fbpx

รถบัสเพื่อการพาณิชย์ ตัวช่วยฟื้นฟูธุรกิจอีกทางเลือกหนึ่ง

รถบัสเพื่อการพาณิชย์ ตัวช่วยฟื้นฟูธุรกิจอีกทางเลือกหนึ่ง

รถบัสเพื่อการพาณิชย์

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020 มาจนถึงปัจจุบัน ได้ส่งผลกระทบต่อมนุษยชาติในทุกมิติ การใช้มาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศเพื่อยับยั้งการระบาดทำให้ผู้คนไม่สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติก่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนชีวิตความเป็นอยู่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อีกทั้งยังสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงในวงกว้างด้วย ที่สำคัญ วิกฤตในครั้งนี้ได้ทิ้งร่องรอยหลายอย่างไว้สำหรับโลกใหม่ บางอย่างจะเลือนหายไปกับกาลเวลา ขณะที่การเปลี่ยนแปลงอีกบางอย่างจะไม่กลับมาเหมือนเดิม ซึ่งเกิดจากปัจจัยแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นกระแสสังคม โครงสร้างพื้นฐาน ความต้องการของผู้บริโภค และวัฏจักรเศรษฐกิจ หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า วิกฤตโรคระบาดครั้งนี้เป็นตัวเร่งให้กระแสต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วให้เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นนั่นเอง

ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกหดตัวเป็นประวัติการณ์ ธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมหลายแห่งพยายามปรับตัว มีทั้งบริษัทที่ไปรอดและไปไม่รอด ซึ่งในประเทศไทยหลังจากได้มีการยกเลิก Test & Go ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 ทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยมากขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้  และตั้งแต่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการเปิดประเทศเต็มรูปแบบทำให้การเดินทางเข้าประเทศกลับสู่ภาวะปกติ และมีอัตราการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จนอาจทำให้การท่องเที่ยวกลายเป็นกลไกสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 ได้

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

ในปัจจุบันธุรกิจบริการเช่ารถบัสมีการแข่งขันค่อนข้างสูง ทำให้การที่จะเลือกใช้บริการต้องพิจารณาในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความน่าเชื่อ ความปลอดภัยในการเดินทาง และราคาที่สมเหตุสมผล นอกจากธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมแล้วธุรกิจอื่นก็สามารถใช้รถบัสไปปรับใช้ในธุรกิจได้เช่นกัน ในโรงเรียนบางแห่งที่มักจะมีบริการรับส่งนักเรียน ยิ่งในช่วงเปิดเทอมแบบนี้ควรเลือกรถบัสที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ แข็งแรง ทนทาน เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน รวมไปถึงบริษัทที่มีบริการรถบัสรับส่งพนักงานก็สามารถนำรถบัสไปใช้ได้เช่นกัน

นอกจากนั้นรถบัสยังสามารถนำไปใช้ในธุรกิจบันเทิงได้อีก ในกรณีที่ต้องไปออกกองต่างจังหวัด โดยที่มีทีมงานและนักแสดงจำนวนมาก เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ไม่ต้องขึ้นเครื่องบ่อย ๆ และไม่ต้องมีปัญหาภายหลัง ซึ่งการจะเลือกใช้รถบัสนั้นจะต้องดูที่ระบบรถต้องมีประสิทธิภาพ ระบบควบคุมการทรงตัวที่มั่นคง เพื่อช่วยส่งแรงเบรกไปที่ล้ออัตโนมัติ ป้องกันการหลุดโค้งเมื่อถนนเปียกลื่น มีระบบป้องกันผู้โดยสารและผู้ขับขี่กรณีมีเหตุฉุกเฉิน

อย่างไรก็ตามรถบัสเพื่อการพาณิชย์ยังสามารถสร้างโอกาสที่หลากหลายได้ให้กับผู้ประกอบการได้อีกมากมาย เพียงแค่ผู้ประกอบการคิดอย่างรอบคอบและลงมือทำไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ธุรกิจท่องเที่ยว หรือธุรกิจอื่น ๆ ก็มีโอกาสฟื้นตัวในช่วงนี้เช่นเดียวกัน  แต่หากจะเลือกรถบัสทั้งทีควรเลือกที่มีความปลอดภัยสูง ขับขี่ง่าย สะดวกสบาย อายุการใช้งานยาวนาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยก็ยิ่งสมบูรณ์แบบ

และหากใครต้องการใช้บริการเช่ารถบัส DASH MV ยินดีให้บริการเช่ารถบัสและรถตู้ที่เติมเต็มทุกการเดินทาง พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเดินทางให้กับทุกท่าน  โดยมีพนักงานขับที่มากด้วยประสบการณ์ จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยในทุกๆการเดินทางนอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีที่สามารถควบคุมความเร็วที่มีประสิทธิภาพรวมถึงพนักงานขับรถของเราได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี ทำให้ทุกการเดินทางนั้นปลอดภัยและมั่นใจทุกการเดินทางของผู้ใช้บริการ

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท แดช เอ็มวี จำกัด
ที่อยู่:  39 หมู่ 14 ถนนบางนา-ตราด บางแก้ว บางพลี สมุทรปราการ 10540
เบอร์โทร. 092-185-6699
Line: @DASHMV

DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

การเดินทางในประเทศไทยนั้นกินพลังงานชีวิต เรียกว่าเป็นอีกอุปสรรคหนึ่งในชีวิตประจำวันก็ว่าได้ เนื่องจากการเดินทางในประเทศของเราด้วยรถสาธารณะนั้นยังมีตัวเลือกให้บริการอย่างไม่เพียงพอ โดยเฉพาะถ้าหากเป็นพื้นที่นอกตัวเมือง การหารถสาธารณะเพื่อเดินทางให้ถึงจุดหมายยิ่งยากขึ้นเป็นเท่าตัว ด้วยเหตุนี้ “รถรับส่งพนักงาน” จึงเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการหรือบริการที่แต่ละองค์กรควรให้ความสนใจ เพื่อที่จะได้เข้ามาอุดรอยรั่วดังกล่าวและทำให้พนักงานรู้สึกได้รับการอำนวยความสะดวก ทำให้มีกำลังใจในการเดินทางมาทำงานในแต่ละวันเนื่องจากไม่ต้องเสียแรงยืนรอหรือเบียดเสียดกับผู้อื่นเพื่อใช้รถสาธารณะ ดังนั้นในวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่าทำไมแต่ละองค์กรจึงควรมีรถรับส่งพนักงาน รวมถึงขั้นตอน สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำสวัสดิการรถรับส่งพนักงานแบบมืออาชีพด้วยว่าเป็นอย่างไร

การท่องเที่ยวเชิงเกษตร อีกหนึ่งทางเลือกของเกษตรกร สร้างจุดขายให้ชุมชน

การท่องเที่ยวเชิงเกษตร อีกหนึ่งทางเลือกของเกษตรกร สร้างจุดขายให้ชุมชน

ท่องเที่ยวเชิงเกษตร

สารบัญเนื้อหา

การท่องเที่ยวเชิงเกษตร หรือ Agro-tourism เป็นทางเลือกในการพักผ่อนหย่อนใจ ที่จะได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมกิจกรรม Unseen in Thailand ที่น่าติดตามยิ่ง ขณะที่ในภาพรวมของการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยกว่า 1.2 ล้านบาท/ปี และท่องเที่ยวเชิงเกษตรก็เป็นกิจกรรมสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจที่ได้รับความนิยมจากนักเดินทางมากที่สุด 

แนะนำกิจกรรมเล่นแก้ง่วง ระหว่างเดินทางออกทริป

การท่องเที่ยวเชิงเกษตรเป็นการคิดค้นเอาทรัพยากรทางการท่องเที่ยวที่มีอยู่ในประเทศมาจัดกิจกรรมหรือจัดเป็นรูปแบบทางการท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีความสนใจและอยากเดินทางไปเที่ยว การขยายเส้นทางการท่องเที่ยว และเป็นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น อีกท้ังยังเป็นการอนุรักษ์และการให้ความรู้ในคุณค่าของภูมิปัญญาของเกษตรกรไทย

การเดินทางท่องเที่ยวไปยังพื้นที่เกษตรกรรมสวนเกษตร วนเกษตร สวนสมุนไพร ฟาร์มปศุสัตว์และเลี้ยงสัตว์เพื่อชื่นชมความสวยงาม ความสำเร็จและเพลิดเพลินในสวนเกษตร ได้ความรู้มีประสบการณ์ใหม่บนพื้นฐานความรับผิดชอบ  มีจิตสำนึกต่อการรักษาสภาพแวดล้อมของสถานที่แห่งนั้น และยังช่วยกระตุ้นให้รักการทำเกษตรด้วยตัวเองอีกด้วย

จะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันมีการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรมากขึ้น เช่น โครงการสาธิตการเกษตรแบบพอเพียง มีการจัดทำทางเดินบนไร่นา มีที่ถ่ายรูปสวยๆ ทำให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาแวะชม และได้เรียนรู้รวมทั้งได้ซึมซับวิถีการเกษตรไปในตัวด้วย ถือว่าการท่องเที่ยวดังกล่าวได้รับความนิยมและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่นได้อย่างดีทีเดียว

ความหมายของการท่องเที่ยวเชิงเกษตร

การท่องเที่ยวเชิงเกษตร คือ การท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นทางด้านการเรียนรู้วิถีเกษตรกรรมของชาวชนบท โดยเน้นการมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยวในการดำเนินกิจกรรมให้เกิดการเรียนรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ก่อให้เกิดรายได้ต่อชุมชน และตัวเกษตรกร การท่องเที่ยวเชิงเกษตรจะเป็นการอนุรักษ์ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนและผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม

รูปแบบการท่องเที่ยวเชิงเกษตร

การท่องเที่ยวเชิงเกษตรนั้นมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับสภาพของสถานที่และจุดท่องเที่ยวใกล้เคียง แต่โดยหลักแล้วก็จะมีการเข้าชมสวนระยะสั้น ที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมและเลือกซื้อผลผลิตด้วยการเก็บเองจากสวนโดยตรง หรือที่เป็นที่นิยมกันมาก คือ บุฟเฟ่ต์ผลไม้

ส่วนการท่องเที่ยวระยะยาวขึ้นคือการพักค้างแรมในสวนหรือในหมู่บ้าน พร้อมกับร่วมกิจกรรมในชุมชน หรือที่เรียกว่าฟาร์มสเตย์ (farmstay) โดยการท่องเที่ยวแบบนี้จะเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มากกว่าระยะสั้นเพราะนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชุมชนมากกว่าการเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ

โดยกิจกรรมนั้นมีได้ทั้งการเที่ยวชมสวนเพื่อเรียนรู้เรื่องการผลิต การให้นักท่องเที่ยวร่วมมือทำกิจกรรมทางการเกษตร เช่น การดำนา การเก็บพืชผัก การตกปลา เก็บไข่ไก่ แล้วนำผลผลิตที่ได้มาทำอาหารกับนักท่องเที่ยวโดยตรง หรือหากบริเวณชุมชนมีจุดท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เช่น หมู่บ้านจักสาน หล่อศาลพระภูมิ ไม้แกะสลัก ก็สามารถนำเสนอเพื่อให้ความรู้ เพิ่มพูนความต้องการที่จะอนุรักษ์ให้แก่นักท่องเที่ยว และเพิ่มรายได้ให้ชุมชนเหล่านั้นอีกด้วย

ประโยชน์จากการท่องเที่ยวเชิงเกษตร

การท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งการท่องเที่ยวแบบนี้สามารถตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเป็นการหลีกหนีชุมชนที่หนาแน่และต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องทางการเกษตร และเรื่องอื่นๆ มากมาย โดยการท่องเที่ยวเชิงเกษตรมีประโยชน์ ดังนี้

  1. โอกาสจากการมีรายได้มากขึ้น จากหลากหลายทางที่ไม่ใช่จากผลผลิตทางการเกษตรเท่านั้น แต่ผู้ประกอบการยังสามารถมีรายได้เพิ่มจากการแปรรูปสินค้าเกษตร การเก็บค่าเข้าชม การจำหน่ายสินค้าที่ระลึกเป็นต้น
  2. รายได้เพิ่ม แต่ไม่ต้องเพิ่มที่ดินท ากิน โดยการนำทฤษฎีเกษตรผสมผสานมาปรับใช้ในพื้นที่ทำกินที่ไม่อยู่จำกัดหรือมีขนาดเล็กให้มีประสิทธิภาพ มีรายได้เพิ่ม มีผลผลิตที่หลากหลาย
  3. เมื่อเทียบกับตลาดสินค้าแบบดั้งเดิม การท่องเที่ยวเชิงเกษตรน าเสนอวิธีการใหม่ของการตลาดผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถเพิ่มมูลค่าของสินค้าการเกษตร ได้แก่ การแปรรูปผลผลิตให้มีมูลค่าเพิ่ม
  4. โอกาสในการสร้างธุรกิจใหม่ ๆ จากทรัพยากรที่เกษตรกรมีอยู่แล้ว

  5. เป็นการสร้างกิจการ เพื่อครอบครัวและลูกหลานในอนาคต เป็นวิธีการหนึ่งในการดึงดูดให้คนหนุ่มสาวเดินทางกลับมาประกอบอาชีพในท้องถิ่น
  6. เป็นธุรกิจหนึ่งที่ผู้เกษียณอายุ สามารถดำเนินการได้เอง

  7.  เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับทุกคนที่สนใจเรื่องการเพาะปลูกและการเกษตร ทั้งตัวเกษตรกรเอง นักศึกษาและผู้สนใจทั่วไปที่อยากศึกษา หาความรู้เพิ่มเติมด้านการเกษตร หรือความรู้การเลือกซื้อสินค้าการเกษตร การจัดเก็บ เป็นต้น
  8. แสดงวิธีการดูแลและป้องกันผืนดินและทรัพยากรธรรมชาติ เป็นหนึ่งในวิธีการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และพื้นที่สีเขียว โดยการจัดทำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อลดปัญหาการขายที่ดิน และปัญหาสิ่งแวดล้อมจากโรงงานอุตสาหกรรมที่จะเข้ามาในท้องถิ่น
  9. เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องราววิถีทางทำเกษตรกรรม ไม่ว่าจะเป็นทั้งสมัยโบราณ และสมัยใหม่ด้วย เป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น การปลูกข้าว เครื่องมือเครื่องใช้ในการทำนา เป็นต้น

นอกจากจะได้รับความรู้ความเพลิดเพลินจากประสบการณ์ตรงของเกษตรกรแล้ว ยังได้สัมผัสและเรียนรู้ถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรมท้องถิ่น เทคโนโลยีการเกษตรต่างๆ อีกทั้งเป็นการกระจายรายได้โดยตรงสู่เกษตรกร ช่วยสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนได้เป็นอย่างดี ทั้งการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ยังช่วยให้คนไทยหันกลับมาเที่ยวเมืองไทยให้มากขึ้นด้วย

ลักษณะกิจกรรมการเกษตร

แนวคิดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรต้องการที่จะพัฒนาพื้นที่เกษตรกรรมที่มีความเหมาะสม โดยเป็นการเชื่อมโยงภาคการเกษตรและวิถีชีวิตชุมชนเข้ากับภาคการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มมูลค่า โดยกิจกรรมทางการเกษตรสามารถแบ่งกิจกรรมได้ตามลักษณะ ดังนี้

  1. การทำนา (Rice Cultivation) ได้แก่ การทำนาปี การทำนาปรัง การทำนาหว่าน น้า ตม การทา นาข้นั บนั ได พิพิธภณั ฑ์ขา้ว ความรู้เรื่องขา้วสายพันธุ์ต่างๆ ประเพณีพิธีกรรมเกี่ยวกับข้าว วัฒนธรรมการกินข้าวไทย เป็นต้น
  2. การทำสวนไม้ตัดดอก (Cutting Flowers) การทำสวนดอกไม้เพื่อตัดดอกขายทุกชนิด เช่น สวนกุหลาบ ฟาร์มกล้วยไม้ สวนดอกไม้ประดับนานาชนิด ไม้กระถางทุกประเภท รวมถึงไร่ทานตะวัน
  3.  การทำสวนผลไม้ (Orchard) การทำสวนผลไม้ทุกประเภท รวมทั้งการทำวนเกษตร การทำเกษตรแผนใหม่ การทำสวนผสม รวมถึงการทำยางพารา สวนไผ่ สวนปาล์มน้ำมัน

  4. การทำผักสวนครัว (Vegetables) การปลูกพืชผักสวนครัวทุกประเภทรวมถึงการทำไร่สวนผัก ไร่ถั่ว ไร่ข้าวโพดข้าวฟ่าง ไร่พริกไทย เป็นต้น
  5. การทำสวนสมุนไพร (Herbs) การปลูกพืชสมุนไพรนานาชนิด เพื่อใช้เป็นอาหารเสริมพืชผักสวนครัวข้างบ้าน เพื่อใช้เป็นเครื่องดื่ม เพื่อใช้เป็นเครื่องส าอาง และเพื่อใช้ในการแพทย์แผนไทย

  6. การทำฟาร์มปศุสัตว์ (Animal Farming) การเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์เศรษฐกิจนานาชนิด อาทิ การเลี้ยงไหม การทำฟาร์มปลา การเลี้ยงหอยแมลงภู่ หอยแครง หอยนางรม หอยตะโกรม ฟาร์มจระเข้ และบางแห่งเพาะขยายพันธุ์สัตว์ป่าหายาก เช่น ฟาร์มนกยูงฟาร์มไก่ฟ้า ฟาร์มกวาง รวมถึงสวนงูของสภากาชาดไทยอีกด้วย
  7. งานเทศกาลผลิตภัณฑ์ต่างๆ (Festival) การจัดงานเพื่อส่งเสริมการขายผลิตผลทางการเกษตร เมื่อถึงฤดูที่พืชผลเหล่าน้ันออกผล อาทิเช่น มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ งานเทศกาลลิ้นจี่ เทศกาลลำไย เทศกาลกินปลา เป็นต้น
สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้เชิงเกษตร

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้เชิงเกษตร

ประเทศไทยก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความโดดเด่นด้านเกษตรกรรม ทำให้หลาย ๆ ที่ในประเทศมีการกระจายของพื้นที่ทางการเกษตรอยู่มากมาย และหลาย ๆ ที่ก็เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้ผู้คนมากหน้าหลายตาได้เข้ามาเยี่ยมเยียน พร้อมกับเรียนรู้ด้านเกษตรกรรมอย่างเพลิดเพลิน เผื่อใครอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศไปทำกิจกรรมสนุกๆ ทั้งปลูกผัก เดินเล่นชมวิวของท้องไร่ท้องนา โดยในครั้งนี้  DASH MV จะมาแนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่น่าสนใจกัน มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง

กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรตลาดน้ำท่าคา จังหวัดสมุทรสงคราม

ชุมชนท่าคา ตำบลท่าคา อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นชุมชนเก่าแก่ที่ชาวบ้านมีอาชีพทำสวนปลูกพืชล้มลุก เช่น หอม กระเทียม พริกสด ฯลฯ ในสมัยก่อนชาวบ้านนำพืชผักผลไม้ในสวนของแต่ละคนที่เหลือจากการเก็บไว้รับประทานในครัวเรือนมาแลกเปลี่ยนกัน ซึ่งชาวบ้านจะนัดแลกเปลี่ยนสินค้ากันในวันขึ้นและแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ และ 12 ค่ำ โดยการสัญจรทางเรือ เนื่องจากในอดีตยังไม่มีถนน ต่อมาเมื่อมีการแลกเปลี่ยนระหว่างหมู่บ้านอื่นมากขึ้นจึงได้มีการพัฒนาเป็นตลาดน้ำท่าคาเพิ่มเป็นวันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยสินค้าหลักของชุมชน คือ น้ำตาลสด น้ำตาลมะพร้าว ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว เป็นต้น

กิจกรรมชุมชน ร่วมทำกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ต่างๆของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ตลาดน้ำท่าคาจากเรื่องราวของมะพร้าว ชมภูมิปัญญาการทำน้ำตาลมะพร้าว ได้แก่

  • การขึ้นเก็บน้ำตาลมะพร้าวจากต้น
  • การเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าวแบบโบราณ
  • เติมความหวาน เรียนรู้การทำขนมโบราณจากน้ำตาลมะพร้าวท่าคา
  • การจักสานก้านมะพร้าว ภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนท่าคา
  • การจักสานทางมะพร้าวสด นำมาสานเป็นหมวก ตะกร้า ฯลฯ
  • เรือดุ๊กดิ๊กจากกาบมะพร้าว

ข้อมูลติดต่อ
สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลท่าคา โทร. 03-4766208 
คุณฐานิดา สีเหลือง ผู้ใหญ่บ้านท่าคา โทร. 08-67898130

แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านโคกเมือง จังหวัดบุรีรัมย์

บ้านโคกเมือง ตั้งอยู่ในตำบลจรเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นชุมชนขนาดใหญ่มีอาณาเขตการปกครองแบ่งเป็น 4 หมู่บ้านคือ หมู่ที่ 6 หมุ่ที่ 9 หมู่ที่ 15 และหมู่ที่ 18 จำนวน 720 ครัวเรือน ชุมชนโคกเมืองเป็นชุมชนเก่าแก่ดั้งเดิม ประชาชนที่มาตั้งหลักอพยพมาจากตำบลตาจง อำเภอละทานทราย (ปัจจุบัน) และจากการเสียราษฎรศรีโสภณ กัมพูชา ศรีษะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี เป็นชุมชนที่มีพื้นฐานความเจริญรุ่งรืองทางวัฒนธรรมมาก่อนในอดีต โดยมีหลักฐานทางโบราณสถานที่สำคัญ คือ ปราสาทเมืองต่ำที่มีอายุมากกว่า 1,400 ปี ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา และทำการเกษตรผสมผสาน เมื่อว่างจากการทำนาซึ่งเป็นอาชีพหลักแล้วประชาชนกลุ่มแม่บ้านทำการทอผ้าไหมและทอเสื่อกก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและเป็นการขยายตลาดสินค้า ที่ระลึก และสินค้ามีราคาถูก ขายง่าย กลุ่มพ่อบ้านทำการเกษตรพอเพียง ประชาชนนับถือศาสนาพุทธ มีประเพณีบวงสรวงเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปราสาทเมืองตำในวันที่ 2-4 เมษายนของทุกปี โดยจะเปิดทำการเวลา

กิจกรรมชุมชน : ชมและศึกษากระบวนการผลิตข้าวหอมมะลิดินภูเขาไฟ สาธิตการทอเสื่อ การย้อมผ้าจากดินจากบ่อบารายศักศิ์สิทธ์ การชมฐานผลิตพืชผักสมุนไพรและการแปรรูปสมุนไพร เลือกซื้อของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์และผลผลิตทางการเกษตร ศูนย์ OTOP ชิมอาหารพื้นบ้านในรูปแบบขันโตก ชมระบำนางอัปรา ปั่นจักรยานชมวิวทิวทัศน์ นอนบ้านพักโฮมสเตย์ ชมตลาดเช้าวิถีชุมชน

วิถีชีวิตชุมชน : วิถีชีวิตการทำการเกษตร การอยู่อาศัยของชาวบ้านอีสานใต้ ร่องรอยอารยธรรมขอม

การมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยว : ชม ชิม ช้อป แชะ แชร์ ลองปฏิบิติและเรียนรู้ตามฐานเรียนรู้ด้านการเกษตร

ข้อมูลติดต่อ
อบต.จรเข้มาก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ โทร. 044-666-247-8
คุณส้มเกลี้ยง สืบวัน (ประธานโฮมสเตย์) โทร. 08 8193 8840
คุณประสิทธิ์ ลอยประโคน (ประธานหมู่บ้านท่องเที่ยว) โทร. 08 6721 1789

ศูนย์การเรียนรู้เกษตรเชิงสร้างสรรค์ ไร่รื่นรมย์ จังหวัดเชียงราย

ศูนย์การเรียนรู้เกษตรเชิงสร้างสรรค์ ไร่รื่นรมย์ จังหวัดเชียงราย

ไร่รื่นรมย์ เป็นไร่ปลูกพืชผักแบบเกษตรอินทรีย์ (Organic) ตั้งอยู่ที่ อ.เทิง จ.เชียงราย โดยก่อตั้งจากคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจอยากให้ทุกคนหันมาดูแลสุขภาพ และควบคุมน้ำหนักอย่างถูกวิธีและปลอดภัย ด้วยการเลือกทานพืชผักที่ไม่มีสารเคมีหรือเรียกแบบคุ้นหู คือ พืชเกษตรอินทรีย์ (Organic) ซึ่งปัจจุบันคนส่วนใหญ่โดยหันมาสนใจและทานอาหารสุขภาพมากขึ้น แต่ยังไม่ได้ตระหนักว่าผักเหล่านั้นมีสารเคมีตกค้างมากน้อยแค่ไหน ดังนั้น ทางไร่เริงรมย์จึงมีความตั้งใจในการโปรโมทสินค้าเกษตรอินทรีย์ให้ผู้บริโภคได้เข้าใจและเข้าถึงในการหาซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยจะเปิดทำการทุกวัน เวลา 08:00 น. – 19:00 น.

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมให้ได้ทำ สร้างการเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งหลักการและการลงมือทำ อาทิ การทำเกษตรอินทรีย์, การทำปุ๋ยอินทรีย์, ปลูกต้นไม้ยืนต้น, การดำนา อีกทั้งถ้าใครสนใจทารทำไร่นาแบบเกษตรอินทรีย์ ที่นี่ก็ได้เปิดคอร์สสอนเป็นระยะๆ อีกด้วย

ข้อมูลติดต่อ
ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ อ.เทิง จ.เชียงราย โทร. 053 160 512, 025111942, 0818361387

สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน จังหวัดเชียงใหม่

ขุนช่างเคี่ยน หรือสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ใน เส้นทางเดียวกับ พระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิวเศน์ และบ้านม้งดอยปุย สถานีเกษตรที่สูง ขุนช่างเคี่ยนเป็น 1 สถานี เกษตรฯ ของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสถานีวิจัยเกี่ยวกับ เมล็ด พันธุ์กาแฟ ไม้ผลเมืองหนาว เช่น ท้อ พลับ บ๊วย พลัม อะโวกาโด มะคาเดเมีย และไม้ผลกึ่งร้อน ได้แก่ ลิ้นจี่ และในทุกๆปีของหน้าหนาวช่วงปลายธ.ค-ม.ค. แต่ในเนื่องจากสภาพอากาศ เริ่มแปรปรวนไป ก่อนเดินทางต้องโทรสอบถามไปอีกครั้ง ว่าบานแล้วหรือยัง ต้นนางพญาเสือโคร่งหรือที่เรียกกันว่าซากุระเมืองไทย สีชมพู สดจะบานสะพรั่งอวดความงามไปทั่วบริเวณสถานีวิจัยและศูนย์ฝึก อบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน หมู่บ้านชาวม้ง บ้าน ขุนช่างเคี่ยนเต็มไปด้วยสีชมพูของต้นนางพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่มาก ทั้งตามข้างทางถึงในหมู่บ้าน โดยเปิดทำการวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.

ข้อมูลติดต่อ
สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน โทร. 053-944053 หรือ 053-222014

สวนผู้ใหญ่สมควร จังหวัดระยอง

สวนผู้ใหญ่สมควร จังหวัดระยอง

สวนผู้ใหญ่สมควร มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 100 ไร่ แต่ที่จัดเป็นสวนท่องเที่ยวเชิงเกษตรนั้นตั้งอยู่บนเนื่อที่ร่วม 8 ไร่ ณ หมู่ที่ 3 (หมู่บ้านหนองพญา) ตำบลบ้านแลง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ซึ่งถือได้ว่าเป็นสวนที่เก่าแก่ที่สุดสวนหนึ่ง ได้รับเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ทั้งนี้จะมีต้นมังคุดขนาดใหญ่อายุ 100 ปี เป็นเครื่องยืนยัน ภายในสวนประกอบด้วยผลไม้นานาชนิด ซึ่งล้วนเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดระยองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น เงาะ มังคุด ทุเรียน กระท้อน ลิ้นจี่ ลองกอง ลางสาด ขนุน สละ ฯลฯ ความสด และปลอดภัยจากสารพิษ โดยการรับรอง GAP เป็นเครื่องยืนยัน

โดยที่ตัวสวนจะติดกับคลองชลประทาน ซึ่งจะมีลมพัดเย็นตลอดเวลา ภายในสวนบรรยากาศร่มรื่น มีการจัดเส้นทางเดินชมสวน และมีซุ้มสำหรับให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อน รับประทานผลไม้ในสวนนานาชนิด โดยเอกลักษณ์ที่สำคัญของสวนผู้ใหญ่สมควรคือ ต้นมังคุด 100 ปี จะมีขนาดลำต้นที่ใหญ่ สูง และมีลักษณะเป็นพุ่มสวยงาม ซึ่งลักษณะเด่นของมังคุด 100 ปี คือ จะมีเปลือกบาง มีรสชาติหวานอร่อยกว่ามังคุดทั่วไป โดยลูกจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนักและผิวพรรณจะไม่นวลเนียนเท่าที่ควร แต่มีรสชาติอร่อย  โดยเปิดทำการเวลา 8.00-18.00 น.

ข้อมูลติดต่อ
คุณสมควร ศิริภักดี โทร. 081-761-9497 , 081-991-3233
คุณเจี๊ยบ 083-0627824

ชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านบัวเทิงโฮมสเตย์

ชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรบ้านบัวเทิงโฮมสเตย์

ศูนย์แห่งการเรียนรู้วิถีชีวิตการดำรงชีวิตเพื่อความสุขอย่างพอเพียง การทำการเกษตรผสมผสาน เกษตรปลอดสารพิษ และแหล่งเรียนรู้การทำปุ๋ยหมักจุลินทรีย์ชีวภาพ ประโยชน์และการใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพกับการเกษตร การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการพัฒนาการการเกษตรให้เหมาะสมกับพื้นที่ภาคอีสานที่ร้อนและแห้งแล้ง บ้านบัวเทิง เป็นหมู่บ้านเก่าแก่อายุเกือบ 180 ปี ด้วยความที่สภาพพื้นที่เหมาะสมกับการทำการเกษตร และเพาะปลูก บ้านบัวเทิงจึงสามารถปลูกไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดจากภาคตะวันออกและภาคใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เงาะ และทุเรียน เป็นต้น นอกจากสวนผลไม้แล้วที่บ้านบัวเทิงยังส่วนต่างๆที่มีศักยภาพมากมาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีความสนใจหลากหลาย โดยเปิดทำการทุกวัน เวลา 05.00 น. – 16.00 น.

กิจกรรมการท่องเที่ยวในชุมชน :

  • เรียนรู้การปลูกพืชผักปลอดสารพิษ
  • เรียนรู้การทำปุ๋ยชีวภาพ
  • เรียนรู้หลักเกษตรอินทรีย์
  • เรียนรู้วิถีชุมชน
  • เรียนรู้เทคนิคการปลูกพืชชนิดต่างๆ เดินชมสวนผลไม้ จับปลาลากอวนกับชาวบ้านนำมาทำอาหาร เลือกซื้อผัก ผลไม้ และดอกไม้จากชุมชน 

ผลิตภัณฑ์ชุมชน: พุทรา 3 รส ,มะนาวแป้นพวง, แก้วมังกร และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ

ข้อมูลติดต่อ
ศูนย์การเรียนรู้วิสาหกิจชุมชนบ้านบัวเทิง โทร. 086-2605412

ทำไมต้องทำกิจกรรม CSR ทำแล้วได้อะไร

ใครที่อยู่ใกล้ที่ไหนก็สามารถท่องเที่ยวได้ที่นั่น หรือจะหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่น่าสนใจ หรือสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน เพียงค้นหาคำว่า “ท่องเที่ยวเชิงเกษตร” สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และแอนดรอยด์ ในนั้นจะมีข้อมูลเบอร์ติดต่อและแผนที่ที่สามารถเดินทางสะดวกได้

คลิกดาวน์โหลด ระบบ IOS : https://apple.co/3TVpKh5
คลิกดาวน์โหลด ระบบ Android : https://bit.ly/3Do8lYT

ใครที่สนใจเช่ารถบัสไปแหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้เชิงเกษตร สามารถเช่ารถบัสกับ DASH MV ยินดีให้บริการเช่ารถบัสในราคาย่อมเยาและพร้อมมอบความสุขและความใส่ใจในการบริการทุกขั้นตอนด้วยทีมงานมากประสบการณ์ที่คอยดูแล เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจมากที่สุด ซึ่งทีมงานและพนักงานขับรถทุกคนมีการฝึกอบรบและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการขับขี่อย่างปลอดภัยขั้นสูง การให้บริการลูกค้า และการซ่อมแซมรถเบื้องต้น เพื่อพร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท แดช เอ็มวี จำกัด 

  • ที่อยู่: 39  หมู่ 14 ถนนบางนา-ตราด บางแก้ว บางพลี สมุทรปราการ 10540
  • เบอร์โทร: 092 185 6699
  • Line:  @dashmv
DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

วิถีชีวิตชุมชน : วิถีชีวิตการทำการเกษตร การอยู่อาศัยของชาวบ้านอีสานใต้ ร่องรอยอารยธรรมขอม

การมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยว : ชม ชิม ช้อป แชะ แชร์ ลองปฏิบิติและเรียนรู้ตามฐานเรียนรู้ด้านการเกษตร

รูปแบบการท่องเที่ยวยอดนิยม แล้วการท่องเที่ยวแบบใหนที่คุณชอบ

รูปแบบการท่องเที่ยวยอดนิยม แล้วการท่องเที่ยวแบบใหนที่คุณชอบ

รูปแบบการท่องเที่ยว

สารบัญเนื้อหา

ในปัจจุบันก็มีการจำแนกลักษณะรูปแบบของการท่องเที่ยวออกมาด้วย ทั้งนี้เพื่อที่จำกำหนดเป้าหมายของกลุ่มนักท่องเที่ยวได้อย่างชัดเจน ว่าชอบเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบใหน ซึ่งมีอยู่หลากหลายรูปแบบ แต่โดยหลักๆ ที่องค์การท่องเที่ยวโลก กำหนดรูปแบบไว้มีอยู่ 3 หลัก ซึ่งแต่ละรูปแบบก็แตกยิบย่อยลักษณะและรูปแบบลงไปอีก และสำหรับเพื่อนๆ เหล่าผู้รักการทัศนาจรที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองนั้นชอบหรือจัดอยู่ในการท่องเที่ยวแบบใหน ดังนั้น วันนี้ DASH MV ขอแนะนำรูปแบบการท่องเที่ยวมาให้อ่าน ดังนี้

แนะนำกิจกรรมเล่นแก้ง่วง ระหว่างเดินทางออกทริป

รูปแบบการท่องเที่ยวในแหล่งธรรมชาติ

รูปแบบการท่องเที่ยวในแหล่งธรรมชาติ

การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (ecotourism) คือ การท่องเที่ยวในแหล่งธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นและแหล่งวัฒนธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับระบบนิเวศ โดยมีกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของผู้ที่เกี่ยวของภายใต้การจัดการสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมของท้องถิ่นเพื่อมุ่งเน้นให้เกิดจิตสำนึกต่อการรักษาระบบนิเวศอย่างยั่งยืน และทั้งนี้ผู้ที่เดินทางมาเที่ยวนอกจากได้พักผ่อน แล้วยังได้รับความสาระความรู้ดีๆจากการท่องเที่ยวลักษณะนี้ด้วย ตัวอย่างการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

เดินป่าศึกษาธรรมชาติอ่างกา ดอยอินทนนท์

เดินป่าศึกษาธรรมชาติอ่างกา ดอยอินทนนท์

เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติอ่างกา ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ อ่างกาเป็นแอ่งน้ำขนาดสิบกว่าไร่ อยู่บริเวณยอดดอยอินทนนท์ มีน้ำท่วมขังตลอดทั้งปี โดยระบบนิเวศน์ของอ่างกาเป็นระบบนิเวศน์ที่ไม่เหมือนที่อื่น เนื่องจากอยู่บนที่สูงกว่า 2,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้มีน้ำท่วมขังตลอดทั้งปี มีหมอกปกคลุมตลอด อุณหภูมิเฉลี่ย 12 องศา มีความชื้นสูง พืชที่อยู่ในบริเวณนี้ก็จะมีแต่พืชที่หาชมได้ยาก เช่น ข้าวตอกฤาษี กุหลาบพันปี บนต้นไม้ใหญ่จะถูกปกคลุมไปด้วยมอส เฟิร์น จนแทบหาที่ว่างตามกิ่งไม้ไม่ได้ และยังมีนกป่า นกประจำถิ่นที่หาดูได้ยากด้วย

เดินป่าศึกษาธรรมชาติเขาใหญ่

ศึกษาธรรมชาติเขาใหญ่

เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติเขาใหญ่ การเดินป่าศึกษาธรรมชาติ เป็นการนำเอาความรู้ต่างๆ ในเรื่องของธรรมชาติที่ได้ศึกษามา ให้ได้ไปพบเห็นของจริง อันจะเป็นการเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการพบเห็นธรรมชาติต่างๆ โดยไม่มีการจัดเตรียมจะทำให้ได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลินและตื่นตาตื่นใจอยู่ตลอดเวลา อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่จัดเตรียมไว้ ดังนี้ เส้นทางศึกษาธรรมชาติศูนย์บริการนักท่องเที่ยว – น้ำตกกองแก้ว, เส้นทางศึกษาธรรมชาติดงติ้ว – หนองผักชี, เส้นทางศึกษาธรรมชาติดงติ้ว – มอสิงโต, เส้นทางศึกษาธรรมชาติ กม.33 – หอดูสัตว์หนองผักชี  ,  เส้นทางศึกษาธรรมชาติผากล้วยไม้ – น้ำตกเหวสุวัต, เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกกองแก้ว – น้ำตกเหวสุวัต และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 200 ปี ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกา โดยเส้นทางที่ 1-5 และ เส้นทางที่ 7 มีการเปิดเส้นทางตลอดปีสามารถเริ่มเดินได้ตั้งแต่ 8.00-14.00 น. และเส้นทางที่ 6 จะปิดเส้นทางในช่วงวันที่ 1 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม และจะต้องเริ่มออกเดินทางไม่เกิน 10.00 น.

ศูนย์การศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี

ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี

ศูนย์การศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี เป็นเส้นทางเดินศึกษาป่าโกงกางที่น่าสนใจ และไม่ควรพลาดมาชม เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการฟื้นฟูป่าชายเลนจากนากุ้งร้างเป็นแห่งแรกในประเทศไทย เดิมทีเป็นนากุ้งที่ได้รับสัมปทาน อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองเก่า–คลองคอย ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้วยน้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาที่ปราณบุรี กรมป่าไม้ได้สนองพระราชดำริด้วยการยกเลิกสัมปทานนากุ้ง แล้วรวมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ พัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมเร่งฟื้นฟูป่าชายเลนและกำหนด ให้เป็นพื้นที่เป้าหมายในการปลูกป่าและพัฒนาเป็นศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนในเวลาต่อมา

การท่องเที่ยวเชิงนิเวศทางทะเล

การท่องเที่ยวเชิงนิเวศทางทะเล (marine ecotourism) คือ การท่องเที่ยว อย่างมีความรับผิดชอบในแหล่งธรรมชาติทางทะเลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น และแหล่งท่องเที่ยวที่เกี่ยวเนื่องกับระบบนิเวศทางทะเล โดยมีกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของผู้ที่เกี่ยวของภายใต ้ การจัดการสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมของท้องถิ่น เพื่อมุ่งให้เกิดจิตสำนึกต่อการรักษาระบบนิเวศอยางยั้งยืน ซึ่งการเส้นทางศึกษาธรรมชาติโครงการปลูกป่าชายเลนตามแนวชายฝั่ง ก็เป็นหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างให้คนมีจิตสำนึกและรักษาระบบนิเวศทางทะเล ตัวอย่างการท่องเที่ยวเชิงนิเวศทางทะเล

ศึกษาป่าชายเลนและสัตว์น้ำทางทะเลอ่าวคุ้งกระเบน

ศึกษาป่าชายเลนและสัตว์น้ำทางทะเลอ่าวคุ้งกระเบน

เส้นทางศึกษาป่าชายเลนและสัตว์น้ำทางทะเลอ่าวคุ้งกระเบน จ.จันทบุรี โดยเป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี โดยได้ดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ การจัดการทรัพยากรชายฝั่ง ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพราษฎรของศูนย์ฯ คุ้งกระเบน โดยได้ส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อให้ประชาชนที่สนใจเข้ามาศึกษาสภาพธรรมชาติ ก่อให้เกิดความเข้าใจระบบนิเวศในป่าชายเลนและรู้จักใช้ทรัพยากรเหล่านั้นให้ เกิดประโยชน์สูงสุด  ซึ่งในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติมีพรรณไม้หลากหลายชนิด เช่น โกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ โปรงแดง ป่าสักดอกแดง ป่าสักดอกขาว ลำพูทะเล แสมทะเล เป็นต้น ต้นไม้แต่ละชนิดจะมีป้ายบอกชื่อ ลักษณะ และสรรพคุณของไม้นั้นๆ ไว้ด้วย  รวมถึงเราจะได้เห็นสัตว์แห่งป่าชายเลน เช่น ปลาตีน ปูแสม วิ่งไปมา รวมถึง บรรยากาศในการเดินชมค่อนข้างร่มรื่นและเย็นสบายด้วยต้นไม้ที่ปกคลุมตลอดทาง

ศึกษาธรรมชาติเขาแหลมหญ้า

ศึกษาธรรมชาติเขาแหลมหญ้า

เส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาแหลมหญ้า จังหวัดระยอง ลักษณะภูมิประเทศของเขาแหลมหญ้า เป็นแหลมที่ยื่นออกไปในทะเล มีพื้นที่โล่งกว้าง เป็นเนินทุ่งหญ้าสลับกับหิน ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นได้เนื่องจากลมที่พัดแรงตลอดเวลา โดยเส้นทางศึกษาธรรมชาติแบ่งออกเป็น 9 สถานีด้วยกัน ไล่มาตั้งแต่ แนะนำเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ,ชีวิตกลางวนา ,ห้องเรียนธรรมชาติ ,อุโมงค์ป่า ,มหัศจรรย์แหลมหญ้าน่าชม ,เมื่อลาวาสงบ ,ระบบนิเวศชีวิตน้ำขึ้น-น้ำลง 1 , ระบบนิเวศชีวิตน้ำขึ้น-น้ำลง 2 และสิ้นสุดที่เส้นทางอุทยานในวรรณคดี ซึ่งเส้นทางเดินจะมีทั้งทางเรียบ และมีบางช่วงเป็นเนินขึ้นลงที่ต้องลัดเลาะไปตามโขดหิน ซึ่งตลอดระยะทางกว่า 1.4 กิโลเมตร ที่มีฝั่งหนึ่งเป็นวิวทะเล อีกฝั่งก็เป็นเขาหินสีทอง เดินสามารถเดินเล่นกันแบบเพลินๆ ได้

การท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยา

การท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยา (geo-tourism) คือ การท่องเที่ยวในแหล่งธรรมชาติที่เป็น หินผา ลานหินทราย อุโมงค์โพรง ถ้ำน้ำลอด  ถ้ำหินงอกหินย้อย เพื่อดูความงามของภูมิทัศน์ที่มีความแปลกของการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่โลก  ศึกษาธรรมชาติของหิน ดิน แร่ต่างๆ และฟอสซิล ได้ความรู้ได้มีประสบการณ์ใหม่ บนพื้นฐานการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ  มีจิตสำนึกต่อการรักษาสภาพแวดล้อม โดยประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมต่อการจัดการการท่องเที่ยว ตัวอย่างการท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยา

สระมรกต จังหวัดกระบี่

สระมรกต จังหวัดกระบี่

สระมรกต ตั้งอยู่ใน ตำบลคลองท่อมเหนือ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่นในผืนป่าที่ราบต่ำภาคใต้ ซึ่งสระมรกตกำเนิดมาจากบ่อน้ำผุด มีลักษณะเป็นตาน้ำสีฟ้าอมน้ำเงิน เป็นน้ำพุร้อนมีอุณหภูมิประมาณ 30-50 องศาเซลเซียส เป็นสระน้ำแร่ธรรมชาติ ด้วยความมีแร่ธาติอยู่มาก และได้สะท้อนแสงอย่างที่เห็น ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา เป็นแอ่งน้ำตามธรรมชาติขนาดเล็ก มีฟองอากาศที่ผุดขึ้นมาเหนือน้ำตลอดเวลา สันนิษฐานว่าเกิดจากน้ำที่ซึมออกมาจากใต้ดิน ทำให้ที่แห่งนี้มีน้ำตลอดปีและไหลเป็นลำธารสู่ที่ต่างๆ เป็นสระน้ำสวยใสกลางใจป่าที่มีน้ำใส เป็นสีเขียวอมฟ้าที่เปลี่ยนสีไปได้ตามวันเวลาและสภาพแสง

สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี

สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี

สามพันโบก ตั้งอยู่กลางลำน้ำโขงในเขตพื้นที่บ้านโป่งเป้า บ้านสองคอน อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี เป็นแก่งหินที่โผล่ขึ้นมากลางลำน้ำโขงในช่วงที่น้ำลด โดยที่แก่งหินเหล่านี้ก็จะมีแอ่งน้อยใหญ่ ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของแรงน้ำวน เมื่อนับดูแล้วมีจำนวนมากกว่า 3,000 แอ่ง โดยบริเวณลำน้ำโขงจะเป็นเขตติดต่อกับประเทศลาว ตัวสามพันโบกและจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ จะอยู่ทางฝั่งไทย นักท่องเที่ยวไม่สามารถที่จะข้ามไปขึ้นฝั่งทางประเทศลาวได้ แต่สามารถยืนชมวิวฝั่งลาว รวมทั้งสามารถล่องเรือชมความสวยงามของธรรมชาติฝั่งลาวได้

การท่องเที่ยวเชิงเกษตร

 การท่องเที่ยวเชิงเกษตร (agro tourism) คือ การเดินทางท่องเที่ยวไปยังพื้นที่เกษตรกรรมสวนเกษตร วนเกษตร สวนสมุนไพร ฟาร์มปศุสัตว์และเลี้ยงสัตว์เพื่อชื่นชมความสวยงาม ความสำเร็จและเพลิดเพลินในสวนเกษตร ได้ความรู้มีประสบการณ์ใหม่บนพื้นฐานความรับผิดชอบ  มีจิตสำนึกต่อการรักษาสภาพแวดล้อมของสถานที่แห่งนั้น และยังช่วยกระตุ้นให้รักการทำเกษตรด้วยตัวเองอีกด้วย ซึ่งการท่องเที่ยวเชิงเกษตรเป็นหนึ่งในการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักเดินทางมากที่สุด

จะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันมีการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรมากขึ้น เช่น โครงการสาธิตการเกษตรแบบพอเพียง มีการจัดทำทางเดินบนไร่นา มีที่ถ่ายรูปสวยๆ ทำให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาแวะชม และได้เรียนรู้รวมทั้งได้ซึมซับวิถีการเกษตรไปในตัวด้วย ถือว่าการท่องเที่ยวดังกล่าวได้รับความนิยมและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่นได้อย่างดีทีเดียว
ตัวอย่างการท่องเที่ยวเชิงเกษตร

โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดําริ

โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดําริ

เที่ยวชมโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดําริ จังหวัดเพชรบุรี ตั้งอยู่ใน อ.ท่ายาง จ. เพชรบุรี เกิดขึ้นจากความเอาพระทัยใส่ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9  ที่ทรงมีต่อเกษตรกรในการที่จะพัฒนาส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้ประสบความสำเร็จและสามารถเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน เนื้อที่ภายในโครงการมีทั้งแปลงพืชเศรษฐกิจที่ปลูกหลายชนิด นอกเหนือจากพืชเศรษฐกิจในพื้นที่ ก็ยังมีการปลูกไม้ผล พืชไร่ และพืชผักต่างๆ มีแปลงปลูกข้าว ทั้งข้าวเจ้าและข้าวเหนียว ปลูกยางพารา โดยทั้งหมดนี้จะเน้นไม่ให้มีการใช้สารเคมี หรือหากต้องใช้ก็ต้องมีในปริมาณที่น้อยที่สุด มีฟาร์มโคนม ฟาร์มไก่ และแปลงเกษตรที่จัดเป็นสวนเพื่อให้คนที่แวะมาเยี่ยมชมได้อีกด้วย

โครงการหลวงดอยอินทนนท์

โครงการหลวงดอยอินทนนท์

โครงการหลวงดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ จัดตั้งขึ้นมาโดยพระราชดำริของพระยาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีพระราชประสงค์ที่จะช่วยเหลือชาวเขาให้มีพื้นที่ทำกินเป็นหลักแหล่ง ส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนฝิ่น พร้อมทั้งถ่ายทอดวิชาความรู้ด้านการเกษตรแผนใหม่ เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ปรับปรุงฐานะความเป็นอยู่ของชาวเขาให้ดีขึ้น ตลอดจนป้องกันการบุกรุกทำลายป่าไม้ต้นน้ำลำธาร จุดท่องเที่ยวในโครงการหลวงมีมากมายหลายจุด เช่น สวน 80 พรรษา เป็นสถานที่จัดแสดงขึ้นเพื่อรองรับการศึกษาดูงานของผู้มีความสนใจศึกษาเกี่ยวกับพรรณไม้ดอกเมืองหนาว, สวนหลวงสิริภูมิ เป็นสวนที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อใช้เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์เฟิน ภายในมีน้ำตกขนาดเล็กซึ่งเป็นน้ำตกชั้นล่างของน้ำตกสิริภูมิ, สวนกุหลาบพันปี, โรงเรือนผักไฮโดรโพนิกส์ เป็นต้น

การท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์

 การท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์ (astrological tourism)  คือ การเดินทางท่องเที่ยวเพื่อการไปชมปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวาระ เช่น สุริยุปราคา ฝนดาวตก จันทรุปราคา และการดูดาวจักราศีที่ปรากฏในท้องฟ้าแต่ละเดือน เพื่อการเรียนรู้ระบบสุริยจักรวาล  มีความรู้ความประทับใจ  ความทรงจำและประสบการณ์เพิ่มขึ้น บนพื้นฐานการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ มีจิตสำนึกต่อการรักษาสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมต่อการจัดการร่วมกันอย่างยั่งยืน ตัวอย่างการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม  ห่างจากจังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ 95 กิโลเมตร โดยมีสถานที่ที่จัดกิจกรรมดูดาวและถ่ายภาพทางดาราศาสตร์ที่มีความเหมาะสมหลายแห่ง เช่น จุดชมวิวผาแต้ม เสาเฉลียงผาแต้ม ผาชะนะได เนื่องจากเป็นพื้นที่ลานหินโล่งกว้าง ต้นไม้เตี้ยแคระแกรนไม่บดบังทัศนียภาพ สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้ทั่วบริเวณ มีวิวทิวทัศน์หลากหลายรูปแบบ ห่างไกลจากแหล่งชุมชน ไม่มีแสงสว่างรบกวน จึงมีความมืดสนิท เหมาะแก่การถ่ายภาพทางดาราศาสตร์ เช่น วัตถุในห้วงอวกาศลึก ที่ต้องการความมืดเป็นอย่างมาก

มอหินขาว อุทยานแห่งชาติภูแลนคา

มอหินขาว อุทยานแห่งชาติภูแลนคา

มอหินขาว อุทยานแห่งชาติภูแลนคา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม มีพื้นที่ครอบคลุม 148 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อำเภอเมือง บ้านเขว้า หนองบัวแดง มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน สภาพป่ามีทั้งป่าทึบและป่าโปร่ง เป็นต้นน้ำลำธารของลำห้วยที่ไหลลงสู่แม่น้ำชี มีจุดเด่นหลากหลายให้ได้ไปสัมผัสและชื่นชมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์สุดๆ ที่ปกคลุมด้วยหมอกจางๆ ปกคลุม ซึ่งที่มอหินขาว ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดกางเต็นท์นอนดูดาวที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งในเมืองไทย เพราะในยามกลางคืนที่ไร้ซึ่งแสงไฟเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะได้ออกมาตามหาแสงของดวงดาวระยิบระยับบนท้องฟ้า ท่ามกลางแสงวิบวับของทางช้างเผือกในช่วงเวลา 5 ทุ่มไปจนถึงตี 2

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

รูปแบบการท่องเที่ยวในแหล่งวัฒนธรรม

รูปแบบการท่องเที่ยวในแหล่งวัฒนธรรม

การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์

การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ (historical tourism) คือ การเดินทางท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวทางโบราณคดี และประวัติศาสตร์ เพื่อชื่นชมและเพลิดเพลินในสถานที่ท่องเที่ยวได้ความรู้มีความเข้าใจต่อประวัติศาสตร์และโบราณคดี ในท้องถิ่นพื้นฐานของความรับผิดชอบและมีจิตสํานึกต่อการรักษามรดกทางวัฒนธรรมและคุณค่า ของสภาพแวดลอมโดยที่ประชาชนในท้องถิ่น มีส่วนร่วมต่อการจัดการการท่องเที่ยว ตัวอย่างการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ภายในเกาะเมืองอยุธยา ซึ่งเคยเป็นอดีตราชธานีของชาติไทยที่มีอายุกว่า 417 ปี โดยได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม พร้อมกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) นอกจากนี้ ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยายังมีโบราณสถานที่สำคัญแห่งอื่น ๆ อีก เช่น วัดมหาธาตุ วัดพระราม วัดไชยวัฒนาราม วัดใหญ่ชัยมงคล วัดพนัญเชิง วัดธรรมิกราช เป็นต้น

อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร

อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร

อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรมีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่เมืองโบราณกำแพงเพชร ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง ในเขตอำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร โดยแบ่งออก เป็น ๒ เขต คือ เขตภาย ในกำแพงเมืองมีพื้นที่ ๕๐๓ ไร่ และเขตนอกกำแพงเมืองหรือที่เรียกกันว่า เขตอรัญญิก ตั้งอยู่บนเขาลูกรังขนาดย่อม มีพื้นที่ ๑,๖๑๑ ไร่ อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรประกอบด้วยกลุ่มโบราณสถานขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นศาสนสถานเป็นส่วนมากได้รับการ ประกาศให้เป็น “มรดกโลก” ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2534

การท่องเที่ยวงานชมวัฒนธรรมและประเพณี

การท่องเที่ยวงานชมวัฒนธรรมและประเพณี (cultural and traditional tourism) คือ การเดินทางท่องเที่ยว  เพื่อชมงานประเพณีต่างๆ ที่ชาวบ้านในท้องถิ่นนั้นๆ  จัดขึ้น ได้รับความเพลิดเพลินตื่นตาตื่นใจในสุนทรียะศิลป์เพื่อศึกษาความเชื่อ การยอมรับนับถือ   การเคารพพิธีกรรมต่างๆ และได้รับความรู้มีความเข้าใจต่อสภาพสังคมและวัฒนธรรม   มีประสบการณ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นบนพื้นฐานของความรับผิดชอบและมีจิตสํานึกต่อการรักษาสภาพแวดลอมและมรดกทางวัฒนธรรม  โดยประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมตอการจัดการท่องเที่ยว ยกตัวอย่างเช่น การเที่ยวชมงานประเพณีแห่เทียนพรรษาในจังหวัดอุบลราชธานี,ประเพณีงานลอยกระทงที่จังหวัดสุโขทัย,ประเพณีสงกรานต์ที่จังหวัดเชียงใหม่,ประเพณีไหลเรือไฟ จังหวัดนครพนม,ประเพณีวันสารทเดือนสิบ นครศรีธรรมราช เป็นต้น

การท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตในชนบท

การท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตในชนบท (rural tourism / village tourism) คือ การเดินทางท่องเที่ยวในหมู่บ้าน ชนบทที่มีลักษณะวิถีชีวิต และผลงานสร้างสรรค์ที่มีเอกลักษณ์พิเศษมีความโดดเด่นเพื่อความเพลิดเพลินได้ความรู้ดูผลงานสร้างสรรค์และภูมิปัญญาพื้นบ้าน มีความเข้าใจในวัฒนธรรมท้องถิ่น บนพื้นฐานของความรับผิดชอบและมีจิตสำนึกต่อการรักษามรดกทางวัฒนธรรมและคุณค่าของสภาพแวดล้อม โดยประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมต่อการจัดการการท่องเที่ยว ยกตัวอย่างเช่น การเที่ยวหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าต่างๆทางเหนือของไทย, การเที่ยวชมวิถีชีวิตชุมชนชาวภูไท ในจังหวัดนครพนม เป็นต้น

รูปแบบการท่องเที่ยวในความสนใจพิเศษ

รูปแบบการท่องเที่ยวในความสนใจพิเศษ

การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (health tourism) คือ การท่องเที่ยวในแหล่งธรรมชาติและแหล่งวัฒนธรรมเพื่อการพักผ่อนและเรียนรู้วิธีการรักษาสุขภาพกายใจได้รับความเพลิดเพลิน และสุนทรียภาพ มีความรู้ต่อการรักษาคุณค่า และคุณภาพชีวิตที่ดี มีจิตสำนึกต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่นโดยประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมต่อการจัดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน อนึ่ง การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพนี้บางแห่งอาจจัดรูปแบบเป็นการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพและความงาม (health beauty and spa) ยกตัวอย่างเช่น เที่ยวบ่อน้ำพุร้อน เพื่อบำบัดร่างกาย,การเที่ยวทะเล นอนอาบแดด นวดตัว ทำสปา,การเที่ยวชมป่า เพื่อรับอากาศอันบริสุทธิ์ ก็เป็นการพักผ่อนเพื่อรักษาสุขภาพกายและใจด้วยเช่นกัน

การท่องเที่ยวเชิงทัศนศึกษาและศาสนา

การท่องเที่ยวเชิงทัศนศึกษาและศาสนา (edu-meditation tourism) คือ การเดินทางเพื่อทัศนศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากปรัชญาทางศาสนา หาความรู้ สัจธรรมแห่งชีวิตมีการฝึกทำสมาธิเพื่อมีประสบการณ์และความรู้ใหม่เพิ่มขึ้น มีคุณค่าและคุณภาพชีวิตที่ดีเพิ่มขึ้นมีจิตสำนึกต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมต่อการจัดการการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวบางกลุ่มมุ่งการเรียนรู้วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย เช่น  การทําอาหารไทยการนวดแผนไทย รําไทย มวยไทย การช่างและงานศิลปหัตถกรรมไทย   รวมถึงการบังคับช้างและเป็นควาญช้าง  เป็นต้น

การท่องเที่ยวเพื่อศึกษากลุ่มชาติพันธุ์หรือวัฒนธรรมกลุ่มน้อย

การท่องเที่ยวเพื่อศึกษากลุ่มชาติพันธุ์หรือวัฒนธรรมกลุ่มน้อย (ethnic tourism) คือ การเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่วัฒนธรรมของชาวบ้าน วัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยหรือชนเผาต่าง ๆ เช่น หมู่บ้านชาวไทยโซ่ง หมู่บ้านผู้ไทย  หมู่บ้านชาวกูย หมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง  หมู่บ้านชาวจีนฮ่อ เป็นต้น เพื่อมีประสบการณ์และความรู้ใหม่เพิ่มขึ้นมีคุณคาและคุณภาพชีวิตที่ดีเพิ่มขึ้นมีจิตสำนึกต่อการรักษาสิ่งแวดลอมและวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมต่อการจัดการการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

ทำไมต้องทำกิจกรรม CSR ทำแล้วได้อะไร

การท่องเที่ยวเชิงกีฬา

การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (sports tourism) คือ การเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเล่นกีฬาตามความถนัดความสนใจ ในประเภทกีฬา เช่น กอล์ฟ ดําน้ำ ตกปลา สนุกเกอร์  กระดานโตคลื่น สกีนํ้า เป็นต้น ให้ได้รับความเพลิดเพลินความสนุกสนานตื่นเต้น ได้รับประสบการณ์และความรู้ใหม่เพิ่มขึ้น มีคุณค่าและคุณภาพชีวิตที่ดีเพิ่มขึ้น มีจิตสำนึกต่อการรักษาสิ่งแวดลอมและวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมต่อการจัดการการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

การท่องเที่ยวเชิงกีฬากำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้  ได้แบ่งเป็นประเภทดังนี้ อ่านต่อคลิก…

การท่องเที่ยวแบบผจญภัย

การท่องเที่ยวแบบผจญภัย (adventure travel) คือ การเดินทางท่อง เที่ยวไปยงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีลักษณะพิเศษ ที่นักท่องเที่ยวเขาไปเที่ยวแล้วได้รับความสนุกสนานตื่นเต้น หวาดเสียว ผจญภัย มีความทรงจํา  ความปลอดภัย และได้ประสบการณ์ใหม่ ยกตัวอย่างเช่น การปีนหน้าผา, การเดินป่า, การล่องแก่งไปตามลำแม่น้ำ, การเดินชมถ้ำหินงอกหินย้อย, การลอดถ้ำต่างๆ เป็นต้น

การท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์และฟาร์มสเตย์

การท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์และฟาร์มสเตย์ (home stay & farm stay) คือ นักท่องเที่ยวกลุ่มที่ต้องการใช้ชีวิตใกล้ชิดกับครอบครัวในท้องถิ่นที่ไปเยือนเพื่อการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมท้องถิ่น ได้รับประสบการณ์ในชีวิตเพิ่มขึ้น โดยมีจิตสำนึกต่อการรักษาสิ่งแวดลอมและวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นการจัดการท่องเที่ยวอย่างมีส่วนร่วมของชุมชนในท้องถิ่นที่ยั่งยืน
ตัวอย่างการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ และ ฟาร์มสเตย์ 

บ้านไร่ไออรุณ จ.ระนอง

บ้านไร่ไออรุณ

เป็นที่พักที่ถูกพูดถึงเป็นอันดับต้นๆของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยความสวยงามทางธรรมชาติ บวกกับไอเดียการตกแต่งพื้นที่ของเจ้าของ ทำให้ที่นี่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ภายในฟาร์มสเตย์แห่งนี้ถูกออกแบบไว้ 2 โซนหลักๆ คือ พื้นที่ส่วนกลางที่จัดเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสกับวิถีธรรมชาติ เรียนรู้ความเรียบง่ายของชีวิต รวมถึงยังมีบ้านไม้ 3 ชั้นสำหรับเป็นจุดต้อนรับ และรับประทานอาหารพื้นเมืองฝีมือของ ชาวบ้านในชุมชนแห่งนี้ รวมไปถึงร้านขายสินค้า เกษตร สินค้าทำมือที่รวบรวมไว้เป็นของที่ระลึกอีกด้วย

บ้านทะเลดาว โฮมสเตย์

บ้านทะเลดาว โฮมสเตย์

ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านไร้แผ่นดิน หรือบ้านปากแม่น้ำเวฬุ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี เป็นชุมชนริมทะเลที่มีอายุยาวนานกว่าร้อยปี ใครอยากสัมผัสสูดอากาศบริสุทธิ์ บรรยากาศริมทะเลท่ามกลางวิถีชีวิตชาวประมงต้องมาที่นี่หมู่บ้านไร้แผ่นดิน กิจกรรมไฮไลท์ของบ้านทะเลดาวที่ใครมาต้องห้ามพลาด ได้แก่กิจกรรมตกปลา พายคายัค ไหว้พระวัดบางชัน เที่ยวชมทะเลแหวก นั่งเรือชมฝูงเหยี่ยวแดงนับพันตัวกลางทะเล ชมธรรมชาติป่าชายเลน เที่ยวชมหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ เป็นต้น

แนะนำ 6 ที่พักแบบฟาร์มสเตย์ สัมผัสวิถีชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ อ่านต่อ…

การท่องเที่ยวพำนักระยะยาว

การท่องเที่ยวพำนักระยะยาว (longstay) คือ กลุ่มผู้ใช้ชีวิตในบั้นปลายหลังเกษียณอายุจากการทำงานที่ต้องการมาใช้ชีวิตต่างแดนเป็นหลัก เพื่อเพิ่มปัจจัยที่ห้าของชีวิตคือ การท่องเที่ยว โดยเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเฉลี่ย 3 – 4  ครั้งต่อปี คราวละนาน ๆ อย่างน้อย  1 เดือน

การท่องเที่ยวแบบให้รางวัล

 การท่องเที่ยวแบบให้รางวัล (incentive travel) คือ การจัดนำเที่ยวให้แก่กลุ่มลูกค้าของบริษัทที่ประสบความสำเร็จ  (มีความเป็นเลิศ) ในการขายสินค้านั้นๆ ตามเป้าหมายหรือเกินเป้าหมาย เช่น กลุ่มผู้แทนบริษัทจำหน่ายรถยนต์   ผู้แทนบริษัทจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ผู้แทนบริษัทจาหน่ายเครื่องสำอาง  จากภูมิภาคหรือจังหวัดต่างๆ ที่สามารถขายสินค้าประเภทนั้นได้มากตามที่บริษัทผู้แทนจำหน่ายในประเทศตั้งเป้าหมายไว้เป็นการให้รางวัลและจัดนำเที่ยว โดยออกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าพักแรมและค่าอาหารระหว่างการเดินทางให้กับผู้ร่วมเดินทาง เป็นการจัดรายการพักแรมตั้งแต่  2 – 7  วัน เป็นรายการนำเที่ยวชมสถานท่องที่ต่างๆ อาจเป็นรายการนำเที่ยวแบบผสมผสาน หรือรายการนำเที่ยวในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง

การท่องเที่ยวเพื่อการประชุม

 การท่องเที่ยวเพื่อการประชุม (MICE หมายถึง M=meeting/I= incentive/ C=conference / E=exhibition) เป็นการจัดนำเที่ยวให้แก่กลุ่มลูกค้าของผู้ที่จัดประชุม มีรายการจัดนำเที่ยวก่อนการประชุม (pre-tour) และการจัดรายการนำเที่ยวหลังการประชุม (post-tour)  โดยการจัดรายการท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ ไปทั่วประเทศ  เพื่อบริการให้กับผู้เข้าร่วมประชุมโดยตรง หรือสำหรับผู้ที่ร่วมเดินทางกับผู้ประชุม  (สามีหรือภรรยา) อาจเป็นรายการท่องเที่ยววันเดียว หรือรายการเที่ยวพักค้างแรม 2 – 4 วัน โดยคิดราคาแบบเหมารวมค่าอาหารและบริการท่องเที่ยว

มารู้จักกับ ‘ธุรกิจไมซ์ (MICE)’ ทำไมถึงมีความสำคัญ 

การท่องเที่ยวแบบผสมผสาน

การท่องเที่ยวแบบผสมผสาน เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ผู้จัดการการท่อง เที่ยวคัดสรรรูปแบบการท่องเที่ยวที่กล่าวมาแล้วข้างต้น นำมาจัดรายการนำเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับความแตกต่างระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในระยะยาวนานตั้งแต่  2 – 7 วันหรือมากกว่านั้น เช่น การท่องเที่ยวเชิงนิเวศและเกษตร (eco–agro-tourism) การท่องเที่ยวเชิงเกษตรและประวัติศาสตร์ (agro-historical tourism)  การท่องเที่ยวเชิงนิเวศและผจญภัย (eco-adventure travel)  การท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยาและประวัติศาสตร์ (geo-historical tourism) การท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรม  (agro-cultural tourism) เป็นต้น

นอกจากนี้ในปัจจุบัน การท่องเที่ยวได้พิจารณาจากความต้องการหรือพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเพิ่มเติมทําให้มีรูปแบบการท่องเที่ยวที่มีแนวคิดใหม่ ขึ้นมาเช่น Green tourism ที่คนมาท่องเที่ยวจะต้องการอนุรักษ์ธรรมชาติหรือช่วยลดภาวะโลกร้อน เช่น  การท่องเที่ยวในเกาะสมุย หรือ War tourism  ที่นักท่องเที่ยวต้องการสัมผัสกับอดีตในสมัยสงคราม  เช่น  การท่องเที่ยวสะพานข้ามแม่นํ้าแคว จังหวัดกาญจนบุรีหรือ Volunteer tourism  ที่นักท่องเที่ยวเป็นอาสาสมัครมาช่วยทำกิจกรรมบําเพ็ญประโยชน์ ในสถานที่และเดินทางท่องเที่ยวต่อ เช่น การที่มีอาสาสมัครมาช่วยงานสึนามิในประเทศไทย เป็นต้น

สรุปรูปแบบการท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวในประเทศไทย มีหลากหลายขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเอง และขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างทางสังคมและวัฒนธรรม  ผลของการท่องเที่ยวจะเกิดมิติในแง่บวกหรือลบ ขึ้นอยู่กับนักท่องเที่ยวว่ามีพฤติกรรมอย่างไร

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท แดช เอ็มวี จำกัด 

  • ที่อยู่: 39  หมู่ 14 ถนนบางนา-ตราด บางแก้ว บางพลี สมุทรปราการ 10540
  • เบอร์โทร: 092 185 6699
  • Line:  @dashmv
DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

ที่เที่ยวหน้าฝน เปลี่ยนบรรยากาศให้คุณ สนุกสุดฟินไปกับธรรมชาติ

ที่เที่ยวหน้าฝน เปลี่ยนบรรยากาศให้คุณ สนุกสุดฟินไปกับธรรมชาติ

ที่เที่ยวหน้าฝน

ขอต้อนรับสู่ฤดูฝนอีกครา สายฝนเริ่มโปรยปรายมาให้ความรู้สึกร้อนอบอ้าวของฤดูร้อนที่ผ่านมาได้บรรเทาลง และนับเป็นอีกหนึ่งช่วงนาทีทองของการท่องเที่ยว เพราะเป็นช่วงที่ธรรมชาติได้ฟื้นคืนกลับมาเขียวขจีอีกครั้ง มองไปทางไหนก็เย็นตาสบายใจ บอกเลยว่าน่าเที่ยวไม่แพ้กัน สำหรับใครที่อยากออกไปเที่ยวหน้าฝนแต่ก็คิดไม่ออกว่าจะไปที่ไหนดี งั้นลองมาเช็กลิสต์กันหน่อยดีกว่า

แนะนำกิจกรรมเล่นแก้ง่วง ระหว่างเดินทางออกทริป

สารบัญเนื้อหา

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์

นักท่องเที่ยวคนไหนอยากกางเต็นท์นอนอิงแอบธรรมชาติ ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ป่า แล้วเดินทางไปยังภูสอยดาว ผืนป่าฤดูฝนที่อุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติสีเขียวขจีและเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารอีกหลายสาย ณ  อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว  จ.อุตรดิตถ์ ที่พร้อมเปิดการท่องเที่ยวพักแรม “ลานสน” 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว

ที่นี่มีสถานที่ให้เที่ยวชมทั้งน้ำตกและจุดชมวิว แต่ที่ใครๆ ก็ต่างอยากมาสัมผัสก็คือ “ลานสน” ที่มีผืนป่าธรรมชาติกว่า 1,000 ไร่ มีสภาพพื้นที่เป็นเนินสูงต่ำสลับกัน โดยในช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนของทุกปี จะมีดอกไม้ดินชูช่อออกดอกเต็มทั่วทุ่ง สีสันสวยงามทั้งดอกหงอนนาค ดอกสร้อยสุวรรณา และดอกหญ้ารากหอม ตัดกับสายหมอกสีขาวในยามเช้าทำให้สถานที่แห่งนี้เปรียบได้ดั่งแดนสวรรค์บนดินที่ต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 
โทรศัพท์ : 09 5629 9528 , 09 1024 7633
Facebook : อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว – Phu soi dao National Park

ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ

“ดอกกระเจียว” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ดอกบัวสวรรค์ มีสีชมพูอมม่วงเป็นพืชล้มลุกประเภทหัว จำพวกขิง-ข่าพบขึ้นในพื้นที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จ.ชัยภูมิ ซึ่งดอกกระเจียวจะขึ้นและบานเป็นสีชมพูอมม่วงในช่วงต้นฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมของทุกปีเท่านั้น

ทุ่งดอกกระเจียว

การออกดอกสีชมพูบานเป็นสัญญาณเริ่มต้นของฤดูฝน ครั้งเดียวในหนึ่งปีเท่านั้นที่คุณจะได้สัมผัสกับทุ่งดอกกระเจียวสีชมพูกลางป่าใหญ่ ได้สูดกลิ่นไอดินใกล้ชิดธรรมชาติในช่วงหน้าฝนที่สวยไม่แพ้ฤดูไหนๆ สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมทุ่งดอกกระเจียวควรเดินทางมาในช่วงเช้าจะพบสายหมอกสีขาวลอยละล่องอยู่เหนือดอกสีชมพูสดใส ให้ความรู้สึกสวยงามและน่าอัศจรรย์ โดยทุ่งดอกกระเจียวจะบานเต็มที่ในช่วงเดือนกรกฎาคม

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 
โทรศัพท์ : 0-4405-6141
ค่าบริการรถรางเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียว : ราคา ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 20 บาท 

ยอดเขาเทวดา จังหวัดสุพรรณบุรี

อีกแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก ซึ่งจัดได้ว่าเป็นอีกมุมมองใหม่ในการเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรี เพราะไม่ได้มีแค่ภาพจำ อย่าง แหล่งท่องเที่ยวทางศาสนา วัด ชุมชน วิถีชีวิต หรือเสียงเหน่อของชาวสุพรรณบุรีเท่านั้น แต่คุณรู้หรือไม่ว่าที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ “ยอดเขาเทวดา” อุทยานแห่งชาติพุเตย แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ สูงที่สุดในจังหวัดสุพรรณบุรี ความสวยงามในช่วงฤดูฝน  ทะเลหมอกและป่าเขียวขจี ที่รอให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสประสบการณ์พิชิตยอดเขาเทวดา ระยะทางเดินชัน 800 เมตร แต่รับรองได้เห็นวิว ทิวเขา สุดลูกหูลูกตา คุ้มแน่นอน

ยอดเขาเทวดา

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 
โทรศัพท์ : 035-960-240
ค่าบริการเที่ยวชมยอดเขาเทวดา : ราคา ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท

วนอุทยานหริรักษ์ จังหวัดเลย

ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวธรรมชาติสวย ๆ ไว้สำหรับแคมปปิ้งช่วงหน้าฝนนี้ บอกเลยว่าที่วนอุทยานหริรักษ์เป็นที่ที่เหมาะมาก ๆ เพราะโดยรอบบริเวณมีอ่างเก็บน้ำ โดยมีฉากหลังเป็นวิวทิวทัศน์ของภูเขา ถือว่าเป็นทำเลที่ควรค่าแก่การกางเต็นท์ ให้ธรรมชาติได้โอบกอด และยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้ได้ทำ เช่น ล่องแพ พักผ่อนริมอ่างเก็บน้ำห้วยกระทิง หรือ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมาน ยิ่งถ้าเป็นช่วงหน้าฝนแบบนี้ อากาศจะยิ่งเย็นสบาย มีลมพัดมาเย็น ๆ ชื่นใจ รวมถึงยังมีแพร้านอาหารไว้คอยบริการ เพื่อว่าใครหิวก็จะได้หากินรองท้องกันได้เลย

วนอุทยานหริรักษ์

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 
โทรศัพท์ : 094 797 3010
Facebook : วนอุทยานหริรักษ์ – Harirak Forest Park

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

ล่องแก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี

แก่งหินเพิง ตั้งอยู่ที่ บ้านหนองแหน ตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นหนึ่งในเส้นทางล่องแก่งที่มีระดับความยากง่ายอยู่ที่ 3 ถึง 5 ระดับ บนระยะทางกว่า 4.5 กิโลเมตร ที่ต้องใช้เวลาผจญภัยบนสายน้ำราว 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว แก่งหินเพิง จะสวยมากที่สุดในฤดูของน้ำหลาก หรือ ช่วงประมาณเดือน กรกฎาคมถึงตุลาคม ฤดูฝนเลยเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการล่องแก่งหินเพิง โดยจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเล่นน้ำตามแก่งต่างๆ เป็นจำนวนมากในช่วงนี้

ล่องแก่งหินเพิง

กิจกรรมล่องแก่งหินเพิง ก็เลยเป็นอีกกิจกรรมท่องเที่ยวยอดฮิตในหน้าฝน ที่ แก่งหินเพิง จะมีแก่งหินที่เรียกได้ว่าสนุกจนเสี่ยวสุดๆ ไปเลย เพราะด้วยกระแสน้ำที่ไหลพาเรือยางปะทะเข้ากับโขดหิน ทำให้เกิดเป็นกระแสน้ำวน ผู้นำล่องแก่งเลยจะต้องมีฝีมือและทักษะในการพาย รวมถึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อให้พ้นกับการปะทะกับแก่งหินและป้องกันเรือคว่ำ เวลาที่เราไปเล่นล่องแก่งเลยต้องส่งเสียงดังในการช่วยเป็นกำลังใจให้กับผู้นำล่องแก่งค่ะ ส่วนในบางช่วงที่กระแสน้ำจะเบา เราก็จะได้สนุกไปลำธารน้ำใสๆ ที่สามารถแวะลงเล่นน้ำกันได้

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 
โทรศัพท์ : 08 6092 6529
Facebook : อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ – Khao Yai National Park

น้ำตกปุญญาบาล จังหวัดระนอง

น้ำตกปุญญบาลเป็นน้ำตกที่มีความสูงราว 15 เมตรและสามารถมองเห็นน้ำตกได้จากริมถนนเลยทีเดียว น้ำตกสายนี้เดิมชื่อ น้ำตกเส็ดตะกวด มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่กลับมีน้ำไหลแรงตลอดปี และมีทิวทัศน์สวยงาม โดยน้ำตกมีทั้งหมด 3 ชั้น มีต้นน้ำมาจากลำห้วยเล็ก ๆ ในเขตป่าละอุ่น ป่าราชกูด โดยแต่ละชั้นมีความน่าสนใจแตกต่างกัน ได้แก่ ชั้นที่ 1 ปุญญบาล เป็นชั้นที่สวยที่สุด ลักษณะเป็นสายน้ำไหลตกลงมาตามเชิงชั้นสูงประมาณ 20 เมตร รอบ ๆ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ด้านล่างเป็นแอ่งน้ำตื้น ๆ น้ำตกชั้นที่ 2 เรียกว่าน้ำตกโตนไม้ไผ่ และน้ำตกชั้นที่ 3 เรียกว่าน้ำตกโตนต้นเฟิร์น นอกจากนี้ จากชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 3 มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 300 เมตร ที่จัดทำขึ้นให้เดินได้สบาย ๆ อีกทั้งบริเวณต้นน้ำยังมีต้นพญาไม้ หรือขุนไม้ขนาดโตวัดรอบที่ระดับความสูงเพียงอก

น้ำตกปุญญาบาล

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 
โทรศัพท์ : 08 8447 6371
Facebook : อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี – Lamnam Kra Buri National Park

เกาะเทโพ จังหวัดอุทัยธานี

เป็นเกาะแลนด์มาร์คธรรมชาติสวยๆ ตั้งอยู่กลางแม่น้ำสะแกกรัง ใน จังหวัดอุทัยธานี ลักษณะของเกาะนี้คือ จะคล้ายกับอ่าว มีแม่น้ำปลาชุกชุม โดยเฉพาะ ปลาเทโพ เลยเป็นที่มาของชื่อเกาะนั่นเอง ซึ่งแม้ว่าที่นี่จะมีปลาเทโพเยอะ แต่เมนูขึ้นชื่อและไม่ควรพลาดกลับเป็น ปลาดแรด เรียกได้ว่าเป็นของอร่อยเด็ด  เกาะเทโพนี้เป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชอบปั่นจักรยานท่องเที่ยว หลังจากข้ามสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างตลาดสดเทศบาลและวัดอุโบสถาราม ซึ่งไม่ยาวนักและขนาดเล็กเพียงรถมอเตอร์ไซค์สวนกันได้ บรรยากาศสองข้างจะเป็นป่าไผ่ ไร่ข้าวโพด และทุ่งนาให้บรรยากาศที่สงบร่มรื่น ชาวบ้านที่นี่ทำสวนส้มโอ มีทั้งพันธุ์มโนรมย์ และขาวแตงกวา และยังปลูกมะไฟด้วย

เกาะเทโพ

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 
โทรศัพท์ : 08 6216 3510
ค่าบริการเช่าจักรยานเที่ยวชมเกาะเทโพ : คันละ 40 บาท/วัน

บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน จังหวัดระนอง

“บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน” เป็นบ่อน้ำร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อยู่ติดกับลำธารหาดส้มแป้นที่ไหลผ่านกลางหุบเขาทางตะวันออกของตัวเมืองระนอง ซึ่งเกิดจากแหล่งความร้อนใต้โลกหรือหินหนืดที่อยู่ระดับตื้นกว่าปกติ เนื่องจากบริเวณนี้ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนระนองตามแนวลำคลองหาดส้มแป้นที่ยังมีพลังในการเคลื่อนตัวอยู่ เมื่อฝนตกลงมาน้ำฝนจะซึมลงไปตามรอยแตกแยกของชั้นหิน น้ำก็จะถูกกักเก็บในชั้นหินอุ้มน้ำใต้ดินที่มีความร้อนสูงจากการเปลี่ยนถ่ายความร้อนระหว่างหินหนืด ทำให้น้ำที่กักอยู่ในชั้นหินร้อนขึ้นแล้วเดือดจนเกิดแรงดันลอยขึ้นมาตามรอยแตกแยกของหินหรือรอยเลื่อนขึ้นมาบนผิวดิน น้ำในบ่อเป็นสีใสและฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาขึ้นมานิดๆหน่อย ๆ ไม่มีสาหร่ายเขียวแกมน้ำเงินหรือแบคทีเรียสีขาวทนความร้อนปรากฎอยู่ บริเวณขอบบ่อมีการสะสมตัวของแร่แคลไซด์(เกิดจากสารละลายหินปูน) อุณหภูมิคงที่ประมาณ 65 องศาเซลเซียส อัตราการไหลประมาณ 3.5 ลิตรต่อวินาที

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 
เปิดให้เข้าชม : 05.00-21.00 น.
ค่าบริการแช่บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน : คนละ 40 บาท

เป็นยังไงบ้าง? พอจะเป็นไอเดียเอาไว้สำหรับเที่ยวหน้าฝนได้หรือเปล่า ใครที่อยากจะมีช่วงเวลาแห่งความประทับใจ ลองลองถามเพื่อนๆ หรือครอบครัวแล้วหาเวลาไปแวะเที่ยวกันนะ นอกจากนี้ก่อนไปท่องเที่ยวควรตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง เพราะในบางสถานที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท แดช เอ็มวี จำกัด 

  • ที่อยู่: 39  หมู่ 14 ถนนบางนา-ตราด บางแก้ว บางพลี สมุทรปราการ 10540
  • เบอร์โทร: 092 185 6699
  • Line:  @dashmv
DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

ขับรถอย่างไร ให้ปลอดภัยในช่วงฤดูฝน

ขับรถอย่างไร ให้ปลอดภัยในช่วงฤดูฝน

ปลอดภัยในช่วงฤดูฝน

เมื่อก้าวเข้าสู่กลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ฤดูฝน ผู้ขับขี่จะต้องเผชิญกับความท้าทายบนท้องถนนหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ต้องใช้รถทำมาหากินอย่างพนักงานขับรถที่ต้องใส่ใจในเรื่องของความปลอดภัยมากขึ้น เพราะตอนที่ฝนตกทุกครั้งจะต้องเจอทั้งทัศนวิสัยที่ไม่ชัดเจน พื้นผิวถนนที่เปียกลื่น สิ่งกีดขวางที่มองไม่เห็น และน้ำท่วมขังพื้นถนน ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ แม้ปัจจุบันรถยนต์ที่มีความทันสมัยที่สุดก็ยังไม่สามารถรับรองความปลอดภัยในการขับขี่ได้ปกติในสภาพอากาศที่ย่ำแย่ ดังนั้น หากปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยเมื่อขับขี่บนพื้นถนนที่เปียกลื่นได้

แนะนำกิจกรรมเล่นแก้ง่วง ระหว่างเดินทางออกทริป

สารบัญเนื้อหา

1. ใส่ใจกฎจราจร

ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวัง งดเว้นกิจกรรมอื่นที่ทำให้เสียสมาธิ พร้อมทั้งปฏิบัติตามกฎจราจรโดยเคร่งครัด เช่น ไม่ฝ่าไฟแดง ไม่แช่เลนขวา ไม่ขับเร็วเกินกำหนด ห้ามขับรถโดยประมาทหวาดเสียว หลีกเลี่ยงเปลี่ยนช่องทางเดินรถกะทันหันหรือตัดหน้ากระชั้นชิด ตลอดจนการจอดรถในทางเดินรถหรือไหล่ทาง ในกรณีที่เครื่องยนต์หรือเครื่องอุปกรณ์ของรถขัดข้อง ให้เร่งดำเนินการซ่อมแซมเพื่อนำรถนั้นให้พ้นทางเดินรถโดยเร็วที่สุด โดยให้แสดงเครื่องหมายหรือสัญญาณเตือนในรถคันอื่นสังเกตเห็นได้จากระยะปลอดภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

2. เปิดไฟหน้า ไม่เปิดไฟฉุกเฉิน

การเปิดไฟหน้าช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้ทั้งตัวคุณและผู้ขับขี่รถคันอื่น ได้มองเห็นในสภาพแสงน้อยและฝนตกหนัก ควรเปิดไฟหน้าในสภาวะที่ฝนตกหนัก และไม่ควรใช้ไฟฉุกเฉินยกเว้นเมื่อจอดรถและต้องการให้รถคันอื่นหลบเลี่ยง ถ้ารถของคุณมีไฟตัดหมอก ควรเปิดใช้งาน นอกจากนี้ควรตรวจสอบสภาพใบปัดน้ำฝนให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ใบปัดน้ำฝนที่ฉีกขาดหรือเสียหายจะทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้เกิดคราบน้ำบนกระจกหน้าซึ่งจะลดทัศนวิสัยในการขับขี่

3. เติมลมยางอย่างเหมาะสม

เพราะการที่ยางรถยนต์ที่มีแรงดันลมมากเกินไปจะทำให้ตัวรถลอยตัวเมื่อเคลื่อนที่ การสัมผัสระหว่างหน้ายางและพื้นถนนลดลงทำให้สูญเสียการยึดเกาะ สำหรับยางที่มีแรงดันลมน้อยเกินไปจะทำให้หน้ายางสัมผัสพื้นถนนมากเกินปกติ ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงในการสูญเสียการควบคุมรถบนถนนที่มีน้ำขัง และผู้ขับขี่ควรตรวจสอบดอกยาง ยางที่ฉีกขาด หรือเสียหายจะไม่สามารถรีดน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพและส่งผลเสียต่อการยึดเกาะถนน

4. เพิ่มระยะห่างระหว่างรถเพื่อการเบรก

ผู้ขับขี่ควรลดความเร็วลงเมื่อขับผ่านถนนที่เปียกลื่น และเพิ่มระยะห่างระหว่างรถคันหน้ามากขึ้นอีกเท่าตัว เมื่อเทียบกับการขับบนถนนที่แห้งเพื่อการเบรกอย่างปลอดภัย โดยการชะลอความเร็วยังลดโอกาสการสูญเสียการควบคุมรถบนถนนที่มีน้ำขัง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อดอกยางไม่สามารถรีดน้ำที่อยู่ระหว่างยางและพื้นถนนได้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือยางเส้นใดเส้นหนึ่งหรือหลายเส้นเกิดอาการ

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

5. หากรถลื่นไถลให้ตั้งสติ

เมื่อลอยตัวบนผิวน้ำอาจทำให้ตัวรถและยางลื่นไถล จนส่งผลให้รถสูญเสียการควบคุม ผู้ขับขี่จะรู้สึกว่าพวงมาลัยมีน้ำหนักเบาอย่างกะทันหัน และรถไม่ตอบสนองต่อการควบคุมของพวงมาลัย หรือผู้ขับขี่อาจสังเกตว่ารอบเครื่องยนต์จะเพิ่มขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็วโดยที่ความเร็วไม่เพิ่มขึ้น โดยอาการนี้จะมาพร้อมกับการ กระตุก เนื่องจากยางสูญเสียการยึดเกาะชั่วขณะถือเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ายางรถของคุณเริ่มสูญเสียการควบคุมบนถนนที่มีน้ำขัง

ดังนั้น เมื่อตัวรถเกิดการสูญเสียการควบคุมบนถนนที่มีน้ำขัง ผู้ขับขี่ควรลดความเร็วลงด้วยการผ่อนคันเร่งโดยไม่ต้องเหยียบเบรก รอให้ความเร็วลดลงและให้ยางยึดเกาะถนนอีกครั้ง ถ้าหากรถเริ่มลื่นไถล ผู้ขับขี่ต้องมีสติและควรควบคุมพวงมาลัยไปในทิศทางที่ต้องการให้รถมุ่งไปจนกว่ารถจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ และควรเหยียบคันเร่งด้วยน้ำหนักที่คงที่สม่ำเสมอ ซึ่งการควบคุมรถด้วยความนุ่มนวลนับเป็นปัจจัยสำคัญ

6. หากขับต่อไม่ไหวให้หาที่จอด

ในกรณีที่ฝนตกหนักมากจนไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าได้ชัดเจน ผู้ขับขี่ไม่ควรฝืนขับรถต่อไป เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งทางออกที่ดีให้หาที่จอดรถที่ปลอดภัย เช่น ปั๊มน้ำมัน หรือจุดพักรถทางหลวง เป็นต้น จากนั้นรอจนฝนเบาลงแล้วค่อยเดินทางต่อ แล้วถ้าจำเป็นต้องจอดในทางเดินรถ ควรจอดในลักษณะที่ไม่กีดขวางการจราจร หรือจอดรถให้ชิดไหล่ทางมากที่สุด แล้วเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ขับขี่รถคันอื่นมองเห็นได้ชัดเจนและป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ

7. ขับรถผ่านน้ำท่วมขังต้องระวังเพิ่มขึ้น

ผู้ขับขี่ควรหลีกเลี่ยงการขับรถผ่านถนนที่ไม่สามารถมองเห็นหรือเดินผ่านได้ หรือถนนที่มีน้ำท่วมขังสูงกว่ากึ่งกลางของล้อรถ และควรตรวจสอบว่ารถของคุณสามารถขับขี่ผ่านระดับน้ำได้สูงเท่าใด อีกทั้งน้ำท่วมขังจะบังสิ่งกีดขวางที่อยู่บนถนนซึ่งผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็น ดังนั้นถ้าคุณต้องขับขี่ผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขังขอให้แน่ใจว่าคุณขับอยู่บนถนนและถนนไม่มีความเสียหายใด ๆ ขณะเดียวกันควรเพิ่มความระมัดระวังเมื่อขับขี่บนถนนที่ไม่คุ้นเคยเนื่องจากอาจมีหลุมที่ลึกเกินกว่าที่รถจะผ่านไปได้ ผู้ขับขี่สามารถจอดรถและสังเกตรถคันอื่นว่าสามารถขับผ่านไปได้อย่างปลอดภัยหรือไม่

ทั้งนี้ หากเลี่ยงไม่ได้จำเป็นต้องขับรถผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขัง ควรขับรถบนกึ่งกลางหรือใกล้กับกึ่งกลางของถนน เนื่องจากระดับน้ำจะต่ำที่สุด ใช้เกียร์ต่ำและรอบเครื่องยนต์สูง ควรรักษาความเร็วให้คงที่ ไม่ควรถอนคันเร่งเนื่องจากเครื่องยนต์ที่ลดความเร็วจะทำให้น้ำไหลเข้าสู่ท่อไอเสียและสร้างความเสียหายต่อแคตทาไลติก คอนเวอร์เตอร์ นอกจากนี้ควรขับรถด้วยความเร็วต่ำมาก เพื่อไม่ให้ที่กรองอากาศด้านหน้ารถดูดน้ำเข้าไปในเครื่องยนต์ ถ้าน้ำไหลเข้าสู่ท่อไอเสียหรือเครื่องยนต์จะส่งผลเสียรุนแรงและมีค่าซ่อมแซมสูง

อย่างไรก็ตาม ผู้ขับขี่ควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ขณะฝนตก  และหมั่นตรวจสอบความพร้อมของรถอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะที่ปัดน้ำฝน สภาพยางปัดน้ำฝน ต้องมีประสิทธิภาพสามารถปัดน้ำฝนได้ดี เพื่อให้มีทัศนวิสัยในการมองเห็นที่ชัดเนในขณะขับรถที่มีฝนตกหนัก และหมั่นตรวจสอบสภาพของล้อยาง ซึ่งจะต้องไม่มีรอยฉีกขาด บวม ดอกยางต้องไม่สึกหรอ มีความลึกพอสามารถยึดเกาะถนนและรีดน้ำได้ดี ในขณะขับขี่ที่มีสภาพฝนตกและถนนเปียกลื่น และไม่ว่าจะขับขี่ภายใต้สภาพอากาศแบบใดก็ตาม ผู้ขับขี่ควรมองถนนตลอดเวลา และระมัดระวังในการขับขี่ให้ดี เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

หากใครที่สนใจเช่ารถบัสไปท่องเที่ยว สามารถเช่ารถบัสกับ DASH MV ยินดีให้บริการเช่ารถบัสในราคาย่อมเยาและพร้อมมอบความสุขและความใส่ใจในการบริการทุกขั้นตอนด้วยทีมงานมากประสบการณ์ที่คอยดูแล เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจมากที่สุด ซึ่งทีมงานและพนักงานขับรถทุกคนมีการฝึกอบรบและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการขับขี่อย่างปลอดภัยขั้นสูง เพื่อพร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท แดช เอ็มวี จำกัด 

  • ที่อยู่: 39  หมู่ 14 ถนนบางนา-ตราด บางแก้ว บางพลี สมุทรปราการ 10540
  • เบอร์โทร: 092 185 6699
  • Line:  @dashmv
DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

เลือกวิธีเช่ารถโดยสารอย่างไร ให้ปลอดภัย เพื่อไปทำบุญในวันหยุดยาว

เลือกวิธีเช่ารถโดยสารอย่างไร ให้ปลอดภัย เพื่อไปทำบุญในวันหยุดยาว

วันหยุดยาว

กรมการขนส่งได้แนะนำแนวทางวิธีเลือกเช่ารถโดยสาร เพื่อการเดินทางทำบุญในวันหยุดยาว จะต้องเป็นรถโดยสารป้ายเหลืองที่จดทะเบียนถูกต้อง มีสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน ติดตั้งระบบ GPS Tracking วางแผนการเดินทางอย่างเหมาะสม ตรวจสอบความพร้อมคนขับรถก่อนเดินทาง คาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาขณะโดยสารไปกับรถเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางจะดีกว่า

แนะนำกิจกรรมเล่นแก้ง่วง ระหว่างเดินทางออกทริป

เพื่อให้การเดินทางทำบุญในวันหยุดยาวอย่างปลอดภัย กรมการขนส่งทางบก แนะนำประชาชนที่เดินทางเป็นหมู่คณะ ควรใช้บริการรถโดยสารไม่ประจำทางหรือรถโดยสารเช่าเหมา (ป้ายเหลือง) เสมอ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนนรวมทั้งสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจในการเดินทางด้วยรถโดยสารไม่ประจำทางหรือรถโดยสารเช่าเหมามากยิ่งขึ้น โดยเลือกรถเช่าเหมาเพื่อการเดินทางที่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ ดังนี้

ด้านประชาชน ควรมีการวางแผนก่อนการเดินทางอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงการเดินทางในเวลากลางคืน เลือกใช้บริการผู้ประกอบการขนส่งที่ได้มาตรฐาน รถโดยสารสาธารณะ (ป้ายเหลือง) ต้องจดทะเบียนถูกต้อง มีการจัดทำประกันภัยตามที่กฎหมายกำหนด และไม่มีประวัติการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง นอกจากนี้ ควรเลือกใช้รถที่มีความเหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสารและสภาพเส้นทาง เช่น หากต้องเดินทางในเส้นทางที่คดเคี้ยวหรือลาดชันควรเลือกใช้รถโดยสารชั้นเดียว ในขณะเดินทางผู้โดยสารต้องคาดเข็มขัดนิรภัยและปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ตลอดการเดินทาง

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

ด้านผู้ประกอบการ ต้องหมั่นตรวจสภาพความพร้อมของรถและพนักงานขับรถเพื่อความปลอดภัยตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ตัวรถต้องมีสภาพความสมบูรณ์พร้อมใช้งาน จดทะเบียนเป็นรถโดยสารสาธารณะ (ป้ายเหลือง) ผ่านการตรวจสภาพรถและชำระภาษีถูกต้องตรงตามระยะเวลา ติดตั้ง GPS Tracking และอุปกรณ์ส่วนควบเพื่อความปลอดภัย ได้แก่ เข็มขัดนิรภัย ประตูฉุกเฉิน ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจกครบถ้วน ถูกต้อง และอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน และกำกับดูแลพนักงานขับรถให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและความปลอดภัย

ด้านพนักงานขับรถ ก่อนออกเดินทางต้องมีการศึกษาเส้นทางล่วงหน้า พักผ่อนเพียงพอ ปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ไม่เสพสารเสพติดให้โทษหรือสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ขับรถไม่เกินชั่วโมงการทำงานตามที่กฎหมายกำหนด ต้องเปลี่ยนคนขับหรือหยุดพักขับรถไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมง เมื่อปฏิบัติงานติดต่อกันเป็นเวลา 4 ชั่วโมง มีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้องตามประเภทของรถ ขับรถด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาทและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ด้านมาตรการสาธารณสุขป้องกันโควิด-19 พนักงานขับรถ พนักงานให้บริการ ผู้ประกอบการขนส่ง นักท่องเที่ยวและผู้โดยสารทุกคน จะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยต้องให้ความร่วมมือในการคัดกรองและตรวจวัดอุณหภูมิ การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง

โดยอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า หากผู้ประกอบการดำเนินการไม่เป็นไปตามสัญญาการเช่ารถ เช่น ทะเบียนรถไม่ตรงกับในสัญญา สภาพรถไม่ปลอดภัย คนขับไม่มีใบอนุญาตขับรถหรือใบอนุญาตขับรถไม่ตรงตามประเภทรถ ผู้ว่าจ้างสามารถยกเลิกสัญญาได้ทันที และสามารถเรียกร้องให้ผู้รับจ้างชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ด้วย ในขณะเดินทางผู้โดยสารทุกคนต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาขณะโดยสารไปกับรถ เตือนไม่ให้ผู้ขับรถขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และไม่ควรเร่งให้ขับรถเร็วเพื่อให้ไปถึงจุดหมายปลายทาง หากคนขับฝ่าฝืนกฎหมายหรือขับรถประมาทเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ สามารถแจ้งมายังศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท แดช เอ็มวี จำกัด 

  • ที่อยู่: 39  หมู่ 14 ถนนบางนา-ตราด บางแก้ว บางพลี สมุทรปราการ 10540
  • เบอร์โทร: 092 185 6699
  • Line:  @dashmv
DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

กิจกรรมยามว่างของพนักงานขับรถ DASH MV

กิจกรรมยามว่างของพนักงานขับรถ DASH MV

กิจกรรมยามว่าง

วันนี้ DASH MV มีความลับของพนักงานขับรถแดชมาบอก น้อยคนนักที่จะให้ความสนใจกับชีวิตหลังพวงมาลัยที่ขับไปยังสถานที่ต่าง ๆ ต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถมากกว่าอยู่ในบ้าน แล้วกิจกรรมในช่วงเวลาที่ส่งลูกค้าเรียบร้อย เขาทำอะไรกันบ้างหล่ะ พอมีโอกาส แดชก็เลยแอบตามไปดูพนักงานขับรถ ทำให้รู้เลยว่า พนักงานแต่ละคนต่างก็มีไลท์สไตล์ที่แตกต่างและหลากหลาย แดชขอยกตัวอย่าง 4 กิจกรรมหลัก ๆ ที่พนักงานขับรถแดชมักจะทำกันยามว่าง นั่นก็คือ

แนะนำกิจกรรมเล่นแก้ง่วง ระหว่างเดินทางออกทริป

ทำความสะอาดรถบัส

พนักงานขับรถก็จะทำความสะอาดภายในรถบัส เช่น กวาดพื้น เก็บขยะ ปัดฝุ่นเบาะรองนั่งของผู้โดยสารฯ  เพื่อรองรับการต้อนรับลูกทัวร์ในวันรุ่งขึ้น พนักงานขับรถมักจะทำแบบนี้ทุกครั้ง หลังจากการทำทัวร์เสร็จในแต่ละวัน ให้ผู้โดยสารทุกท่านประทับใจในการใช้บริการ ตลอดระยะเวลาทำทัวร์ แดชแอบกระซิบ “ภายในรถกลิ่นสเปรย์ปรับอากาศหอมมาก ๆ เลย”

ตรวจเช็คสภาพรถเบื้องต้น

กิจกรรมยอดฮิตของพนักงานขับรถทุกๆคนที่ต้องตรวจสภาพรถ เช่น เช็คลมยาง, เช็คความเสียหายของอุปกรณ์ภายในรถ, ฟังเสียงเครื่องยนต์ที่ห้องเครื่อง, เช็คน้ำมัน, เช็คระบบไฟ, เช็คเบรค เป็นต้น ซึ่งพนักงานขับรถแดชทำกันเป็นประจำ เพื่อความมั่นใจของพนักงานเองและความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกท่านที่มาใช้บริการ เช่ารถบัส ของแดชด้วย อันนี้ไม่ได้พูดเกินความเป็นจริงนะ เพราะพนักงานขับรถเขาทำกันจริง ๆ

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

นอนพักสายตา

แน่นอนอยู่แล้วว่าการทำขับรถทั้งวันนั้น ควรพักผ่อนให้เพียงพอถึงจะดีที่สุด ระหว่างรอรับผู้โดยสารหรือหลังทำทัวร์เสร็จ ก็จะเอาเวลาที่เหลือนี้นอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้สายตาได้พักและทำให้ไม่เสี่ยงต่อการหลับในขณะปฏิบัติงานอีกด้วย

ปั่นจักรยาน

สงสัยกันแน่ ๆ เลย ว่าพนักงานขับรถจะเอาจักรยานมาจากที่ไหน พนักงานบางคนจะพกจักรยานไว้ในห้องเก็บสัมภาระ ลองคิดภาพตามว่า ห้องเก็บสัมภาระของรถบัสใหญ่ขนาดไหน ถ้าอยากรู้ก็มาลองเช่ารถบัสกับ DASH MV และ้วมาพิสูจน์ด้วยตัวเองนะ ไม่ใช่แค่ปั่นจักรยานเพียงอย่างเดียว แต่ยังไปวิ่งออกกำลังกายกันด้วย เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงของตนเอง

จากที่ได้ยกตัวอย่างกิจกรรมชีวิตหลังพวงมาลัยไปแล้วข้างต้นนั้น พนักงานขับรถของ DASH MV ยังมีอีกหลายกิจกรรมที่มักจะปฏิบัติกัน แต่นี่เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมของกิจกรรมนั้น ๆ  ถ้าอยากรู้จริงๆ ต้องมาลองใช้บริการเช่ารถบัสของแดช แล้วแอบมาดูกันต่อว่าทำกิจกรรมเพิ่มเติมกันหรือเปล่านะ

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท แดช เอ็มวี จำกัด 

  • ที่อยู่: 39  หมู่ 14 ถนนบางนา-ตราด บางแก้ว บางพลี สมุทรปราการ 10540
  • เบอร์โทร: 092 185 6699
  • Line:  @dashmv
DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

One Day Trip @ PATTAYA  เที่ยวใกล้กรุงเทพชิลๆ ที่พัทยา

One Day Trip @ PATTAYA  เที่ยวใกล้กรุงเทพชิลๆ ที่พัทยา

OneDay-Trip-pattaya

 วันนี้ DASH MV ได้จัดทริปท่องเที่ยวสั้นๆ ที่อยู่ใกล้ในภาคกลางที่สามารถเช่ารถบัสทริปสั้นๆ ไปเที่ยวได้ไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไหร่ แม้จะมีวันหยุดไม่มากสำหรับมนุษย์ทำงาน แต่ก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวง่ายๆ ได้แบบไม่ต้องไปไหนไกลกรุงเทพมากนักอย่าง พัทยา เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถชมทะเลได้ทั้งปีเลยทีเดียว  ให้สายท่องเที่ยวได้เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมในการออกเดินทางไปเสาะหาประสบการณ์ใหม่ๆ ไปเจอะเจอผู้คนใช้ชีวิตสังสรรค์พักผ่อนก่อนจะกลับมาลุยงานกันต่อ และเชื่อว่าใครหลายคนจะต้องได้ความประทับใจกลับมาอย่างแน่นอน

โดยจะเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพ เวลา 09.00 น. มุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรี เพื่อไปพัทยา โดยเช่ารถบัสปรับอากาศ  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 – 2 ชั่วโมง ซึ่งระหว่างทางสามารถ เล่นเกมบนรถบัส เพื่อแก้เบื่อๆ ได้ โดยจะถึงพัทยาประมาณ 11.00 น.

แนะนำกิจกรรมเล่นแก้ง่วง ระหว่างเดินทางออกทริป

สารบัญเนื้อหา

สถานที่แรกที่จะเดินทางไป คือ   เขาพระตำหนัก หรือ เขาพระบาท เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ระหว่างหาดพัทยาใต้กับหากจอมเทียน และด้วยความที่เป็นภูเขาที่ไม่สูงนัก บนยอดเขาจึงถูกสร้างเป็นที่ตั้งของวัดเขาพระบาทที่เงียบสงบ และพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงสถานีวิทยุ ส.ทร.5 ของทหารเรือ โดยมีอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ประดิษฐานอยู่ด้วย และตรงจุดนี้เองถูกสร้างให้เป็นจุดชมวิวของพัทยา ซึ่งเปิดรับวิวของเมืองพัทยาทั้งหมด รวมถึงเห็นทัศนียภาพหาดที่มีเวิ้งโค้งคล้ายวงพระจันทร์ของอ่าวเมืองพัทยาได้อย่างชัดเจน และสมบูรณ์แบบที่สุด จึงทำให้ยอดเขาพระตำหนักแห่งนี้เป็นที่นิยม และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องแวะมาเยี่ยมเยือนเมื่อมาเที่ยวเมืองพัทยา ถ้าใครอยากจะถ่ายรูปสวยเป็นที่ระลึกว่ามาเยือนพัทยา นี่คือหนึ่งในไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด

หลังนั้นนั่งรถบัสเช่าเดินทางไปต่อที่ Coco beach คาเฟ่สไตล์มินิมอล เน้นบรรยากาศอบอุ่นๆ เน้นโทนสีขาวชมพูทั่วร้าน จุดเด่นของที่นี่มีทั้งไอศกรีมโฮมเมดหลากรสชาติ สาวกไอศกรีมจะต้องชอบมาก ที่แนะนำเลยก็คือ รส cocobeach เป็นไอศกรีมรสข้าวหลามที่มี texture ของข้าวเหนียวและถั่วดำสุดนุ่มนวล และยังมีเครื่องดื่มแสนสดชื่นที่มาพร้อมท็อปปิ้งแน่นๆ และเครื่องดื่มสุดพิเศษอีกมากมาย สำหรับไฮไลท์ที่เมื่อมาโคโคบีชแล้วพลาดไม่ได้เลย ก็คือ เซ็ตปิกนิกให้เช่าโดยจะมีตะกร้าที่สามารถเเลือกแซนวิช เครื่องดื่มอิตาเลียนโซดา ชาร้อน และไอศกรีม โดยเราสามารถไปนั่งปิกนิกริมหาดได้

Coco beach คาเฟ่สไตล์มินิมอล

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

หลังออกจาก Coco beach ก็นั่งรถบัสไปต่อกันที่ A’ La Campagne Pattaya ซึ่งเป็นโครงการเติมเต็มความฝันของคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการเดินทางและหลงใหลในศิลปะ ตลอดจนสนใจในวิถีชีวิตและวัฒนธรรม เจ้าของตั้งใจจำลองเป็นหมู่บ้านเล็กๆในชนบทของยุโรป ที่งดงามไปด้วยสถาปัตยกรรม และกลิ่นอายของความมีชีวิตชีวา ภายในโครงการประกอบด้วยโบสถ์, บ้านบาทหลวง, บ้านชาวบ้าน, ลานอเนกประสงค์กลางเมือง, ฟาร์มปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์แนวเกษตรธรรมชาติ เรียกว่ามีจุดให้แวะถ่ายรูปหลากหลายมุม สวยโรแมนติกไม่ต่างจากเวลาเดินทางไปเที่ยวเมืองนอก

A' La Campagne Pattaya

โดยในบริเวณพื้นที่ของอะลาคอมปาณย์ ถูกออกแบบให้เหมือนเป็นหมู่บ้านในชทบททางยุโรป ที่นี่จะมีทั้งบ้าน โบสถ์ ฟาร์ม และลานน้ำพุ ซึ่งแต่ละส่วนก็จะเป็นที่ตั้งของร้านค้า ร้านอาหาร และมุมสำหรับทำกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นจุดแรกเมื่อเรามาถึงแล้วเราจะพบกับเรือนไม้ชั้นเดียวซึ่งเป็นที่ตั้งของ เปอร์ตีมาร์เช่ ร้านขายสินค้าทำมือ ที่แต่ละชิ้นล้วนแต่ทำจากวัสดุจากธรรมชาติ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ออกแบบโดยศิลปินไทยรุ่นใหม่ จึงทำให้แต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์แตกต่างจากที่อื่น ๆ

หลังจากแวะกิน แวะเที่ยวคาเฟ่ ก็ถึวเวลาแวะซื้อของกิน ของฝาก ที่ ตลาดหนองมน ซึ่งเป็นตลาดของฝากที่รู้จักกันมานาน หากเดินทางมาทางบางแสนหรือพัทยา นักท่องเที่ยวมักแวะจอดรถและแวะเดินเที่ยวเล่นและมักจะหิ้วของพะรุงพะรังกลับบ้านกันถึงวันนี้ตลาดหนองมนดูจะคนไม่เยอะมากเท่าแต่ก่อน แต่ตลาดหนองมนยังคงความคลาสสิคอยู่ไม่คลายโดยเฉพาะกับของขึ้นชื่ออย่างข้าวหลามหนองมนที่หอมอร่อย บริเวณริมถนนเราจะเห็นร้านขายข้าวหลามและขนมจากเรียงราย ร้านต่างๆก็จะเห็นการันตีความอร่อยอยู่เหมือนๆ กัน สำหรับคนที่มาครั้งแรกอาจจะประหลาดใจ แต่สำหรับคนที่รู้จักตลาดหนองมนดีจะรู้ว่า จุดเด่นของตลาดหนองมน คือ การที่ของเหมือนๆ กันหมด แนะนำว่าหากมาซื้อควรลองชิมและควรสังเกตสินค้าก่อนซื้อกลับบ้าน หลังจากนั้นก็เดินทางกลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ

ตลาดหนองมน

แนะนำที่พักแบบฟาร์มสเตย์ สัมผัสวิถีชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับทริปเที่ยวพัทยาสั้นๆ นี้  ก็หวังว่าจะไม่มีใครนอนเหงาอยู่บ้าน เพราะนาน ๆ จะได้พักผ่อนสักที พาตัวเองไปพบเจอกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ บ้างมันก็ดีไม่น้อยนะ และหวังว่าจะได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจในการท่องเที่ยว

ใครที่สนใจเช่ารถบัสไปออกทริป สามารถเช่ารถบัสกับ DASH MV การันตีได้เลยว่าคุณภาพเหนือระดับและคุ้มค่ามากที่สุด เป็นบริษัทให้เช่ารถบัสและรถทัวร์ปรับอากาศที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การติดต่อสอบถามจนกระทั่งส่งลูกค้าถึงจุดหมายปลายทางและเดินทางกลับ

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท แดช เอ็มวี จำกัด 

  • ที่อยู่: 39  หมู่ 14 ถนนบางนา-ตราด บางแก้ว บางพลี สมุทรปราการ 10540
  • เบอร์โทร: 092 185 6699
  • Line:  @dashmv
DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

เที่ยวชม 9 วัดงามที่เมืองเพชรบุรี  สำหรับสายบุญ

เที่ยวชม 9 วัดงามที่เมืองเพชรบุรี  สำหรับสายบุญ

เพรชบุรี

เพชรบุรี จังหวัดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ด้วยการเดินทางที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงกว่า วันนี้เราจะพาไปเที่ยวชมวัดงามๆ ในจังหวัดเพชรบุรี ที่ว่างามเพราะศิลปะปูนปั้นฝีมือสกุลช่างเมืองเพชร ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ลวดลายมีความพลิ้วไหว แฝงด้วยปรัชญาและแนวความคิดที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาของช่างปั้น

รวมทั้งมีเรื่องราวในเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมายเลย โดยว่ากันว่าเมืองเพชรบุรีได้รับการขนานนามว่าเป็นอยุธยาที่มีชีวิต เพราะวัดส่วนใหญ่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา และมีความเรืองรองของงานศิลปกรรมหลายแขนงที่มีศูนย์รวมอยู่ในวัดหลายๆ วัด ดังนั้น เราจะพาไปชม 9 วัดในเมืองเพชรบุรี ไปชมกันเลย

แนะนำกิจกรรมเล่นแก้ง่วง ระหว่างเดินทางออกทริป

สารบัญเนื้อหา

วัดมหาธาตุวรวิหาร เพชรบุรี

เริ่มต้นชมวัดแรกที่ วัดมหาธาตุวรวิหาร หนึ่งในวัดสำคัญที่สุดของจังหวัดเพชรบุรีและเป็นวัดเก่าแก่ที่สันนิษฐานว่าน่าจะมีมาตั้งแต่สมัยทวารวดี เนื่องจากมีการค้นพบโบราณวัตถุสมัยนั้นจำนวนมากภายในบริเวณวัด และน่าจะเป็นพระอารามหลวงมาก่อน ทว่าได้ถูกทิ้งร้างไป โดยภาพที่เห็นเด่นชัดถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของวัดนี้ คือ พระปรางค์ 5 ยอดสีขาว มีอายุราว 1,000 กว่าปี ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

วัดมหาธาตุวรวิหาร

โดยจุดที่น่าสนใจก็คือ พระวิหารหลวง ที่สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีหน้าบันที่มีลวดลายปูนปั้นงดงามสะดุดตามาก เมื่อเข้าไปในพระวิหารหลวงจะเห็นภาพจิตรกรรมฝาผนังที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และภาพชุมนุมเทวดาที่มีลีลาอ่อนช้อยงดงาม

ข้อมูล วัดมหาธาตุวรวิหาร เพชรบุรี

  • ที่อยู่ : ตำบลคลองกระแซง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/yGnpAKwpVmPqqpbp8 
  • เปิดให้เข้าชมเวลา 06.00-17.00 น.

วัดพลับพลาชัย เพชรบุรี

เดินจากวัดมหาธาตุไปนิดเดียวก็จะถึง วัดพลับพลาชัย วัดพลับพลาชัยสร้างขึ้นในปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี วัดแห่งนี้เป็นแหล่งรวมงานศิลปะในสกุลช่างเมืองเพชร ความโดดเด่นอยู่ที่ศิลปะปูนปั้นที่ยังคงมีความสมบูรณ์อยู่มาก โดยเฉพาะที่หน้าบัน จะเห็นปูนปั้นลายก้านขด รูปสัตว์ในป่าหิมพานต์ ที่ลีลาพลิ้วไหวเหมือนจะกระโจนออกมาจากหน้าบันให้ได้ ส่วนภายในพระวิหาร ยังจัดเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงหนังใหญ่ที่มีอายุกว่า 100 ปี เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมงานศิลปะชั้นเลิศ

วัดพลับพลาชัย

นอกจากนี้ทางวัดพลับพลาชัย ชุมชนย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี ยังได้อนุรักษ์สืบสานงานศิลปะ การ “ตอกหนังใหญ่” ให้อยู่คู่ชุมชนแห่งนี้ พร้อมทั้งต่อยอดเป็นกิจกรรม “ตอกลาย สร้างศิลป์” ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้สนใจ รวมถึงมีการสอนเชิดหนังใหญ่เบื้องต้นให้กับนักท่องเที่ยวผู้สนใจอีกด้วย

ข้อมูล วัดพลับพลาชัย เพชรบุรี

  • ที่อยู่ :  ตำบลคลองกระแซง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/Y8fi1hmTqpkwE6919
  • เปิดให้เข้าชม : เปิดให้เข้าชมเวลา 08:00 น. – 17:00 น.

วัดเกาะแก้วสุทธาราม

วัดเกาะแก้วสุทธาราม เป็นวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา คนทั่วไปเรียกวัดเกาะแก้วสุทธารามสั้นๆ ว่าวัดเกาะ เพราะเดิมทีมีสายน้ำไหลผ่านรอบด้านทำให้อาณาเขตของวัดมีสภาพเป็นเกาะ สิ่งที่เห็นสะดุดตาคือ พระอุโบสถเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมในสมัยอยุธยาชัดเจน คือ มีประตูด้านละ 2 ช่อง ไม่มีการเจาะช่องหน้าต่าง โดยสถาปัตยกรรมของโบสถ์จะมีลักษณะคล้ายเรือสำเภา หรือแบบตกท้องช้าง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของโบสถ์ของวัดที่สร้างในสมัยอยุธยาที่หาชมได้ยาก

นอกจากนี้วัดนี้เป็นวัดที่มีโบราณสถานมากมายหลายอย่างอยู่ในตัววัดเกาะเช่น เมรุวัดเกาะ วิหาร กุฏิสามห้อง อุโบสถ สิ่งที่โดดเด่น คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณเก่าแก่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองเพชรบุรี มีคุณค่ายิ่งในด้านศิลปะและด้านโบราณคดี

ข้อมูลวัดเกาะแก้วสุทธาราม

  • ที่อยู่ : ตำบลท่าราบ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/a2vTq4w8MKjUD6QY8
  • เปิดให้เข้าชม : เปิดให้เข้าชมเวลา 08.00-17.00 น.

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

วัดพระพุทธไสยาสน์

วัดพระพุทธไสยาสน์ สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา แต่ครั้งเมื่อเสียกรุงแล้ว วัดนี้ถูกปล่อยทิ้งร้าง และได้รับการบูรณะในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

วัดพระพุทธไสยาสน์ (วัดพระนอน)

สำหรับผู้ที่เกิดวันอังคารแล้วควรหาโอกาสสักครั้งเพื่อไปกราบสักการะพระพุทธไสยาสน์แห่งวัดพระนอน ของเมืองเพชรบุรีที่เชื่อกันว่าจะนำพาความรุ่งเรืองมาสู่ชีวิต และพระพุทธไสยาสน์องค์นี้ ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 400 ปีนั้น มีความยาว 43 เมตร มีความสูงจากพระเศียรถึงฐานบรรทม 15 เมตร จัดเป็นพระนอนที่มีขนาดใหญ่ เป็นอับดับ 4 ของประเทศ

ข้อมูลวัดพระพุทธไสยาสน์ (วัดพระนอน)

  • ที่อยู่ : ถนนคีรีรัฐยา ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/VaFXGMhFoZnwJnLa6
  • เปิดให้เข้าชม : เปิดให้เข้าชมเวลา 07.00 – 17.00 น.

วัดสระบัว

วัดสระบัว เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย อุโบสถของวัดนั้นมีฐานโค้งคล้ายเรือสำเภาซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย หน้าบันของอุโบสถ สลักไม้เป็นรูปนารายณ์ทรงอสูร ซึ่งต่างจากที่อื่นๆที่มักสลักเป็นรูปนารายณ์ทรงครุฑ และยังมีลวดลายกนกประดับอยู่รอบๆ​ ซึ่งมีความอ่อนช้อยงดงาม พระอุโบสถมีขนาดเล็กหลังคาซ้อน 2 ชั้น ฐานโค้งแบบท้องเรือสำเภา

วัดสระบัว

จากสภาพที่เห็น วัดยังสมบูรณ์อยู่มาก โดยเฉพาะลวดลายปูนปั้นที่เห็นได้จากทั้งหน้าบัน หรือฐานเสมารอบโบสถ์เรียกว่า “ใบเสมานั่งแท่น” ลักษณะทำเป็นฐานเสมาซ้อนกัน 2 ชั้น มีบัวรองรับใบเสมา ที่ฐานชั้นต่างๆ จะมีปูนปั้นเป็นรูปยักษ์ ครุฑ นรสิงห์แบกใบเสมาอยู่ในแต่ละชั้น แอดอยากให้มาชมวัดกันนะครับ เพราะศิลปะปูนปั้นที่นี่ ถือว่าเป็นศิลปะชั้นเลิศ ถึงกับมีคนกล่าวไว้ว่าหากต้องการชมงานปูนปั้นสมัยอยุธยาต้องมาชมที่วัดสระบัวเลยทีเดียว

ข้อมูล วัดสระบัว

  • ที่อยู่ : ตำบล คลองกระแซง อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/Q78M8MbrWcUv4bu2A   
  • โทร : 089 885 0210

วัดใหญ่สุวรรณารามวรวิหาร

วัดนี้ใหญ่โตสมชื่อ ด้วยมีเนื้อที่กว้างขวางมาก พระอุโบสถจะเป็นสถาปัตยกรรมทรงไทยสมัยอยุธยา มีหน้าบันประดับกระจกสี ประกอบลวดลายปูนปั้นที่งดงามตามสไตล์ศิลปะสกุลช่างเมืองเพชร เมื่อเดินสำรวจรอบโบสถ์จะเห็นฐานเสมามีดอกบัวรองรับ แอดสังเกตว่า หลายๆ วัดในเพชรบุรี เสมารอบโบสถ์จะเป็นเสมาคู่ หรือเสมาซ้อนกัน สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เสมาคู่จะเป็นวัดหลวง เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดพระเชตุพน ส่วนเสมาเดี่ยวหมายถึงวัดราษฎร์

วัดใหญ่สุวรรณารามวรวิหาร

เดินต่อไปอีกไม่กี่ก้าว จะพบพระตำหนักไม้สักหลังงาม เดิมเป็นพระตำหนักในเขตพระราชฐานชั้นในพระราชวังกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าเสือทรงรื้อมาถวายสมเด็จเจ้าแตงโม ซึ่งทรงเป็นพระสังฆราชชาวเพชรบุรีในขณะนั้น เพื่อให้ใช้เป็นศาลาการเปรียญ

ข้อมูล วัดใหญ่สุวรรณาราม

  • ที่อยู่ :  ถนนพงษ์สุริยา ตำบลท่าราบ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/jzkgA6ttdA8FCZ4b8
  • เปิดให้เข้าชม : เปิดให้เข้าชมเวลา 08.00-18.00 น.
  • โทร : 083 566 0149

วัดกำแพงแลง

เดินทอดน่องชมวัดในเมืองเพชรบุรีมาแล้ว 6 วัด ล้วนเป็นวัดที่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาทั้งนั้น ดังนั้นเราจะพาไปชมวัดเก่าแก่อีกแห่งที่ถือเป็นวัดแห่งเดียวของจังหวัดเพชรบุรีที่มีโบราณสถานที่สร้างในยุคขอมเรืองอำนาจ สมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นั่นคือ วัดกำแพงแลง  วัดกำแพงแลงเป็นที่ตั้งของโบราณสถานแบบขอมและเก่าแก่ที่สุดในเมืองเพชรบุรี สันนิษฐานว่าสร้างมาแต่สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่แผ่อำนาจเข้ามาสู่ดินแดนทางภาคกลางของประเทศไทยและเมืองเพชรบุรีเป็นแหล่งสุดท้ายที่แผ่อิทธิพลมาถึง แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์และการตั้งชุมชนมาแล้วอย่างยาวนาน

วัดกำแพงแลง

สันนิษฐานว่าเดิมคงเป็นเทวสถานที่สร้างขึ้นในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เมื่อลัทธิพราหมณ์เสื่อมถอยจึงกลายเป็นวัดในพุทธศาสนา วัดนี้ได้รับการบูรณะในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ยังทิ้งร่องรอยอารยธรรมขอมมาจนถึงทุกวันนี้

ข้อมูลวัดกำแพงแลง

  • ที่อยู่ : ถนนพระทรง ตำบลท่าราบ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/kBrBSzpjQBuS2hop7
  • เปิดให้เข้าชม : เปิดให้เข้าชมเวลา 08.00-18.00 น.

แนะนำที่พักแบบฟาร์มสเตย์ สัมผัสวิถีชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ

วัดถ้ำเขาหลวง

ดถ้ำเขาหลวง เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวเก่าแก่ของเพชรบุรี ตั้งอยู่บนเขาหลวง ภูเขาลูกเล็ก ๆ ที่มีความสูงเพียง 92 เมตร สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งพระองค์มีพระราชประสงค์ที่จะสร้างวัดบนยอดเขา เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเสด็จประพาสมายังถ้ำแห่งนี้ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปที่สวยงาม และยังมีช่องกว้างที่แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามากระทบแนวหินก่อให้เกิดความงดงาม

วัดถ้ำเขาหลวง

การไปเที่ยววัดถ้ำเขาหลวง นักท่องเที่ยวจะต้องเดินลงบันไดเพื่อลงสู่ปากถ้ำ อากาศภายในถ้ำเย็นสบาย ไม่อับชื้น โดยภายในยังมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ รวมถึงพระพุทธรูปอื่น ๆ มากมาย แต่สิ่งที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวเห็นจะหนีไม่พ้น การได้เฝ้าชมลำแสงส่องสว่างลงมาจากเพดานถ้ำ โดยจะส่องลงมายังบริเวณพระพุทธรูปองค์ใหญ่ (หลวงพ่อโต) ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาและฤดูกาล ลำแสงก็จะทำมุมแตกต่างกันไปด้วย ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาเที่ยวที่นี่กันไม่ขาดสาย

ข้อมูลวัดถ้ำเขาหลวง

  • ที่อยู่ : ธงชัยเหนือ เมืองเพชรบุรี เพชรบุรี 30150
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/bSgdidPv87Akc7UP6  
  • เปิดให้เข้าชม : เปิดให้เข้าชมเวลา 08.00-16.00 น.

วัดนอกปากทะเล

วัดนอกปากทะเล เป็นวัดที่มีความสำคัญต่อชาวบ้านในชุมชนมาแต่โบราณค่ะ โดยวัดนอกปากทะเลแห่งนี้มีสิ่งสำคัญในวัดได้แก่ โบสถ์ไม้สักโบราณ อายุเก่าแก่กว่า 100 ปี

วัดนอกปากทะเล

และยังมี วิหารเภตรานิพพานัง ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่งดงามของศิลปะหลายแขนง โดยจะเห็นได้เด่นชัดมากๆ เพราะตัวอาคารเป็นทรงของเรือสำเภาค่ะ ภายในมีภาพเขียนลายรดน้ำลงรักปิดทอง ประดับอยู่ทั่วผนังวิหาร วิจิตรตระการตามาก และมีอุปกรณ์ต่างๆ อย่าง พวงมาลัยเรือ ใบพัด เสากระโดงเรือ มาตกแต่งเพื่อให้เหมือนกับเรือสำเภาจริงๆ อีกด้วย

ข้อมูลวัดนอกปากทะเล

  • ที่อยู่ : ตำบลปากทะเล อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี 76110
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/zA1mntUy6ZMfPDx88
  • เปิดให้เข้าชม : เปิดให้เข้าชมเวลา 08.00-17.00 น.

เห็นวัดในเพชรบุรีแต่ละที่แล้วอยากชวนเพื่อนๆ และ ครอบครัวไปไหว้เลยใช่ไหม ใครที่กำลังมองหาสถานที่ทำบุญใกล้กรุงเทพฯ ก็อยากให้ลองพิจารณาเพชรบุรีกันบ้างนะ เมืองชายทะเลที่มีมากกว่าทะเลจริง ๆ หวังว่าวัดในจังหวัดเพชรบุรีที่เรานำมาเสนอนี้จะโดนใจกันบ้างไม่มากก็น้อย

ใครที่สนใจเช่ารถบัสไปไหว้พระ สามารถเช่ารถบัสกับ DASH MV การันตีได้เลยว่าคุณภาพเหนือระดับและคุ้มค่ามากที่สุด เป็นบริษัทให้เช่ารถบัสและรถทัวร์ปรับอากาศที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การติดต่อสอบถามจนกระทั่งส่งลูกค้าถึงจุดหมายปลายทางและเดินทางกลับ

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท แดช เอ็มวี จำกัด 

  • ที่อยู่: 39  หมู่ 14 ถนนบางนา-ตราด บางแก้ว บางพลี สมุทรปราการ 10540
  • เบอร์โทร: 092 185 6699
  • Line:  @dashmv
DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ

กระตุ้นความสดชื่นให้ชุ่มฉ่ำ กับจุดเช็คอินชุ่มฉ่ำในช่วงหน้าฝน

กระตุ้นความสดชื่นให้ชุ่มฉ่ำ กับจุดเช็คอินชุ่มฉ่ำในช่วงหน้าฝน

ท่องเที่ยวช่วงหน้าฝน

ฤดูฝนกำลังจะเข้ามาแทนที่ธรรมชาติเริ่มกลายเป็นสีเขียวชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝนที่ตกลงมา ถึงแม้ฤดูฝนจะเป็นฤดูที่หลายๆ คนไม่อยากเที่ยว ไม่อยากเดินทาง ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดไกลๆ อาจเป็นอะไรที่ไม่ค่อยสะดวกมากนัก แต่ก็ใช่ว่าหน้าฝนจะไปเที่ยวไม่ได้เลยเสียเมื่อไร วันนี้เราจึงเอาจุดเช็คอินชุ่มฉ่ำในช่วงหน้าฝนมาฝากเพื่อนๆ ลองตามมาดูเลยว่า จะมีที่ไหนบ้าง

สารบัญเนื้อหา

แนะนำกิจกรรมเล่นแก้ง่วง ระหว่างเดินทางออกทริป

เช็คอินภาคเหนือ

บ้านป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่

บ้านป่าบงเปียง เป็นพื้นที่ของนาขั้นบันไดสวยๆ ที่ตั้งอยู่ใน อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเราจะสามารถมองเห็นวิวสวยๆ ของท้องทุ่งนาสีเขียวบนเนินภูเขาสูงพร้อมกับภูเขาที่อยู่สลับซับซ้อนกันไปได้แบบปังๆ เลยค่ะ ยิ่งถ้ามาในช่วงฤดูฝน หรือ ปลายฝนต้นหนาวด้วยแล้วล่ะก็ เป็นช่วงที่เหมาะมากๆ กับการมาสัมผัสบรรยากาศของที่นี่เลย บอกเลยว่ารูปเพียบวิวสวยแน่นอน  ส่วนไฮไลท์ของ บ้านป่าบงเปียง แห่งนี้ ก็คือวิวของ ทุ่งนาขั้นบันได นั่นเอง ถ้าอยากเห็นสีเขียวขจีทั่วภูเขา แนะนำว่าต้องมาช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม ของทุกปีเลย เพราะถ้ามาหน้าอื่นๆ นาข้าวก็จะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ตามฤดูกาล

ข้อมูล บ้านป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่

  • ที่อยู่ : ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/jWGqT4YCZioYQ9517 
  • เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน

สะพานซูตองเป้ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

สะพานซูตองเป้ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

สะพานซูตองเป้ ตั้งอยู่ที่บ้านกุงไม้สัก อำเภอเมืองฯ จังหวัดแม่ฮ่องสอน  ห่างจากตัวเมืองประมาณ 8 กิโลเมตร มีความกว้าง 2 เมตร ยาวประมาณ 500 เมตร เป็นสะพานไม้ซึ่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมอีกแห่งหนึ่ง  ซูตองเป้ เป็นภาษาไทใหญ่แปลว่า อธิษฐานสำเร็จ หรือบางคนก็บอกว่าแปลว่า ความสำเร็จ  ซึ่งมีความเชื่อกันว่า หากได้มายืนอยู่กลางสะพานแล้วอธิษฐานขอความ ความสำเร็จใดๆ ก็จะพบกับความสมหวัง นับว่าเป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สะพานซูตองเป้  เป็นสะพานที่เกิดจาก ความศรัทธาและการร่วมแรงร่วมใจของพระภิกษุสงฆ์และชาวบ้านกุงไม้สักที่ต่างก็ช่วยกันลงแรงสานพื้นสะพานด้วยไม้ไผ่ทอดยาว ไปบนที่นาของเจ้าของที่อุทิศผืนนาถวาย  โดยสร้างเพื่อเชื่อมต่อระหว่างสวนธรรมภูสมะและหมู่บ้านกุงไม้สัก ข้ามผ่านทุ่งนา และแม่น้ำสายเล็กๆ เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์และชาวบ้านที่อยู่อีกฝั่งได้ใช้สัญจรไป มาระหว่างหมู่บ้านได้สะดวกยิ่งขึ้น

ข้อมูล สะพานซูตองเป้ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

  • ที่อยู่ : บ้านกุงไม้สัก หมู่ 2 ตำบลปางหมู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/WCERyPaX5DCnpuXF8
  • เปิดให้เข้าชม : สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน

ลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก

ลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก

ลำน้ำเข็ก มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาในจังหวัดเพชรบูรณ์ ทางด้านอำเภอเขาค้อ ไหลผ่านอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เป็นน้ำตกศรีดิษฐ์ และน้ำตกแก่งโสภา  ไหลผ่านอำเภอวังทองไปรวมกับแม่น้ำน่านที่อำเภอบางกระทุ่ม ช่วงที่เหมาะสมสำหรับการล่องแก่งในลำน้ำเข็ก คือ ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม จุดเริ่มต้นการล่องแก่งลำน้ำเข็กส่วนใหญ่จะอยู่ในเขต อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับ อ.เขาค้อ แต่รีสอร์ทหลายแห่งบนเขาค้อ มักจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา เพื่อบริการนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝนที่มีน้ำหลากและกระแสน้ำเหมาะสำหรับการล่องแก่ง  เพื่ออำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวชมเขาค้อ

ในช่วงฤดูฝนลำน้ำเข็กมีกระแสน้ำที่ค่อนข้างหลากหลาย ตามลักษณะของโค้งน้ำ ตั้งแต่การไหลเอื่อยไปตามแนวลำธารเรียบๆ จนถึงเชี่ยวกรากกลางแก่งหินในลำน้ำ ความยากของการล่องแก่งมีให้เลือกตั้งแต่ระดับง่ายมากจนถึงระดับยากที่สุด จึงเป็นที่ท้าทายของนักผจญภัยให้มาทดสอบความกล้าหาญ ดังนั้น การล่องแก่งที่นี่จึงขึ้นชื่อเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

ข้อมูล ลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก

  • ที่อยู่ : บ้านทรัพย์ไพรวัลย์ ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง เทศบาลนครพิษณุโลก
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/cksWWU22csMbrpkD9
  • เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.
  • โทร : 0-5525-2742-3 หรือ Call Center 1672

เช็คอินภาคกลาง

ทุ่งโปรงทอง จังหวัดระยอง

ทุ่งโปรงทอง จังหวัดระยอง

ทุ่งโปรงทอง  ตั้งอยู่ในเขตชุมชนบ้านแสมภู่ ปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง มีพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ซึ่งแต่เดิม เป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านทำการประมง เลี้ยงกุ้ง ทำการเกษตร ทำสวนผลไม้ จนกระทั่งทรัพยากรธรรมชาติในบริเวณนี้ ได้ถูกทำลาย และสิ่งแวดล้อมป่าชายเลนเสื่อมโทรมลง เทศบาลตำบลปากน้ำประแสได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่พัฒนาป่าชายเลนผืนที่ใหญ่ที่สุดของจ.ระยอง ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์และศึกษาเรียนรู้ควบคู่กันไป โดยสร้างสะพานเดินศึกษาธรรมชาติเป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ทุ่งโปรงทอง ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจในเรื่องระบบนิเวศน์ของป่าชายเลน ได้เห็นความสวยงามตามธรรมชาติของป่าโกงกาง ไม้โปรง และไม้ริมชายฝั่ง จุดเด่น คือต้นโปรงที่ขึ้นหนาแน่นอยู่เต็มพื้นที่สะท้อนสีเขียวอ่อน จนกลายเป็นทุ่งโปรงทองที่สวยงามแปลกตา

ข้อมูล ทุ่งโปรงทอง จังหวัดระยอง

  • ที่อยู่ : เขตชุมชนบ้านแสมภู่  ปากน้ำประแส อำเภอแกลง  จังหวัดระยอง
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/eMEmc41nigFTNw5CA
  • เปิดให้เข้าชม : 06.00 – 18.00 น.

สนใจเช่ารถบัส ติดต่อสอบถามข้อมูล

บางกระเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ

บางกระเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ

บางกระเจ้า พื้นที่ของบางกะเจ้าถูกล้อมรอบด้วยแม่น้ำเจ้าพระยาเกือบจะทั้งหมด แถมยังมีความเขียวชอุ่มเต็มพื้นจนกลายเป็นแหล่งผลิตโอโซนติดอันดับโลก บางกระเจ้าเป็นชุมชนที่ยังคงมีวิถีชีวิตแบบชาวบ้าน แวดล้อมด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์  ซึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยม คือ ปั่นจักรยานสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ แวะตามจุดท่องเที่ยวระหว่างทาง ทั้งตลาด สวน และร้านคาเฟ่น่านั่งตามเส้นทางหลายร้าน ให้ได้ สนุกและพักผ่อนมากมาย  อิ่มท้อง ที่จะทำให้เราสามารถเก็บความประทับใจได้ ในช่วงหน้าฝนนั้นต้นไม้จะอุดมสมบูรณ์ ความชุ่มชื้น จะอบอวลไปทั้วบางกระเจ้า ปั่นจักรยานรับอากาศเย็นสบายเรียกได้ว่า ผ่อนคลายมากๆ นอกจากปั่นจักรยานที่บางกระเจ้ายังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ให้ได้เลือกนั่งพักผ่อน หากใครต้องการหาที่เที่ยวง่ายๆใกล้กรุงฯ ก็แนะนำที่บางกระเจ้าแห่งนี้เลย

ข้อมูล บางกระเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวอยู่ในท้องที่อำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ และอำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ เป็นอุทยานแห่งชาติที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นแนวเขตกั้นระหว่างภาคอีสานและภาคเหนือ สภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นเทือกเขาสูง มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นต้นน้ำลำธาร มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง ความแปลกตาของป่าผืนนี้คือ ป่าสน ที่อายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี ทำให้ต้นสนที่นี่สูงลิบตา 30-40 เมตร เรียงรายตัดกับพื้นหญ้าเขียวขจีบนภูเขาเพชรบูรณ์ที่สลับซับซ้อน ผสมกับอากาศหนาวเย็นปกคลุมตลอดปี ชวนให้นักท่องเที่ยวเร่งฝีเท้าเข้ารับความสดชื่นในป่าผืนนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่รู้เบื่อ

ข้อมูล อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์

  • ที่อยู่ : ตำบลน้ำหนาว อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/VLWLEh4pd7DFNdrw7   
  • เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.
  • ค่าเข้าชม : คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
  • ค่าเข้าชม : ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
  • โทร : 0-5681-0724 , 0-81962-6238
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว

เช็คอินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ

ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ

ทุ่งดอกกระเจียวไทรทอง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติไทรทอง ในเขตพื้นที่ของอำเภอหนองบัว
ระเหว อำเภอเทพสถิต อำเภอภักดีชุมพล และอำเภอหนองบัวแดง ชัยภูมิ  โดยเริ่มแบ่งบานในช่วง กลางก.ค.-ส.ค. ทุ่งดอกกระเจียวไทรทอง เป็นทุ่งดอกกระเจียวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดชัยภูมิ โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆมีเส้นทาง เดินชมที่สะดวกเดินง่ายผ่านป่าเต็งรังสลับกับ จุดชมวิวตามแนวผาให้ชมตลอดทาง

การเดินทางไปชมทุ่งดอกกระเจียวต้องใช้บริการรถของอุทยานฯ โดยเสียค่าบริการไปกลับคนละ 60 บาท หรือจะเหมาะไปกลับเที่ยวละ 600 บาท เพื่อไปยังจุดเริ่มเดินเท้าชมทุ่งดอกกระเจียวกลุ่มต่างๆ  รวมระยะทางเดินชม ทุ่งดอกกระเจียวไป กลับ ประมาณ 4 กิโลเมตร โดยทุ่งดอกกระเจียวเป็นทุ่งที่มีขนาดใหญ่พอสมควร มีต้นเต็งรังที่มีรุปร่างสวยงามเหมือนกับ งานศิลปะให้ชมมากมาย หากเป็นช่วงที่หมอกลงต่ำยิ่งทำให้เหมือนภาพวาด

ข้อมูล ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีอาณาเขตครอบคลุม 11 อำเภอของ 4 จังหวัด คือ จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครนายก ได้รับสมญานามว่าเป็นอุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียนเป็น ป่าผืนใหญ่ ตั้งอยู่ในเทือกเขาพนมดงรัก ในส่วนหนึ่งของดงพญาไฟหรือดงพญาเย็นในอดีต ประกอบด้วยขุนเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนหลายลูกเป็น แหล่งกำเนิดของ ต้นน้ำลำธารที่สำคัญหลายสาย เช่น แม่น้ำนครนายก แม่น้ำมูล อุดมสมบูรณ์ ในฤดูฝนสภาพป่าก็จะชุ่มฉ่ำ ป่าไม้ทุ่งหญ้าเขียวขจีสดสวย มีที่เที่ยวมากมาย น้ำตกทุกแห่งไหลแรงส่งเสียงดังก้องป่า ให้ชีวิตชีวาแก่นักท่องเที่ยวมากๆ ทีเดียว

ข้อมูล อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

แนะนำที่พักแบบฟาร์มสเตย์ สัมผัสวิถีชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ

ภูสิงห์หรือหินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ

ภูสิงห์หรือหินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ

หินสามวาฬ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดบึงกาฬ ด้วยลักษณะที่โดดเด่นคือเป็นกลุ่มภูเขาหินทรายขนาดมหึมาสามก้อนอายุเก่าแก่ราว 75 ล้านปียื่นออกมาจากแง่งผา กลุ่มหินเหล่านี้เกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก กระบวนการกัดกร่อนของหินทราย และอีกหลายปัจจัยจากธรรมชาติ จนเกิดเป็นหน้าผาลักษณะแปลกตา มองจากมุมสูงดูคล้ายปลาวาฬสามตัว พ่อ แม่ ลูก กำลังแหวกว่ายอยู่กลางผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ อันเป็นที่มาของชื่อ “หินสามวาฬ”

จุดชมวิวที่สวยงามโดดเด่น คือ วาฬพ่อ โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ขึ้น เรียกได้ว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่สวยงามของบึงกาฬ นักท่องเที่ยวสามารถยืนชมทัศนียภาพของป่าภูวัว ห้วยบังบาตร แก่งสะดอก หาดทรายแม่น้ำโขง รวมถึงภูเขาเมืองปากกระดิ่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้

ข้อมูล ภูสิงห์หรือหินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ

  • ที่อยู่ : บ้านนนไทรทอง ตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/Z3XXMjuXUZ9b61an7  
  • เปิดให้เข้าชม : 05.30-17.00 น.

เช็คอินภาคใต้

อุทยานธรรมเขานาในหลวง จังหวัดสุราษฏร์ธานี

อุทยานธรรมเขานาในหลวง จังหวัดสุราษฏร์ธานี

แน่นอนว่าหน้าฝนแบบนี้คงไม่เหมาะเท่าไหร่นักกับการไปเที่ยวทะเล ซึ่งข้อนี้อาจทำให้การท่องเที่ยวในภาคใต้นั้นซบเซาลงไปบ้าง แต่จริงๆ แล้วภาคใต้ของเรานั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มากกว่าการไปทะเลอยู่อีกมากมาย อุทยานธรรมเขานาในหลวง เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวหน้าฝน ที่ตอกย้ำถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในภาคใต้ อุทยานธรรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาในยามเช้ามีทะเลหมอกที่งดงามมากๆ และเป็นอีกหนึ่งจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งเมื่อประกอบกับสิ่งปลูกสร้างภายในอุทยานธรรมแล้วทำให้ที่นี่เป็นโลเคชั่นในการท่องเที่ยวและถ่ายรูปที่สวยงามดูแปลกตามากๆ หากมีโอกาสไปเที่ยวสุราษฏร์ธานีอย่าลืมไปพิสูจน์ความสวยงามนี้กัน

ข้อมูล อุทยานธรรมเขานาในหลวง จังหวัดสุราษฏร์ธานี

ภูเขาหญ้า จังหวัดระนอง

ภูเขาหญ้า จังหวัดระนอง

ภูเขาหญ้า ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง ระนอง เป็นภูเขาที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นมีแต่ต้นหญ้าปกคลุมแนวเขาที่ทอดตัวจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ภูเขาที่เต็ม ไปด้วยหญ้าต่างสีต่างวันเวลาและเนินเขางดงาม ในช่วงฤดูแล้งภูเขาหญ้าจะแปรเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวยิ่งในช่วงในตกใหม่ๆอาจมีโอกาสได้แห่งของสายหมอกฝนลอยไปมาอีกด้วย  จึงนิยมเรียกกันว่า “ภูเขาหญ้าสองสี” การชมภูเขาหญ้านอกจากจะชมได้จากลานกว้างด้านล่างแล้ว ยังสามารถขึ้นไปชมวิวในมุมสูงมีทางราบเชิงเขา มีทางเดินเท้าสำหรับนักท่องเที่ยวขึ้นสู่บนสันเขาเพื่อชมทิวทัศน์โดยรอบ ซึ่งภูเขาแต่ละลูกไม่สูงมาก สามารถเดินเท้าขึ้นไปตามทางจากลูกนี้เดินต่อไปยังอีกลูกซึ่งเชื่อมต่อกัน

ข้อมูล ภูเขาหญ้า จังหวัดระนอง

  • ที่อยู่ : หมู่1 ตำบลหงาว อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/kPDY4cuWNqsSrtXj8

น้ำตกกรุงชิง จังหวัดนครศรีธรรมราช

น้ำตกกรุงชิง จังหวัดนครศรีธรรมราช

น้ำตกกรุงชิง เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของ จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มาจากคลองกรุงชิง ที่ไหลตัดผ่านหุบผาหินแกรนิต ตามความลาดเอียงของภูเขา ทำให้กลายเป็นชั้นน้ำตกที่สวยงดงาม สามารถเที่ยวชมน้ำตกได้มากถึง 7 ชั้นด้วยกันแต่บริเวณของหนานมัดแพและหนานฝนแสนห่าจะเป็นชั้นที่มีความสวยงามที่สุด โดยน้ำตกกรุงชิง ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติสูงมาก เป็นป่าดิบชื้นที่แน่นทึบตั้งแต่ราบต่ำถึงเชิงเขา ทำให้ที่นี่นับเป็นแหล่งดูนกที่น่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวรรค์ของนกแดนใต้”

ข้อมูล น้ำตกกรุงชิง จังหวัดนครศรีธรรมราช

  • ที่อยู่ : น้ำตกกรุงชิง อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ
    จังหวัดนครศรีธรรมราช
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/aoRReveNBHQSWXms7  
  • เปิดให้เข้าชม : 08.30-16.30 น.
  • ค่าเข้าชม : คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ,
  • ค่าเข้าชม : ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการแนะนำการเดินทางสำหรับที่เที่ยวหน้าฝนใกล้กรุงเทพฯ เอาใจนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนวันลาน้อย เพราะอย่างน้อยที่สุดหน้าฝนนี้ก็จะได้ไม่ต้องนอนเบื่ออยู่แต่ที่บ้าน ลองเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวช่วงหน้าฝนกับสถานที่ที่เราเสนอไปดู รับรองเลยว่าหน้าฝนจะเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่คุณจะต้องชอบที่สุดอย่างแน่นอน

หากใครที่สนใจเช่ารถบัสไปเช็คอินตามจุดต่างๆ ในช่วงหน้าฝนนี้ สามารถเช่ารถบัสกับ DASH MV การันตีได้เลยว่าคุณภาพเหนือระดับและคุ้มค่ามากที่สุด เป็นบริษัทให้เช่ารถบัสและรถทัวร์ปรับอากาศที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การติดต่อสอบถามจนกระทั่งส่งลูกค้าถึงจุดหมายปลายทางและเดินทางกลับ

ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท แดช เอ็มวี จำกัด 

  • ที่อยู่: 39  หมู่ 14 ถนนบางนา-ตราด บางแก้ว บางพลี สมุทรปราการ 10540
  • เบอร์โทร: 092 185 6699
  • Line:  @dashmv
DASH MV
บริการเช่ารถบัส รถโค้ช ขนาด 39-45 ที่นั่ง รถที่ให้บริการเป็นรถที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นรถใหม่ทุกคัน มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลและมีระบบความปลอดภัยสูง เพราะเราใส่ใจเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก
บริษัทเช่ารถบัส
บริการเช่ารถบัส

สำหรับผู้ที่สนใจ

ทางเรามีบริการให้เช่ารถบัส
ทั้งแบบรายวัน และรายเดือน

หมวดหมู่บทความ