็นสวนท่องเที่ยวเชิงเกษตรนั้นตั้งอยู่บนเนื่อที่ร่วม 8 ไร่ ณ หมู่ที่ 3 (หมู่บ้านหนองพญา) ตำบลบ้านแลง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ซึ่งถือได้ว่าเป็นสวนที่เก่าแก่ที่สุดสวนหนึ่ง ได้รับเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ทั้งนี้จะมีต้นมังคุดขนาดใหญ่อายุ 100 ปี เป็นเครื่องยืนยัน ภายในสวนประกอบด้วยผลไม้นานาชนิด ซึ่งล้วนเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดระยองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น เงาะ มังคุด ทุเรียน กระท้อน ลิ้นจี่ ลองกอง ลางสาด ขนุน สละ ฯลฯ ความสด และปลอดภัยจากสารพิษ โดยการรับรอง GAP เป็นเครื่องยืนยัน

โดยที่ตัวสวนจะติดกับคลองชลประทาน ซึ่งจะมีลมพัดเย็นตลอดเวลา ภายในสวนบรรยากาศร่มรื่น มีการจัดเส้นทางเดินชมสวน และมีซุ้มสำหรับให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อน รับประทานผลไม้ในสวนนานาชนิด โดยเอกลักษณ์ที่สำคัญของสวนผู้ใหญ่สมควรคือ ต้นมังคุด 100 ปี จะมีขนาดลำต้นที่ใหญ่ สูง และมีลักษณะเป็นพุ่มสวยงาม ซึ่งลักษณะเด่นของมังคุด 100 ปี คือ จะมีเปลือกบาง มีรสชาติหวานอร่อยกว่ามังคุดทั่วไป โดยลูกจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนักและผิวพรรณจะไม่นวลเนียนเท่าที่ควร แต่มีรสชาติอร่อย  โดยเปิดทำการเวลา 8.00-18.00 น.

ข้อมูลติดต่อ
คุณสมควร ศิริภักดี โทร. 081-761-9497 , 081-991-3233
คุณเจี๊ยบ 083-0627824

ชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านบัวเทิงโฮมสเตย์

ชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านบัวเทิงโฮมสเตย์

ศูนย์แห่งการเรียนรู้วิถีชีวิตการดำรงชีวิตเพื่อความสุขอย่างพอเพียง การทำการเกษตรผสมผสาน เกษตรปลอดสารพิษ และแหล่งเรียนรู้การทำปุ๋ยหมักจุลินทรีย์ชีวภาพ ประโยชน์และการใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพกับการเกษตร การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการพัฒนาการการเกษตรให้เหมาะสมกับพื้นที่ภาคอีสานที่ร้อนและแห้งแล้ง บ้านบัวเทิง เป็นหมู่บ้านเก่าแก่อายุเกือบ 180 ปี ด้วยความที่สภาพพื้นที่เหมาะสมกับการทำการเกษตร และเพาะปลูก บ้านบัวเทิงจึงสามารถปลูกไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดจากภาคตะวันออกและภาคใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เงาะ และทุเรียน เป็นต้น นอกจากสวนผลไม้แล้วที่บ้านบัวเทิงยังส่วนต่างๆที่มีศักยภาพมากมาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีความสนใจหลากหลาย โดยเปิดทำการทุกวัน เวลา 05.00 น. – 16.00 น.

กิจกรรมการท่องเที่ยวในชุมชน :

  • เรียนรู้การปลูกพืชผักปลอดสารพิษ
  • เรียนรู้การทำปุ๋ยชีวภาพ
  • เรียนรู้หลักเกษตรอินทรีย์
  • เรียนรู้วิถีชุมชน
  • เรียนรู้เทคนิคการปลูกพืชชนิดต่างๆ เดินชมสวนผลไม้ จับปลาลากอวนกับชาวบ้านนำมาทำอาหาร เลือกซื้อผัก ผลไม้ และดอกไม้จากชุมชน 

ผลิตภัณฑ์ชุมชน: พุทรา 3 รส ,มะนาวแป้นพวง, แก้วมังกร และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ

ข้อมูลติดต่อ
ศูนย์การเรียนรู้วิสาหกิจชุมชนบ้านบัวเทิง โทร. 086-2605412

ทำไมต้องทำกิจกรรม CSR ทำแล้วได้อะไร

ใครที่อยู่ใกล้ที่ไหนก็สามารถท่องเที่ยวได้ที่นั่น หรือจะหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่น่าสนใจ หรือสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน เพียงค้นหาคำว่า “ท่องเที่ยวเชิงเกษตร” สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และแอนดรอยด์ ในนั้นจะมีข้อมูลเบอร์ติดต่อและแผนที่ที่สามารถเดินทางสะดวกได้

คลิกดาวน์โหลด ระบบ IOS : https://apple.co/3TVpKh5
คลิกดาวน์โหลด ระบบ Android : https://bit.ly/3Do8lYT

ใครที่สนใจเช่ารถบัสไปแหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้เชิงเกษตร สามารถเช่ารถบัสกับ DASH MV ยินดีให้บริการเช่ารถบัสในราคาย่อมเยาและพร้อมมอบความสุขและความใส่ใจในการบริการทุกขั้นตอนด้วยทีมงานมากประสบการณ์ที่คอยดูแล เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจมากที่สุด ซึ่งทีมงานและพนักงานขับรถทุกคนมีการฝึกอบรบและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการขับขี่อย่างปลอดภัยขั้นสูง การให้บริการลูกค้า และการซ่อมแซมรถเบื้องต้น เพื่อพร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท แดช เอ็มวี จำกัด 

  • ที่อยู่: 39  หมู่ 14 ถนนบางนา-ตราด บางแก้ว บางพลี สมุทรปราการ 10540
  • เบอร์โทร: 092 185 6699
  • Line:  @dashmv
DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

วิถีชีวิตชุมชน : วิถีชีวิตการทำการเกษตร การอยู่อาศัยของชาวบ้านอีสานใต้ ร่องรอยอารยธรรมขอม

การมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยว : ชม ชิม ช้อป แชะ แชร์ ลองปฏิบิติและเรียนรู้ตามฐานเรียนรู้ด้านการเกษตร